วานนี้ (13 มี.ค.) ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี จ.เพชรบุรี คณะสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) นำโดย นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช. คนที่ 2 นพ.เจตน์ ศิริธรานนท์ พล.อ.อ.ชาลี จันทร์เรือง พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร และนางกาญจนารัตน์ ลีวิโรจน์ เป็นต้น พร้อมด้วย ตัวแทนสมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) นำโดย นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธาน สปท.คนที่ 1 และ นายคำนูณ สิทธิสมาน รองเลขานุการและโฆษกวิป สปท. และ นายวรพันธ์ เย็นทรัพย์ ผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะตัวแทนคณะรัฐมนตรี (ครม.) ร่วมกันลงพื้นที่ จ.เพชรบุรี เพื่อรับฟังปัญหาตามโครงการ "สนช.พบประชาชน" โดยมี นายสนิท ขาวสะอาด ผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี และหัวหน้าส่วนราชการต่างๆในจังหวัด ให้การต้อนรับ
** ชมรม อบต.ยื่นค้านควบรวม อปท.
ทั้งนี้ นายสนิท ได้กล่าวสรุปปัญหาในจังหวัดเพรชบุรี อาทิ ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลกว่า 22.13 กม.โดยมีพื้นที่ถูกกัดเซาะเฉลี่ยปีละ 3-5 เมตร ปัญหาประมง ปัญหาขยะมูลฝอย ที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยจังหวัดเพชรบุรีมีขยะสะสมอยู่ในลำดับที่ 7 ของประเทศ ปัญหาการท่องเที่ยว ปัญหาการคมนาคมทั้งการขนส่งสินค้าการเกษตรเพื่อการท่องเที่ยวซึ่งสภาพทรุดโทรม และปัญหาภัยแล้งด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการรับฟังปัญหาจากส่วนราชการ นายธีรศักดิ์ พานิชวิทย์ ประธานชมรมองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จ.เพชรบุรี ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการควบรวมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต่อ นายพีระศักดิ์ และนายอลงกรณ์ เนื่องจากเห็นว่าข้อเสนอแนวทางการปรับโครงสร้างอำนาจหน้าที่ ขนาดและรูปแบบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของคณะกรรมาธิการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการปกครองท้องถิ่น จะนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งในระดับพื้นที่ เกิดกลุ่มการเมืองระดับพื้นที่เพิ่มขึ้น แบ่งแยกประชาชน เกิดปัญหาความขัดแย้งในระดับองค์กร ไม่สามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่สามารถทำให้การบริหารที่เป็นเอกลักษณ์ในด้านความใกล้ชิดประชาชนคงอยู่ได้
** “จ้อน” โวผลงานปฏิรูปเพียบ
โอกาสนี้ นายอลงกรณ์ กล่าวระหว่างการลงพื้นที่ตอนหนึ่งว่า ขอส่งข่าวไปยังพรรคการเมืองที่ออกมาพูดว่าไม่เห็นมีการปฏิรูปอะไรเลย ขอให้เปิดหูเปิดตา เพราะการปฏิรูปเดินหน้าไปได้มากแล้ว โดย สปท.ได้ส่งรายการปฏิรูปไป ครม. ทั้งหมด 8 เรื่อง ซึ่งครม.ได้เห็นชอบไปแล้ว และกำลังดำเนินการอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ยังได้มีการแก้ปัญหาก่อนวิกฤตเมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 อีกด้วย ทั้งนี้ ไม่มีใครอยากให้เกิดการรัฐประหาร แต่ที่จำเป็นต้องมี เพราะบ้านเมืองในขณะนั้นกำลังจะเกิดสงครามการเมืองอยู่แล้ว เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องสร้างการปฏิรูปให้เกิดขึ้น ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมาได้ปฏิรูปและพัฒนาไปมาก ติดอันดับโลกหลายเรื่อง โดยยึดนโยบายมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
“สำหรับการที่รัฐบาลกำหนดให้มีการยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีนั้นก็เพื่อการปฏิรูปประเทศในระยะยาว ไม่ใช่เป็นสืบทอดอำนาจอย่างที่ฝ่ายการเมืองกล่าวหา แต่เป้าหมายคือการสืบทอดภารกิจการปฏิรูปให้แล้วเสร็จเท่านั้น” นายอลงกรณ์ ระบุ
** ชมรม อบต.ยื่นค้านควบรวม อปท.
ทั้งนี้ นายสนิท ได้กล่าวสรุปปัญหาในจังหวัดเพรชบุรี อาทิ ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลกว่า 22.13 กม.โดยมีพื้นที่ถูกกัดเซาะเฉลี่ยปีละ 3-5 เมตร ปัญหาประมง ปัญหาขยะมูลฝอย ที่เพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยจังหวัดเพชรบุรีมีขยะสะสมอยู่ในลำดับที่ 7 ของประเทศ ปัญหาการท่องเที่ยว ปัญหาการคมนาคมทั้งการขนส่งสินค้าการเกษตรเพื่อการท่องเที่ยวซึ่งสภาพทรุดโทรม และปัญหาภัยแล้งด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนการรับฟังปัญหาจากส่วนราชการ นายธีรศักดิ์ พานิชวิทย์ ประธานชมรมองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) จ.เพชรบุรี ได้ยื่นหนังสือคัดค้านการควบรวมองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ต่อ นายพีระศักดิ์ และนายอลงกรณ์ เนื่องจากเห็นว่าข้อเสนอแนวทางการปรับโครงสร้างอำนาจหน้าที่ ขนาดและรูปแบบขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นของคณะกรรมาธิการสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านการปกครองท้องถิ่น จะนำไปสู่ปัญหาความขัดแย้งในระดับพื้นที่ เกิดกลุ่มการเมืองระดับพื้นที่เพิ่มขึ้น แบ่งแยกประชาชน เกิดปัญหาความขัดแย้งในระดับองค์กร ไม่สามารถขับเคลื่อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ และไม่สามารถทำให้การบริหารที่เป็นเอกลักษณ์ในด้านความใกล้ชิดประชาชนคงอยู่ได้
** “จ้อน” โวผลงานปฏิรูปเพียบ
โอกาสนี้ นายอลงกรณ์ กล่าวระหว่างการลงพื้นที่ตอนหนึ่งว่า ขอส่งข่าวไปยังพรรคการเมืองที่ออกมาพูดว่าไม่เห็นมีการปฏิรูปอะไรเลย ขอให้เปิดหูเปิดตา เพราะการปฏิรูปเดินหน้าไปได้มากแล้ว โดย สปท.ได้ส่งรายการปฏิรูปไป ครม. ทั้งหมด 8 เรื่อง ซึ่งครม.ได้เห็นชอบไปแล้ว และกำลังดำเนินการอีกจำนวนมาก นอกจากนี้ยังได้มีการแก้ปัญหาก่อนวิกฤตเมื่อวันที่ 22 พ.ค.57 อีกด้วย ทั้งนี้ ไม่มีใครอยากให้เกิดการรัฐประหาร แต่ที่จำเป็นต้องมี เพราะบ้านเมืองในขณะนั้นกำลังจะเกิดสงครามการเมืองอยู่แล้ว เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องสร้างการปฏิรูปให้เกิดขึ้น ซึ่ง 2 ปีที่ผ่านมาได้ปฏิรูปและพัฒนาไปมาก ติดอันดับโลกหลายเรื่อง โดยยึดนโยบายมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน ตามนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี
“สำหรับการที่รัฐบาลกำหนดให้มีการยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีนั้นก็เพื่อการปฏิรูปประเทศในระยะยาว ไม่ใช่เป็นสืบทอดอำนาจอย่างที่ฝ่ายการเมืองกล่าวหา แต่เป้าหมายคือการสืบทอดภารกิจการปฏิรูปให้แล้วเสร็จเท่านั้น” นายอลงกรณ์ ระบุ