xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

‘ท่านเจ้าคุณธงชัย’ ดาวมฤตยู และผ้ายันต์เลสเตอร์ฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ท่านเจ้าคุณธงชัยขณะอยู่กับสโมสสรเลสเตอร์ซิตี้ ประเทศอังกฤษ
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -วินาทีนี้ใครๆ ก็ต้องรู้จัก ท่านเจ้าคุณธงชัย?

ชื่อของ “ท่านเจ้าคุณธงชัย” หรือ พระพรหมมังคลาจารย์ (ธงชัย ธมฺมธโช) ผู้ช่วยท่านเจ้าอาวาสวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เลื่องชื่อลือชาขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่ใช่แค่ในประเทศไทยหากแต่ดังไกลไปถึงระดับโลก

ดังเปรี้ยงแรกเป็นผลมาจากการที่ท่านเจ้าคุณธงชัยออกมากล่าวถึงเรื่อง “ดาวมฤตยู” ดาวแห่งความตายที่ย้ายเข้าราศีเมษเคลื่อนทับดวงเมือง พร้อมทั้งทำนายทายทักว่าจะส่งผลให้ประเทศไทย ‘เชนจ์’ หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่โดยเฉพาะการเมืองและเศรษฐกิจ จากนั้นก็เป็นองค์ประธานจัดพิธีสวดนพเคราะห์รับ-ส่งดาวมฤตยูเมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2559 ที่ผ่านมา ซึ่งงานในวันนั้นคลาคล่ำไปด้วยผู้คนจากทั่วสารทิศเข้าร่วมพิธีกรรมเสริมสิริมงคลทะลักวัดไตรมิตรฯ ส่งผลให้รถติดยาวเหยียด

ดังเปรี้ยงที่สอง ท่านเจ้าคุณธงชัยปรากฏเป็นข่าวดังเมื่อครั้งเดินทางไปปลุกเสกสร้างปาฏิหาริย์แก่ทีมฟุตบอล ‘เลสเตอร์ ซิตี้’ แห่งประเทศอังกฤษ โดยทาง วิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าสัวคิงเพาเวอร์ ผู้เป็นเจ้าของสโมสร เลสเตอร์ ซิตี้ได้ทำการนิมนต์ไปให้ศีลให้พรกับบรรดานักเตะและสตาฟฟ์โค้ช ที่สนามคิง เพาเวอร์ ประเทศอังกฤษ กระทั่งทีมฯ ไต่อันดับขึ้นนำเป็นจ่าฝูง

ทั้งสร้างความฮือฮาด้วยการจัดทำ ‘ผ้ายันต์เลสเตอร์ ชิตี้’ ร่ายพุทธคุณหนุนนำ พร้อมประกาศชัดต่อหน้าสาธารณชนว่า เลสเตอร์ ซิตี้จะคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกปีนี้อย่างแน่นอน จนชื่อเสียงของท่านเจ้าคุณธงชัยลื่อลั่นในวงการฟุตบอลระดับโลก กระทั่งสามารถกล่าวได้ว่า ท่านเจ้าคุณธงชัยคือ “พระไทยที่ไปบอล(ระดับ)โลก” เป็นคนแรกของประเทศกันเลยทีเดียว

ด้วยเหตุดังกล่าว ผู้จัดการสุดสัปดาห์จึงกราบอาราธนาสัมภาษณ์พิเศษท่านเจ้าคุณธงชัยถึงรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องฮอตฮิตทั้งสองเรื่อง

ประเด็นแรกคือการเคลื่อนตัวของดาวมฤตยู เข้าทับดวงเมืองไทยในราศีเมษ เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2558 ซึ่ง 84 ปี จึงจะเวียนกลับมาครั้งหนึ่ง และจะทับดวงเมืองไปอีก 7 ปีนั้น ท่านเจ้าคุณธงชัยกล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่าทางโหราศาสตร์แตกตื่นต่อการมาเยือนของดาวดวงนี้เป็นอย่างมาก เพราะถูกจับตามองในเรื่องหายนะเป็นดวงดาวแห่งความตาย และการเคลื่อนของดาวมฤตยูในครั้งนี้จะส่งผลกระทบทั้งโลก เพราะราศีของโลกก็คือราศีเมษเช่นเดียวกันกับประเทศไทย

ทั้งนี้ มฤตยูโดยภาษาแปลว่า ตาย เป็นภาษาบาลีและสันสกฤต แต่คนไทยไม่ได้ลึกซึ้งให้รายละเอียดลงไปว่า มฤตยูนั้นเป็นศัพท์ภาษาที่บ่งบอกถึงการตายแบบหมดกิเลส ตายจากกิเลสปุถุชนไปสู่การการเป็นพระอริยอรหันต์ ฉะนั้น ตรงนี้คนก็กลัว แต่จริงๆ แล้วเป็นการตายแบบเปลี่ยนสภาวะจิตจากปุถุชนไปสู่อริยบุคคล และพระอรหันต์

“วันนี้ดาวมฤตยูมาทับดวงเมืองไทย ราศีเมษ ทุกคนก็มีความรู้สึกว่าประเทศไทยจะตายตามคำว่ามฤตยู แต่ถ้าไขปริศนาว่า จากอริยะจากปุถุชนจากประเทศไทยจากอดีตแล้วจะเดินไปสู่อารยประเทศสู่ประเทศที่เจริญ เราก็ต้องชื่นใจว่าประเทศเราจะเจริญสู่นานาประเทศ”

คำว่า มฤตยู ตามรากศัพท์นั้นแปลได้หลายอย่าง ซึ่งท่านเจ้าคุณธงชัยอธิบายความเพิ่ม แปลว่าพญายมก็ได้ หรืออีกอย่างหนึ่ง “เนม ออฟ ศิวะ” แปลว่าชื่อนี้เป็นชื่อของพระศิวะ กล่าวคือ มฤตยูก็คือพระศิวะ ถ้าเรียกตามดาราศาสตร์เป็นภาษาอังกฤษก็คือ ยูเรนัส และมีความหมายอยู่ 4 คำ ซึ่งหมายถึงผลลัพธ์แห่งการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดในประเทศไทย อันเป็นผลพวงจากอิทธิพลของดวงดาว

ท่านเจ้าคุณธงชัยกล่าวถึง 4 ขบวนการที่จะเกิดขึ้นจากดาวมฤตยูว่าประกอบไปด้วย 1.การเปลี่ยนแปลง (เชนจ์ - Change ) เปลี่ยนตามโลก 2. การเข้าสู่ยุคใหม่การก้าวสู่นวัตกรรม (อินโนเวชั่น - Innovation) 3. การกำเนิดแนวคิดใหม่ (ไอเดียริส - Idealist) พัฒนาประเทศชาติ และ 4. เสรีภาพ (ฟรีด้อม - Freedom) ที่จะมีมากขึ้น

“นวัตกรรมใหม่ แน่นอน ก็เป็นเรื่องที่ดีที่เราจะมีสิ่งใหม่ประดิษฐ์ให้กับประชาชน ไอเดีย อุดมการณ์ ลัทธิความเชื่อ ธรรมนูญใหม่ของเราก็จะสอดคล้องกับเวทีโลกก็น่าจะเป็นเรื่องดี เสรีภาพของประชาชนก็จะดี ฉะนั้น 4 คำนี้ถ้ามองดูแล้วก็เป็นเรื่องดี มองเห็นภาพมั้ยว่า มฤตยู ไม่ได้ตาย คือความเปลี่ยนแปลงเป็นไปในทางที่ดี ที่นี้ ถามว่า 4 คำนี้เป็นสิ่งที่คนไทยจะถึงพร้อมไหม ตอบว่าก็ยังไม่ค่อยพร้อม และบังเอิญว่าราศีเมษไม่ใช่ดวงเมืองคนไทยอย่างเดียว ราศีเมษเป็นราศีของโลกทั้งโลกกลมๆ ใบนี้ ที่พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกฯ รัชกาลที่ 1 ท่าน เอา ราศีเมษ ซึ่งเป็นราศีโลก เป็นราศีที่วางเสาหลักเมืองเมื่อวันที่ 24 เม.ย. 2325 หรือ 233 ปีมาแล้ว”

“นั่นหมายความว่าพระองค์ทรงให้ประเทศไทยนั้นก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลก โลกเข้ามีการเปลี่ยนเปลี่ยนแปลงอย่างไร ประเทศไทยก็จะเป็นเช่นนั้น โลกเขามีอินโนเวชั่น อย่างไรประเทศไทยก็จะมีอินโนเวชั่น เช่นนั้น ตามโลก โลกเขามีธรรมนูญการปกครองอย่างไร ไทยเราจะเป็นอย่างนั้น เสรีภาพของโลกนี้จะเป็นอย่างไรไทยก็จะเป็นอย่างนั้น ฉะนั้น วันนี้โลกทั้งโลกจะมี 4 คำ คือ เชนจ์, อินโนเวชัน, ไอเดียริส, ฟรีด้อม

“ถ้าคุณดูอย่างอเมริกา ผู้นำทางการเมืองของโลก เขากำลังมีการเลือกตั้งประธานธิบดี ฮิลลารี คลินตัน พูดนโยบายทั่วโลกอย่างนี้ โดนัลด์ ทรัมป์ พูดนโยบายทั่วโลกอย่างนี้ ถ้าคนใดคนหนึ่งเป็น แน่นอน ทุกคนต้องมองต้องฟังต้องดูต้องคิดวิเคราะห์และคล้อยตามเพราะเขาเป็นผู้นำโลกทางการเมือง อียูเขากำลังพูดถึงเรื่องค่าของเงิน ยกตัวอย่าง เรื่องเหล่านี้มีผลกระทบทั้งสิ้นถ้าเขาจะหลุดออกมามันมีผลต่อเวทีอาเซียน ฉะนั้น สิ่งเหล่านี้มันเป็นเรื่องของนอกโลกทั้งสิ้น ซึ่งประเทศไทยฝืนได้ไหม? ต้องคล้อยตาม!

“ตรงนี้เป็นเรื่องที่เราต้องบอกว่า ยูเรนัส เป็นราศีของโลกที่เข้ามา เขาหมุนไทยต้องหมุนตาม แล้วสิ่งเหล่านี้ ดาวดวงนี้ตามโหราศาสตร์ 84 ปีจึงมาครั้ง ในราศีเมษ ราศีของประเทศไทย ราศีของโลก ก็ลองถ้อยหลังไปโดยประมาณ 84 ปีให้หลังก็ พ.ศ.2575 คือ เชนจ์, อินโนเวชัน, ไอเดียริส, ฟรีด้อม มันมีทั้งหมดนะ ถามว่าวันนี้ ประเทศไทยเราได้พัฒนา 4 คำนี้ดีพอหรือยัง ต้องถามตัวเอง”

ท่านเจ้าคุณธงชัยสรุปใจความสำคัญว่า ประเทศไทยต้องก้าวทันโลกและต้องคล้อยตาม หากพิจารณาความหมายเหล่านี้จะเห็นอย่างชัดเจนว่าการเคลื่อนย้ายของดาวมฤตยูไม่ได้เลวร้ายแต่ประกาศใด

ประเทศไทยไม่ได้เลวร้าย ประเทศไทยจะไม่เลวร้าย ประเทศไทยจะไม่ล้าหลัง ประเทศไทยจะมีกระบวนการรัฐธรรมนูญที่ดี มีเสรีภาพที่ดี ซึ่งแนวโน้มเป็นไปในทางที่ดี ถูกต้อง เป็นไปอย่างนี้ ถือว่าอย่างนี้ประเทศไทยจะก้าวทันโลก ก้าวทันเวทีอาเซียน ก้าวทันอาเซียนที่จะไปบวกกับใครก็ได้ เราก็พร้อม ไม่พร้อมเราก็ต้องพร้อมเพราะโลกเขาพร้อม เวลานี้เขาไม่พูดหรอกว่าจะมา เอ็มโอยูกับประเทศไทย เขาต้องเอ็มโอยูกับอาเซียน เราจะอยู่คนเดียวใน 10 ประเทศไม่ได้

“เพราะฉะนั้น โอเค เราต้องยอมรับดาวดวงนี้มาพร้อมกับเวลาที่ถูกต้อง ที่เหมาะสมกับประเทศไทย เป็นเรื่องดี นี่คือดาว มฤตยู ถ้าทางธรรมะขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านตรัสไว้ว่า มนุษย์ไม่สามารถจะหลีกเลี่ยง 3 คำ ได้ เป็นลักษณะของไตรลักษณ์ อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา

“อนิจจัง ความไม่แน่นอน ทุกคนต้องข้ามทุกข์ให้ได้ถึงจะมีความสุข แล้วทุกคนสุดท้ายต้องเป็นอนัตตา คือศูนย์ซึ่งศูนย์นั้นเป็นธรรมมะสูงส่ง เรียกว่าอนัตตลักขณสูตร เป็นสูตรที่พระพุทธเจ้าแสดงต่อพระอัญญาโกณธัญญะสำเร็จเป็นพระอรหันต์ สำเร็จโสดาบัน ละจากกิเลสไปสู่อริยบุคคล

“ทีนี้ ปุถุชนทั่วไปอยากจะเชนจ์ไหม อยากจะเปลี่ยนแปลงไหม อยากจะอยู่กับที่รวยแล้วอยากอยู่ตามเดิม สุขตามเดิม ทำอะไรเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง โอ้ย! ไม่ได้ เขาบังคับมาจากนอกโลก เวทีโลก การเมืองโลก เศรษฐกิจของโลก มันเป็นเช่นนี้ เวทีโลกคือตัวกำหนดให้ประเทศไทยและทั่วโลกต้องอนุวัติตาม เห็นไหมไซเตรสเราต้องเอาไปขึ้นทะเบียนโลกเขาบีบมา เราต้องมาออกระเบียบกระทรวงมาบังคับใช้ ไทยมีความจำเป็นต้องตื่นตัว มิเช่นนั้น คงต้องรับมฤตยูแบบสามัญชนคือ 'ตาย' ต้องปรับตัวให้เหมาะให้สมกับเวทีโลก”

ท่านเจ้าคุณธงชัยกล่าวด้วยว่า ดาวมฤตยูจะทับดวงเมืองและดวงโลกไปอีก 7 ปีข้างหน้า ฉะนั้น ยากที่จะหลีกเลี่ยงเรื่องความวุ่นวายก่อนการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ แต่ความวุ่นวายเกิดเป็นธรรมดา พระพุทธท่านเจ้าบอกว่าเราเกิดขึ้นมาเพราะมีกรรม ความสุข คือกรรมที่เราทนได้ เพราะฉะนั้นการผ่าตัดผ่านไปเราก็จะหายจะโรคภัยไข้เจ็บก็รอด เรียกว่าเป็น ทุกข์ที่ทนได้ การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้เป็นสิ่งที่จะผ่านไป

สำหรับความเปลี่ยนแปลงในรัฐบาลไทยจะเป็นเช่นไร เป็นหน้าที่ของคนไทยทั้งประเทศที่ต้องจับตามมอง ซึ่งท่านเจ้าคุณธงชัย กล่าวว่า “รัฐบาลเขาก็มีความมุ่งมั่นที่จะเชนจ์ เพราะเขาต้องทำตัวให้สอดคล้องกับเวทีโลก ถ้ารัฐบาลเข้าใจจึงจะมีแนวโน้มเชนจ์ตลอดเวลา เชนจ์การบริหาร การเปลี่ยนรัฐมนตรีซึ่งเป็นเรื่องปกติ ดูประวัติศาสตร์ถอยหลังไป พ.ศ. 2475 ปฏิวัติตัวเองยังมีเลยเพื่อล้างสต๊อก แล้วบางที 3 เดือน 6 เดือนก็เปลี่ยนแล้วเพราะไม่เข้ากับเวทีโลก วันนี้ประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยไหม? ขึ้นชื่อว่าประวัติศาสตร์ก็ย่อมซ้ำ รอยก็อาจจะเป็นแบบนั้น เพื่อปรับปรุงรสชาติของแกงที่เราปรุงแล้วมันไม่ดีก็ต้องเติม ยังอ่อนเค็มอ่อนเปรี้ยวอ่อนหวานก็ต้องเติมให้ได้มาตรฐาน จะปรับใหญ่ปรับเล็กก็ต้องเป็นเรื่องของท่านนายกฯ”

อย่างไรก็ตาม ท่านเจ้าคุณธงชัย ออกตัวว่ายึดถือในความเชื่อนักปราชญ์โบราณ “ไม่ได้นุ่งเหลืองอย่าไปยุ่งเรื่องพระ ไม่ได้เป็นคฤหัสถ์อย่าไปยุ่งเรื่องการเมือง”

พร้อมฝากข้อคิดเพื่อยึดปฏิบัติในช่วงดาวมฤตยูทับดวงเมืองเอาไว้ว่า...

“ทุกชนชั้นทุกวรรณะ ก็ต้องมีสติมีปัญญา ยืนยัน 3 คำนี้ ต้องรู้จัก อนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา ไตรลักษณ์ที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้แล้ว เท่านั้นแหละที่จะช่วยได้ นอกนั้นช่วยอะไรไม่ได้หรอก ถ้าทุกคนไม่ยึดหลักสัจธรรมข้อนี้ คำนี้เป็นคำที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้แล้ว”

และเมื่อกราบนมัสการถามเรื่องการเดินทางไปปลุกเสกให้ ทีม เลสเตอร์ ซิตี้ จนทะยานขึ้นเป็นจ่าฝูง รวมทั้งการปลุกเสก ‘ผ้ายันต์เลสเตอร์’ ลงอาคมขลังที่สร้างความฮือฮาไม่น้อย จนชื่อเสียงของท่านลื่อลั่นในวงการฟุตบอลโลก

“เดี๋ยวนี้ผมพัฒนาตัวเองเป็นเกจิฟุตบอลไปแล้ว” ท่านเจ้าคุณธงชัยพูดหยอกล้อขึ้น
ผ้ายันต์เลสเตอร์ ซึ่งมีสัญลักษณ์ของสโมสรคือสุนัขจิ้งจอกอยู่ตรงกลาง
ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ ท่านเจ้าคุณธงชัยเคยกล่าวในประเด็นนี้ไว้ ความว่า “อาตมา ทำผ้ายันต์ช่วยแล้ว เป็นผ้ายันต์ปลุกเสก มีรูปโลโก้ที เลสเตอร์ เป็นขวัญกำลังใจ เราดูถูกกันไม่ได้เรื่องแบบนี้ วิทยาศาสตร์การกีฬาเท่ากัน ฝึกซ้อมเท่ากัน แต่ทำไมบางครั้งเล่นดี บางทีมก็เล่นไม่ได้ มันเป็นเรื่องขอกำลังใจเช่นกัน”

อย่างไรก็ดี คงต้องบอกว่าเป็นความเชื่อส่วนบุคคล แต่การเดินไปปลุกเสกให้ เลสเตอร์ ซิตี้ อยู่หลายครั้งหลายคราโดยการนิมนต์ของ วิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าสัวคิงเพาเวอร์ ในฐานะเจ้าของสโมสรฯ ได้สร้างปาฏิหาริย์เป็นที่ประจักษ์ ซึ่งฤดูกาลนี้ท่านเจ้าคุณธงชัยตีธงด้วยความมั่นอกมั่นใจว่า แชมป์พรีเมียร์ลีกจะเป็นทีมใดไปเสียมิได้นอกจาก “จิ้งจอกสยาม”

ประเด็นดังกล่าว ส่งผลให้ท่านเริ่มเป็นที่รู้จักในกลุ่มแฟนบอลทั่วโลก ซึ่งท่านเจ้าคุณธงชัย กล่าวขึ้นด้วยความชื่นมื่นว่า

“สี จิ้นผิง (ประธานาธิบดีของสาธารณรัฐประชาชนจีน) บารัค โอบามา (ประธานาธิบดี ประเทศสหรัฐอเมริกา) ดูฟุตบอลกันแล้ว รู้จักเจ้าคุณธงชัยแล้ว ไปเป่ากระหม่อมแฟนคลับ สี จิ้นผิง ลิเวอร์พูล แมนยู เชลซี งอก่องอขิงโดนเลสเตอร์ เป็นใคร? มาจากไหน? ต้องรู้จักแล้ว ผู้นำทั่วโลกต้องรู้จักเจ้าคุณธงชัยหมด รัฐมนตรีทั่วโลก เศรษฐีทั่วโลก ดูฟุตบอลทั้งนั้น”

สำหรับผ้ายันต์เลสเตอร์ ท่านเจ้าคุณธงชัยบอกว่า “เวลานี้มูลค่ามหาศาลนะผ้ายันต์นี้ ไม่มีขายนะแจกอย่างเดียว” พร้อมกล่าวฟันธงทิ้งท้ายด้วยความมั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์ว่า “ปีนี้เลสเตอร์ฯ เป็นแชมป์พรีเมียร์ลีกอย่างแน่นอน”

กระนั้นก็ดีแม้ชื่อของท่านเจ้าคุณธงชัยจะเลื่องลือเพียงใด แต่ท่านเจ้าคุณก็ทิ้งท้ายให้ขบคิดกันถึงการปลุกเสกวัตถุมงคลสร้างพุทธคุณต่างๆ เอาไว้ว่า “ใครๆ ก็เสกได้ อย่าไปหลงตัวเอง อย่าลวงอารมณ์ตัวเอง เดี๋ยวจะโดนมฤตยูเล่นงาน ตาย!”

เอวังก็มีด้วยประการฉะนี้.....สาธุ



กำลังโหลดความคิดเห็น