“ข้าวปั้นเบนโตะ” เมนูสุดน่ารัก..ฝีมือคุณหมออารมณ์ดี

“ถอดชุดคุณหมอ..ขอสวมผ้ากันเปื้อนเข้าครัวกันสักหน่อย” ในเมนูสุดครีเอตที่จะทำให้ทุกท่านหลงรักไปกับความน่ารักของศิลปะข้าวกล่องคาราเบนที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศญี่ปุ่น ผ่านสไตล์การครีเอตเมนูเฉพาะตัวจากเชฟสาวจำเป็นที่มีดีกรีเป็นถึงคุณหมอ “หมอแป๊ก-นวพร ผิวผัน” แพทย์หญิงคลินิกเวชกรรม ผู้เชี่ยวชาญทางด้านความงามที่หลงใหลในวัฒนธรรมการทำข้าวปั้นจากประเทศญี่ปุ่น พร้อมเสิร์ฟความน่ารักในบทสนทนาต่อจากนี้ . .

“จริงๆ ต้องบอกก่อนเลยว่าเป็นคนทำอาหารไม่เป็น” คุณหมอยิ้มสวยเปรยขึ้นมาสร้างความสงสัยให้ทีมงานเล็กน้อย เพราะประโยคที่ว่าดูจะขัดกับอาหารข้าวปั้นหน้าตาน่ารักที่วางอยู่ตรงหน้าเสียจริง ก่อนเธอจะเล่าย้อนความให้ฟังถึงช่วงเวลาแห่งการตกหลุมรักการทำอาหารเมื่อหนึ่งปีก่อน

“เมื่อปีที่แล้วเขาฮิตกระแสกินคลีนขึ้นมา เรามาคิดว่ามันน่าจะดีต่อสุขภาพ เลยเริ่มทำกับข้าวทั่วๆ ไปก่อนแนวอาหารคลีน ประเภทนึ่ง ต้ม ผัด อาหารไขมันต่ำ จากนั้นได้เอาภาพลงในอินสตาแกรม เราได้เข้าไปดูของคนอื่นว่าเขาทำอาหารอะไรบ้าง ไปดูไอเดียเขาบ้าง ไปๆ มาๆ ไปดูของต่างประเทศ ได้ไปเจอรูปพวกกล่องข้าวน่ารักๆ เห็นแล้วอยากลองทำดูบ้างดีกว่า เพราะเรากินคลีนด้วยมันจะเบื่อๆ พอเห็นแล้วก็ลองเอามาปั้นดู”

นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ไม่คาดคิดว่าความสนใจในวันนั้น ได้กลายมาเป็นส่วนผสมสำคัญในชีวิตเธอจนถึงวันนี้ การหันมาเข้าครัวทำอาหารไม่เพียงแต่ทำให้เธอค้นพบความชอบที่ไม่คาดฝันเพิ่มมาอีกหนึ่งอย่าง ทว่ามันได้เปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารของเธอไปด้วย

“แต่ก่อนตอนทำงานเสร็จเลิกงานก็มืดแล้ว เวลากลับบ้านทีก็นำทุกอย่างที่อยู่ในฟรีซออกมากิน เพราะเป็นคนไม่ชอบทำกับข้าวเลย แต่เริ่มมาสนุกเพราะได้มาทำอันนี้แหละ จากนั้นการกินอาหารของเราก็ใส่ใจมากขึ้น”

นอกเหนือไปจากความหลงใหลในความน่ารักของเมนูข้าวกล่องจากการรับชมผ่านอินสตาแกรมแล้ว อีกหนึ่งแรงบันดาลใจที่ทำให้เธอนำมาสร้างสรรค์ผลงานศิลปะอิ่มท้องได้อย่างน่ารักน่าหม่ำขนาดนี้ คงมาจากความชื่นชอบในวัฒนธรรมจากประเทศญี่ปุ่น

โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัฒนธรรมการทำข้าวกล่องของคนญี่ปุ่นที่เรียกว่า “คาราเบน” ด้วยความสร้างสรรค์จากประเทศแห่งการ์ตูน คาราเบนของญี่ปุ่นจึงมีชื่อเสียงระดับ โลกและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรักข้าวกล่องทั่วโลกอีกด้วย

“จริงๆ เป็นคนชอบไปเที่ยวประเทศญี่ปุ่น ชอบวัฒนธรรมและบรรยากาศของเขา คือทุกอย่างมันน่ารักไปหมดเลย คาวาอิไปหมด ได้มีเพื่อนเป็นคนญี่ปุ่นหลายคนด้วยก็ค่อนข้างจะเห็นวัฒนธรรมของเขามาเยอะ ซึ่งวัฒนธรรมที่ชอบมากๆ คือการทำข้าวกล่องให้ลูก คุณแม่ทำข้าวกล่องให้ลูกไปทานที่โรงเรียน หรือว่าภรรยาทำข้าวกล่องไปให้สามีทาน เราว่ามันเป็นอะไรที่อบอุ่นดี และสามารถเลือกได้เองด้วยว่าจะใส่อะไรให้คนที่เรารักทาน”

เห็นได้ว่าเมนูข้าวปั้นเบนโตะหน้าตาน่ารักที่คุณหมอคนสวยทำออกมาช่างครีเอตสุดๆ ทั้งการตบแต่งหน้าตา จับนั่นหยิบนี่มาผสมเพิ่มสีสันแก่ข้าวกล่องให้น่ารักน่าหม่ำ ถือเป็นอีกหนึ่งไอเดียดีๆ ที่คุณหมอสร้างสรรค์ออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ซึ่งแต่ละครั้งที่เริ่มทำเมนูเธอเริ่มต้นจากการหาตัวการ์ตูนที่ชื่นชอบก่อนเสมอ

“อย่างแต่ละอันที่ทำเราจะดูรูปในอินเตอร์เน็ตก่อนว่า วันนี้จะทำรูปอะไร ตัวการ์ตูนนี่น่ารักดี แต่จะปั้นได้ไหมให้ออกมาเป็นข้าว เหมือนเป็นความท้าทาย พอปั้นออกมาได้ก็รู้สึกดีใจที่ปั้นออกมาได้ด้วย (ยิ้ม)

บางทีมันเป็นหนังแอนนิเมชั่นที่เราชอบ เราก็อยากทำ อย่างเช่นล่าสุดที่ปั้นคือการ์ตูนจากเรื่อง Zootopia หรือ Harry Porter เราก็ทำ ส่วนใหญ่ครีเอตเอง หลักๆ จะเป็นข้าวที่ปั้นเป็นตัวการ์ตูน แล้วก็จะมีพวกตบแต่งหน้าตาด้วยสาหร่ายแผ่น แฮม ไส้กรอก”

ด้วยรูปร่างหน้าตาที่ทำออกมาช่างน่ารักเกินกว่าจะกล้ารับประทาน ทำให้อยากสตาฟข้าวกล่องเบนโตะนี้เก็บไว้ดูนานๆ มากกว่าจะทานในทันที ซึ่งคุณหมอเองก็ยอมรับกับทีมงานเลยว่ามันช่างน่ารักเกินกว่าจะทานได้ “แรกๆ ไม่กล้ากินค่ะ คิดว่าอุส่าปั้นตั้งนานก็เสียดาย เลยเอาไปไว้ในตู้เย็น ที่นี้มันเสีย ก็เลยต้องกินแล้วล่ะ” (หัวเราะ)

สำหรับเรื่องมุมมองการใช้ชีวิตของคุณหมอนั้น ด้วยบุคลิกภาพที่ดูเหมือนว่าจะเป็นสาวฟิวกูดสุดๆ ทั้งชื่นชอบการทำอาหารสร้างสรรค์ข้าวกล่องน่ารักๆ มองโลกในแง่บวก ทว่าความจริงแล้วเธอก็คือผู้หญิงธรรมคนหนึ่งที่มีความรู้สึกนึกคิดหลากหลายเหมือนกับคนทั่วๆ ไป “ทุกคนมีมุมที่ไม่อยากจะคิดถึงมัน เหรียญก็มีสองด้านเนอะ แต่ขึ้นอยู่กับว่าเราพยายามปรับอารมณ์ได้หรือเปล่า”

หลังจบประโยค เธอขยายความให้ฟังต่อไปถึงช่วงเวลาที่ต้องเผชิญหน้ากับปัญหา ว่าในทุกครั้งที่ชีวิตต้องเจอกับเรื่องราวที่ไม่เป็นไปตามความตั้งใจ หรือความไม่สมหวังต่างๆ ที่เดินทางมาทักทาย หลายคนอาจเกิดความรู้สึกท้อแท้กับปัญหาที่เกิดขึ้น แต่เธอกลับมองว่าในเมื่อต้องอยู่กับปัญหานั้น จงเลือกสู้กับปัญหามากกว่าจะทุกข์ไปกับมันน่าจะดีกว่า

“กลายเป็นว่าเหมือนเราตามจิตให้รู้ว่าตอนนี้เรารู้สึกไม่ดี และก็หาคำตอบว่าทำไมเราถึงรู้สึกไม่ดี เพราะยังไงเราก็ต้องเจอกับมันอยู่แล้ว ถ้าเลือกที่จะมีความสุขกับไม่มีความสุข จะเลือกแบบไหนเพราะยังไงก็ต้องเผชิญกับมันอยู่ดี ให้พยายามบอกตัวเองค่ะว่าเลือกที่จะมีความสุขสิ
สมมุตมีปัญหา สถานการณ์ที่เราต้องแก้ไขอยู่แล้ว ระหว่างจะอมทุกข์ไปเลย กับยังไงก็ต้องสู้กับมัน เรามาหาทางแก้ปัญหาไม่ดีกว่าเหรอ ก็ยังมีความสุขได้”

จริงอย่างที่ใครเคยบอกไว้ว่าในเรื่องไม่ดี มักมีสิ่งดีๆ ซ่อนอยู่เสมอ เพียงแค่ต้องรู้จักมองเรื่องดีๆ ที่เกิดขึ้นในความโชคร้ายนั้นๆ ให้เจอ เช่นเดียวกับเธอที่มองว่าในทุกครั้งที่มีสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น จงมองว่าได้เรียนรู้อะไรจากเหตุการณ์นั้นๆ การที่เลือกมองเรื่องดีๆ ในปัญหาที่เลวร้ายอาจทำให้จิตใจพบกับความสงบและหาทางออกของปัญหานั้นได้ง่ายดายมากขึ้น

“เรื่องที่มันไม่ดีเราก็รู้ว่ามันก็มี เราไม่ได้มองโลกว่าสวยงามไม่รับความจริง แต่แค่รู้สึกว่าการคิดบวกมันสามารถพาตัวเองไปสู่จุดที่รู้สึกดีมากกว่า ใครจะคิดลบกับเรามีอยู่แล้วล่ะ แต่บางทีให้เราไปแคร์ทุกคนก็เป็นไปไม่ได้ หรือบางสถานการณ์ที่เราควบคุมไม่ได้ สู้เรามาควบคุมใจเราเองดีกว่า ฟิวกูดกับตรงนี้ดีกว่า

หรือบางทีเจอสถานการณ์ที่ไม่ดี ให้พยายามมองว่าในจุดนี้เราได้เรียนรู้อะไรจากสถานการณ์นี้ ในจุดที่ไม่ดี จริงๆ มันมีอะไรที่ดีๆ อยู่ในนั้นเหมือนกัน พอเราโฟกัสกับเรื่องดีๆ มันเลยทำให้ร่างกายเราเสพแต่เรื่องดีๆ สุขภาพจิตก็จะดี”

ชมภาพข้าวปั้นน่ารักๆ ของคุณหมอคนสวย..