“สอดแนมการเมือง”
โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
“อนาคตชาติในมือ-บิ๊กตู่” เกือบสองปี นายกฯ “บิ๊กตู่” ได้รับทั้ง “ดอกไม้” และ “ก้อนหิน” ขณะที่ชาติและประชาชนได้อะไรนั้น ขึ้นกับมุมมอง-ข้อมูล-ความรู้ของแต่ละคน
แต่จะด่วนสรุปอะไรแบบ 100% คงยังไม่ได้แน่นอน เพราะหนังไทยเรื่อง“รัฐประหารเหลี่ยม-ภาค 2” นำแสดงโดยพระเอกอารมณ์ผันผวน“บิ๊กตู่” ยังฉายอยู่หรือยังไม่ลาโรง ดัง “รัฐประหารเหลี่ยม-ภาค 1” แสดงโดย “บิ๊กบัง” ซึ่งหนังที่จบแบบห่วยแตกจนถูกคนดูด่าตรึม เพราะเป็น “รัฐประหาร-เสียของ-เยี่ยวไม่สุด-มวยล้มต้มคนดู”
รัฐประหาร “บิ๊กบัง” เปิดฉาก “รับดอกไม้” จนหน้าบาน แต่ตอนจบถูก “ก้อนหิน” ขว้างใส่ จนหน้าแหกแตกยับเยินชนิด “หมอไม่รับเย็บ” เพราะมีแต่ผลงานทำตามระบบราชการ แต่การปราบกลุ่มคนชั่วคอร์รัปชั่นโกงชาติและล้มเจ้านั้น-ไม่ได้เรื่อง เพราะดันแอบไป “สมานฉันท์” กับขบวนการคนชั่ว
แม้จะมีการตั้ง “คตส.” ปราบคนโกงชาติ แต่รัฐบาลของคณะรัฐประหารยุคนั้น ไม่ให้ความร่วมมือกับคตส.เท่าที่ควร ทำให้กลุ่มคนชั่วโกงชาติและล้มเจ้ายังลอยนวล
ลงท้ายรัฐประหาร “บิ๊กบัง” ยังเร่งจัดให้มีการเลือกตั้ง ทั้งๆที่ไม่ได้แก้ปัญหาซื้อเสียงและโกงเลือกตั้ง ทำให้พวกโกงชาติและล้มเจ้า กลับมายึดอำนาจรัฐได้อีกครั้ง จนเกิดวิกฤติอันชั่วร้ายในชาติตามมา
รัฐประหาร “บิ๊กบัง” จึงล้มเหลว ทำแค่ยึดอำนาจจากเหลี่ยมได้ชั่วคราวเท่านั้น แต่ทำให้คนดีขึ้นปกครองชาติไม่ได้ และ กีดกันคนชั่วมิให้มีอำนาจไม่ได้อีกด้วย
ที่น่าเศร้าใจอย่างยิ่ง คือ นอกจาก “บิ๊กบัง” จะมิได้รับผิดชอบ กับรัฐประหารล้มเหลวจนเกิดวิกฤติชาติแม้แต่น้อยแล้ว “บิ๊กบัง-ผู้นำรัฐประหาร” ล้มรัฐบาลชั่ว ยังแปรพักตร์ไปเป็น “ผี-โม่แป้ง” ในสภา รับใช้กลุ่มคนชั่วโกงชาติและล้มเจ้าเสียอีก
“รัฐประหารเหลี่ยม-ภาค 2” ของ “บิ๊กตู่” เกือบสองปีที่ผ่านมาเหมือน “บิ๊กบัง” นั่นคือ มีผลงานมากมายตามระบบราชการ และ ตัดตอนอำนาจเครือข่ายเหลี่ยมลงได้แค่ชั่วคราวเช่นกัน แต่การจัดการกลุ่มคนชั่วโกงชาติและล้มเจ้า-ยังไม่ได้เรื่อง! การปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน-ยังไม่เป็นโล้เป็นพาย! โดยเฉพาะปฏิรูปตำรวจนั้น-ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! เรียกว่า..การแก้ต้นเหตุปัญหาชาติแทบเป็นศูนย์ บางเรื่องยังติดลบด้วยซ้ำไป!
การบริหารชาติแบบ “บิ๊กตู่” จึงไร้หลักประกันว่า จะทำให้คนดีได้ขึ้นปกครองชาติ และกีดกันคนชั่วมิให้มีอำนาจได้ แถมกลุ่มคนชั่วโกงชาติและล้มเจ้ายังลอยนวล ยังเคลื่อนไหวโค่นล้มรัฐบาล“บิ๊กตู่-ล้มเจ้า-ยึดอำนาจรัฐ”ผ่านการเลือกตั้งสกปรกอยู่ตลอดเวลา
ด้วย”บิ๊กตู่”ยังหลงในหลักการผิดๆ ที่ว่า“ประชาธิปไตย-คือ-การเลือกตั้ง” ท่ามกลางความไม่พร้อมของประชาชนในแทบทุกมิติ ทำให้ชาติได้นักการเมือง-รัฐสภา-รัฐบาล ไร้ทั้งคุณภาพและขี้โกงเต็มไปหมด
ส่งผลให้ค่านิยมในสังคมไทย เต็มไปด้วยกิเลสที่ไม่รู้จักพอ ติดยึดอยู่แต่“ยศ-ทรัพย์-อำนาจ”จนไร้คุณธรรม และเกิดค่านิยมสามานย์ในยุคเหลี่ยม ที่ว่า”ใครโกงเก่ง-เป็นคนเก่ง”และ“กูชั่ว-แต่มึงชั่วกว่า” จนเกิดกระแสค่านิยมผิดๆว่า“โกงไม่ว่า-ขอข้าได้บ้าง”ก็แล้วกัน
สังคมไทยวันนี้..ความดีเสื่อมทรามลงอย่างน่าใจหาย ถึงขนาดพระสงฆ์ใหญ่น้อย ที่ต้องเป็นผู้รู้และผู้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ต้องมีคุณธรรม-จริยธรรม-ศีลธรรม ฯลฯ ต้องรู้ดีรู้ชั่วรู้ถูกรู้ผิดเหนือฆราสทั้งหลาย
เพราะพระสงฆ์เป็นตัวแทนขององค์พระศาสดา ต้องเผยแพร่พระธรรมคำสอนที่ถูกต้อง ให้ฆราวาสได้เข้าใจธรรมแห่งการพ้นทุกข์ พระสงฆ์ต้องเป็น”สัญลักษณ์แห่งความดีสูงสุด” เหนือผู้คนในสังคมไทย
แต่องค์กรพระสงฆ์ที่มีหน้าที่บริหารจัดการ กลับปล่อยให้วงการพระสงฆ์เหลวแหลก จากพระสงฆ์ใหญ่น้อยที่ต้องละ-ลด-เลิกในกิเลส กลับจมปลักอยู่กับยศ-ทรัพย์-อำนาจ อันมิพึงมีและมิควรสะสมเต็มไปหมด
ที่สำคัญ..วงการสงฆ์ยังเต็มไปด้วย พวกเดียรถีย์-อลัชชี-แก๊งโล้นเหลืองต้มตุ๋น ที่บิดเบือนพระธรรมคำสอนขององค์พระศาสดา เพื่อกอบโกยทรัพย์และไขว่คว้ายศพระกันจ้าละหวั่น
พระพุทธเจ้าทรงละจากมีสู่ไม่มี ทิ้งทั้งยศศักดิ์กษัตริย์และทรัพย์ทั้งปวง มุ่งแสวงหาหนทางหลุดพ้นจากทุกข์จนตรัสรู้ จากนั้นทรงปฏิบัติหน้าที่พระศาสดา ออกตระเวนเผยแพร่พุทธศาสนา นำหนทางพ้นทุกข์ที่ถูกต้องไปสู่มวลมนุษยชาติ โดยมิรู้เหน็ดเหนื่อยจนวาระสุดท้าย
พระพุทธเจ้าละกิเลสทั้งปวงจากมี-สู่-ไม่มี แต่พระสงฆ์ใหญ่น้อยจำนวนไม่น้อยในวันนี้ กลับลุ่มหลงกิเลสที่พระสงฆ์ไม่พึงแสวงหา-ไม่พึงเสพย์-ไม่พึงมี-ไม่พึงสะสม ฯลฯ บ้างหย่อนยานจนละทิ้งพระธรรมวินัยกันโทนโท่
คำสอนพระศาสดาเปี่ยมด้วยธรรมถูกต้อง ศาสนาพุทธยังรุ่งเรืองไม่เสื่อมคลาย แต่ “คนห่มผ้าเหลืองคลุมกาย” จำนวนหนึ่ง กำลังทำชั่วและทำให้วงการพระสงฆ์เสื่อมเสีย
ถึงเวลาที่ฆราวาสและพระสงฆ์ที่ดีส่วนใหญ่ ต้องช่วยกันชะล้างอลัชชี-เดียถีร์-แก๊งโล้นเหลืองต้มตุ๋น ที่บังอาจใช้ผ้าเหลืองบังหน้าทำมาหากิน หลอกลวงผู้คนในสังคมอย่างจริงจังเสียที
พระศาสดา-ไม่เคยสอนสั่งให้ “เป็นกลาง” ในเรื่อง-ถูกกับผิด! ทรงสอนสั่งให้รู้ดีรู้ชั่วและทำดีอย่าทำชั่ว!
คำถาม คือ ระหว่าง “พธม.-กปปส.” กับ “เหลี่ยมและพวก” นั้น “บิ๊กตู่” รู้ไหมว่า-ใครเป็นฝ่ายถูก-ใครเป็นฝ่ายผิด-ใครเป็นฝ่ายทำดี-ใครเป็นฝ่ายทำชั่ว?
พระศาสดา-ทรงสอนสั่งชัดเจน “ไม่มีการปรองดอง” ในเรื่อง ต้องคบแต่บัณฑิต-อย่าคบคนพาล!
คำถาม คือ “บิ๊กตู่” กับพวกที่อ้างตนเป็น“คนดี” ทำไมจึงไม่คบกับบัณฑิต! มีใครในพวก “บิ๊กตู่” แอบไปคบไปใช้กับพวกคนพาลอ๊ะป่าว?
พระศาสดา-ทรงสอนสั่งให้เด็ดขาดกับการ-ยอมเสียอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต!
ทำไมรัฐประหารยุค “บิ๊กตู่” จึงยังปล่อยคนชั่วลอยนวล? ทำไมไม่จัดการคนชั่วอย่างเด็ดขาดโดยไว?
หาก “บิ๊กตู่” รู้ว่า..อะไรถูกอะไรผิด-ใครดีใครชั่วแล้ว ที่สำคัญรู้ว่า-คนชั่วคือต้นเหตุปัญหาชาติ!
“บิ๊กตู่” ต้องใช้อำนาจเด็ดขาดจัดการกับคนชั่ว ทั้งในวงการ “ผ้าเหลือง-การเมือง-ข้าราชการ-พ่อค้า”ฯลฯ เพื่อทำให้ชาติและประชาชนสุขสงบอย่างแท้จริง แต่น่าแปลกใจที่ “บิ๊กตู่” กับพวก กลับใช้อำนาจฯในเรื่องไม่ควรใช้ ส่วนเรื่องควรใช้-กลับไม่ใช้?
สังคมไทยกำลังวิกฤติทุกมิติ พระสงฆ์(จำนวนไม่น้อย)-ควรเป็นธงนำแห่งความดีสูงสุด-กลับไร้ธรรม! รัฐสภากับรัฐบาล-ธงนำแห่งการออกกฎหมายและบริหารชาติ ควรมีทั้งคุณธรรมความดีทำงานให้ชาติกับประชาชน แต่นักการเมืองส่วนใหญ่เหล่านั้น-กลับโกงชาติ!
ยิ่งผู้คนส่วนใหญ่ยังอยู่ในสภาพ “บัวใต้น้ำ” จึงถูก “มารศาสนา-มารการเมือง-มารสังคม”ทั้งหลาย ต้มตุ๋นหลอกลวงทรัพย์สินเงินทองอยู่เนืองนิจ
สังคมสามานย์เช่นนี้ ย่อมต้องการ “ผู้นำชาติ” ที่เข้าใจและกล้าหาญ มากอบกู้สังคมไทยให้คืนสู่ความดีงาม ด้วยการปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน-ก่อนการเลือกตั้ง! เพื่อกีดกันคนชั่วมิให้มีอำนาจ และส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองชาติ
กว่า 80 ปีที่ผ่านมา ชาติไทยมีแต่ประชาธิปไตยเลือกตั้งกับรัฐประหารครั้งแล้วครั้งเล่า! มีการฉีก-การร่าง-มีรัฐธรรมนูญฉบับแล้วฉบับเล่า! แต่ยังทำให้คนดีขึ้นปกครองชาติ และกีดกันคนชั่วมิให้มีอำนาจอย่างถาวรไม่ได้ เท่ากับวิธีแก้ต้นเหตุปัญหาชาติที่ผ่านมาล้มเหลวมาตลอด!
ผู้รักชาติด้วยใจจริงทั้งหลาย จึงต้องช่วยกันค้นคว้าหาทางออก ที่ถูกต้องสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของสังคมไทย มาแก้ต้นเหตุปัญหาของชาติให้ได้โดยไว
เพราะรัฐประหาร “บิ๊กตู่” ทำท่าจะซ้ำรอย “บิ๊กบัง” เสียแล้วสิ..จริงไหม?
โดย “ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย”
“อนาคตชาติในมือ-บิ๊กตู่” เกือบสองปี นายกฯ “บิ๊กตู่” ได้รับทั้ง “ดอกไม้” และ “ก้อนหิน” ขณะที่ชาติและประชาชนได้อะไรนั้น ขึ้นกับมุมมอง-ข้อมูล-ความรู้ของแต่ละคน
แต่จะด่วนสรุปอะไรแบบ 100% คงยังไม่ได้แน่นอน เพราะหนังไทยเรื่อง“รัฐประหารเหลี่ยม-ภาค 2” นำแสดงโดยพระเอกอารมณ์ผันผวน“บิ๊กตู่” ยังฉายอยู่หรือยังไม่ลาโรง ดัง “รัฐประหารเหลี่ยม-ภาค 1” แสดงโดย “บิ๊กบัง” ซึ่งหนังที่จบแบบห่วยแตกจนถูกคนดูด่าตรึม เพราะเป็น “รัฐประหาร-เสียของ-เยี่ยวไม่สุด-มวยล้มต้มคนดู”
รัฐประหาร “บิ๊กบัง” เปิดฉาก “รับดอกไม้” จนหน้าบาน แต่ตอนจบถูก “ก้อนหิน” ขว้างใส่ จนหน้าแหกแตกยับเยินชนิด “หมอไม่รับเย็บ” เพราะมีแต่ผลงานทำตามระบบราชการ แต่การปราบกลุ่มคนชั่วคอร์รัปชั่นโกงชาติและล้มเจ้านั้น-ไม่ได้เรื่อง เพราะดันแอบไป “สมานฉันท์” กับขบวนการคนชั่ว
แม้จะมีการตั้ง “คตส.” ปราบคนโกงชาติ แต่รัฐบาลของคณะรัฐประหารยุคนั้น ไม่ให้ความร่วมมือกับคตส.เท่าที่ควร ทำให้กลุ่มคนชั่วโกงชาติและล้มเจ้ายังลอยนวล
ลงท้ายรัฐประหาร “บิ๊กบัง” ยังเร่งจัดให้มีการเลือกตั้ง ทั้งๆที่ไม่ได้แก้ปัญหาซื้อเสียงและโกงเลือกตั้ง ทำให้พวกโกงชาติและล้มเจ้า กลับมายึดอำนาจรัฐได้อีกครั้ง จนเกิดวิกฤติอันชั่วร้ายในชาติตามมา
รัฐประหาร “บิ๊กบัง” จึงล้มเหลว ทำแค่ยึดอำนาจจากเหลี่ยมได้ชั่วคราวเท่านั้น แต่ทำให้คนดีขึ้นปกครองชาติไม่ได้ และ กีดกันคนชั่วมิให้มีอำนาจไม่ได้อีกด้วย
ที่น่าเศร้าใจอย่างยิ่ง คือ นอกจาก “บิ๊กบัง” จะมิได้รับผิดชอบ กับรัฐประหารล้มเหลวจนเกิดวิกฤติชาติแม้แต่น้อยแล้ว “บิ๊กบัง-ผู้นำรัฐประหาร” ล้มรัฐบาลชั่ว ยังแปรพักตร์ไปเป็น “ผี-โม่แป้ง” ในสภา รับใช้กลุ่มคนชั่วโกงชาติและล้มเจ้าเสียอีก
“รัฐประหารเหลี่ยม-ภาค 2” ของ “บิ๊กตู่” เกือบสองปีที่ผ่านมาเหมือน “บิ๊กบัง” นั่นคือ มีผลงานมากมายตามระบบราชการ และ ตัดตอนอำนาจเครือข่ายเหลี่ยมลงได้แค่ชั่วคราวเช่นกัน แต่การจัดการกลุ่มคนชั่วโกงชาติและล้มเจ้า-ยังไม่ได้เรื่อง! การปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน-ยังไม่เป็นโล้เป็นพาย! โดยเฉพาะปฏิรูปตำรวจนั้น-ล้มเหลวโดยสิ้นเชิง! เรียกว่า..การแก้ต้นเหตุปัญหาชาติแทบเป็นศูนย์ บางเรื่องยังติดลบด้วยซ้ำไป!
การบริหารชาติแบบ “บิ๊กตู่” จึงไร้หลักประกันว่า จะทำให้คนดีได้ขึ้นปกครองชาติ และกีดกันคนชั่วมิให้มีอำนาจได้ แถมกลุ่มคนชั่วโกงชาติและล้มเจ้ายังลอยนวล ยังเคลื่อนไหวโค่นล้มรัฐบาล“บิ๊กตู่-ล้มเจ้า-ยึดอำนาจรัฐ”ผ่านการเลือกตั้งสกปรกอยู่ตลอดเวลา
ด้วย”บิ๊กตู่”ยังหลงในหลักการผิดๆ ที่ว่า“ประชาธิปไตย-คือ-การเลือกตั้ง” ท่ามกลางความไม่พร้อมของประชาชนในแทบทุกมิติ ทำให้ชาติได้นักการเมือง-รัฐสภา-รัฐบาล ไร้ทั้งคุณภาพและขี้โกงเต็มไปหมด
ส่งผลให้ค่านิยมในสังคมไทย เต็มไปด้วยกิเลสที่ไม่รู้จักพอ ติดยึดอยู่แต่“ยศ-ทรัพย์-อำนาจ”จนไร้คุณธรรม และเกิดค่านิยมสามานย์ในยุคเหลี่ยม ที่ว่า”ใครโกงเก่ง-เป็นคนเก่ง”และ“กูชั่ว-แต่มึงชั่วกว่า” จนเกิดกระแสค่านิยมผิดๆว่า“โกงไม่ว่า-ขอข้าได้บ้าง”ก็แล้วกัน
สังคมไทยวันนี้..ความดีเสื่อมทรามลงอย่างน่าใจหาย ถึงขนาดพระสงฆ์ใหญ่น้อย ที่ต้องเป็นผู้รู้และผู้ปฏิบัติตามพระธรรมวินัย ต้องมีคุณธรรม-จริยธรรม-ศีลธรรม ฯลฯ ต้องรู้ดีรู้ชั่วรู้ถูกรู้ผิดเหนือฆราสทั้งหลาย
เพราะพระสงฆ์เป็นตัวแทนขององค์พระศาสดา ต้องเผยแพร่พระธรรมคำสอนที่ถูกต้อง ให้ฆราวาสได้เข้าใจธรรมแห่งการพ้นทุกข์ พระสงฆ์ต้องเป็น”สัญลักษณ์แห่งความดีสูงสุด” เหนือผู้คนในสังคมไทย
แต่องค์กรพระสงฆ์ที่มีหน้าที่บริหารจัดการ กลับปล่อยให้วงการพระสงฆ์เหลวแหลก จากพระสงฆ์ใหญ่น้อยที่ต้องละ-ลด-เลิกในกิเลส กลับจมปลักอยู่กับยศ-ทรัพย์-อำนาจ อันมิพึงมีและมิควรสะสมเต็มไปหมด
ที่สำคัญ..วงการสงฆ์ยังเต็มไปด้วย พวกเดียรถีย์-อลัชชี-แก๊งโล้นเหลืองต้มตุ๋น ที่บิดเบือนพระธรรมคำสอนขององค์พระศาสดา เพื่อกอบโกยทรัพย์และไขว่คว้ายศพระกันจ้าละหวั่น
พระพุทธเจ้าทรงละจากมีสู่ไม่มี ทิ้งทั้งยศศักดิ์กษัตริย์และทรัพย์ทั้งปวง มุ่งแสวงหาหนทางหลุดพ้นจากทุกข์จนตรัสรู้ จากนั้นทรงปฏิบัติหน้าที่พระศาสดา ออกตระเวนเผยแพร่พุทธศาสนา นำหนทางพ้นทุกข์ที่ถูกต้องไปสู่มวลมนุษยชาติ โดยมิรู้เหน็ดเหนื่อยจนวาระสุดท้าย
พระพุทธเจ้าละกิเลสทั้งปวงจากมี-สู่-ไม่มี แต่พระสงฆ์ใหญ่น้อยจำนวนไม่น้อยในวันนี้ กลับลุ่มหลงกิเลสที่พระสงฆ์ไม่พึงแสวงหา-ไม่พึงเสพย์-ไม่พึงมี-ไม่พึงสะสม ฯลฯ บ้างหย่อนยานจนละทิ้งพระธรรมวินัยกันโทนโท่
คำสอนพระศาสดาเปี่ยมด้วยธรรมถูกต้อง ศาสนาพุทธยังรุ่งเรืองไม่เสื่อมคลาย แต่ “คนห่มผ้าเหลืองคลุมกาย” จำนวนหนึ่ง กำลังทำชั่วและทำให้วงการพระสงฆ์เสื่อมเสีย
ถึงเวลาที่ฆราวาสและพระสงฆ์ที่ดีส่วนใหญ่ ต้องช่วยกันชะล้างอลัชชี-เดียถีร์-แก๊งโล้นเหลืองต้มตุ๋น ที่บังอาจใช้ผ้าเหลืองบังหน้าทำมาหากิน หลอกลวงผู้คนในสังคมอย่างจริงจังเสียที
พระศาสดา-ไม่เคยสอนสั่งให้ “เป็นกลาง” ในเรื่อง-ถูกกับผิด! ทรงสอนสั่งให้รู้ดีรู้ชั่วและทำดีอย่าทำชั่ว!
คำถาม คือ ระหว่าง “พธม.-กปปส.” กับ “เหลี่ยมและพวก” นั้น “บิ๊กตู่” รู้ไหมว่า-ใครเป็นฝ่ายถูก-ใครเป็นฝ่ายผิด-ใครเป็นฝ่ายทำดี-ใครเป็นฝ่ายทำชั่ว?
พระศาสดา-ทรงสอนสั่งชัดเจน “ไม่มีการปรองดอง” ในเรื่อง ต้องคบแต่บัณฑิต-อย่าคบคนพาล!
คำถาม คือ “บิ๊กตู่” กับพวกที่อ้างตนเป็น“คนดี” ทำไมจึงไม่คบกับบัณฑิต! มีใครในพวก “บิ๊กตู่” แอบไปคบไปใช้กับพวกคนพาลอ๊ะป่าว?
พระศาสดา-ทรงสอนสั่งให้เด็ดขาดกับการ-ยอมเสียอวัยวะเพื่อรักษาชีวิต!
ทำไมรัฐประหารยุค “บิ๊กตู่” จึงยังปล่อยคนชั่วลอยนวล? ทำไมไม่จัดการคนชั่วอย่างเด็ดขาดโดยไว?
หาก “บิ๊กตู่” รู้ว่า..อะไรถูกอะไรผิด-ใครดีใครชั่วแล้ว ที่สำคัญรู้ว่า-คนชั่วคือต้นเหตุปัญหาชาติ!
“บิ๊กตู่” ต้องใช้อำนาจเด็ดขาดจัดการกับคนชั่ว ทั้งในวงการ “ผ้าเหลือง-การเมือง-ข้าราชการ-พ่อค้า”ฯลฯ เพื่อทำให้ชาติและประชาชนสุขสงบอย่างแท้จริง แต่น่าแปลกใจที่ “บิ๊กตู่” กับพวก กลับใช้อำนาจฯในเรื่องไม่ควรใช้ ส่วนเรื่องควรใช้-กลับไม่ใช้?
สังคมไทยกำลังวิกฤติทุกมิติ พระสงฆ์(จำนวนไม่น้อย)-ควรเป็นธงนำแห่งความดีสูงสุด-กลับไร้ธรรม! รัฐสภากับรัฐบาล-ธงนำแห่งการออกกฎหมายและบริหารชาติ ควรมีทั้งคุณธรรมความดีทำงานให้ชาติกับประชาชน แต่นักการเมืองส่วนใหญ่เหล่านั้น-กลับโกงชาติ!
ยิ่งผู้คนส่วนใหญ่ยังอยู่ในสภาพ “บัวใต้น้ำ” จึงถูก “มารศาสนา-มารการเมือง-มารสังคม”ทั้งหลาย ต้มตุ๋นหลอกลวงทรัพย์สินเงินทองอยู่เนืองนิจ
สังคมสามานย์เช่นนี้ ย่อมต้องการ “ผู้นำชาติ” ที่เข้าใจและกล้าหาญ มากอบกู้สังคมไทยให้คืนสู่ความดีงาม ด้วยการปฏิรูปชาติทุกภาคส่วน-ก่อนการเลือกตั้ง! เพื่อกีดกันคนชั่วมิให้มีอำนาจ และส่งเสริมคนดีให้ได้ปกครองชาติ
กว่า 80 ปีที่ผ่านมา ชาติไทยมีแต่ประชาธิปไตยเลือกตั้งกับรัฐประหารครั้งแล้วครั้งเล่า! มีการฉีก-การร่าง-มีรัฐธรรมนูญฉบับแล้วฉบับเล่า! แต่ยังทำให้คนดีขึ้นปกครองชาติ และกีดกันคนชั่วมิให้มีอำนาจอย่างถาวรไม่ได้ เท่ากับวิธีแก้ต้นเหตุปัญหาชาติที่ผ่านมาล้มเหลวมาตลอด!
ผู้รักชาติด้วยใจจริงทั้งหลาย จึงต้องช่วยกันค้นคว้าหาทางออก ที่ถูกต้องสอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงของสังคมไทย มาแก้ต้นเหตุปัญหาของชาติให้ได้โดยไว
เพราะรัฐประหาร “บิ๊กตู่” ทำท่าจะซ้ำรอย “บิ๊กบัง” เสียแล้วสิ..จริงไหม?
