ผู้จัดการรายวัน 360 - ศาลให้ประกัน “วัฒนา” ห้ามเดินทางไปนอก เจ้าตัวโพสต์กลางดึก จวก คสช.ลุแก่อำนาจ ยันเดินหน้าวิจารณ์ต่อเนื่อง สับกินภาษี ปชช. ทำไมจะวิจารณ์ไม่ได้ “ประยุทธ์” แจงเตือนหลายครั้งไม่ฟัง ชี้แค่เชิญไม่ใช่บุกไปหิ้วตัว ไม่สนถูกขยายความฟ้องยูเอ็น “อ๋อย” เหน็บ “บิ๊กป้อม” โกรธส่วนตัวมากกว่า
วานนี้ (3 มี.ค.) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง 63 พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาล (สน.) นางเลิ้ง ได้นำ นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ผู้ต้องหาคดีนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติม ซึ่งศาลได้อนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้มีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 3-14 มี.ค. ตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ ก่อนที่นายวัฒนาได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 1 แสนบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยห้ามผู้ต้องหาเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาลก่อน พร้อมกำชับผู้ต้องหาให้มารายงานตัวต่อศาลวันที่ 14 มี.ค.ตามที่ครบฝากขังครั้งแรกด้วย
** “วัฒนา” ลั่นวิจารณ์ คสช.ต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ นายวัฒนา ได้รับการปล่อยตัวเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมาก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คทันทีเกี่ยวกับการถูกจับกุมตัว ในหัวข้อ “ทำไมผมถึงวิจารณ์คุณไม่ได้” โดยระบุตอนหนึ่งว่า ทหารได้พาไปที่มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) และควบคุมตัวในห้องสี่เหลี่ยม มีนายทหารมาพูดคุยกับด้วย 2 ชุด ก่อนที่จะถูกควบคุมตัวมาที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และส่งถึงบ้านประมาณ 23.10 น. ซึ่งนายทหารทุกคนปฏิบัติกับตนอย่างสุภาพ แต่ไม่ได้หมายความวิธีการที่ถูกใช้ให้ทำนั้นถูกต้อง ที่ยกกำลังมาบุกบ้านเพื่อควบคุมตัว ซึ่งเป็นพฤติกรรมของการลุแก่อำนาจและใช้อำนาจตามอำเภอใจ ขัดกับคำพูดที่เรียกร้องให้ทุกคนเคารพกฎหมาย
“ผมยืนยันกับนายทหารที่ถูกใช้ให้มาปรับทัศนคติว่า ผมจะยังคงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป เพราะใครก็ตามที่กินเงินเดือนจากภาษีอากรของพี่น้องประชาชนซึ่งเป็นเงินของผมด้วย ย่อมจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้เสมอ ที่สำคัญผมไม่เคยขอร้องให้พวกคุณเข้ามายึดอำนาจ แล้วทำไมผมจึงจะวิจารณ์ไม่ได้ พวกคุณไม่มีสิทธิมาใช้พฤติกรรมแบบที่ทำกับผมโดยเด็ดขาด เพราะผมไม่ยอมและไม่เคยกลัว” นายวัฒนา ระบุ
นายวัฒนา เปิดเผยด้วยว่า ภายหลังจากที่ถูกควบคุมตัวไปแล้ว ได้มีนายทหารกลุ่มหนึ่งย้อนกลับมาที่บ้านโดยหลอกแม่บ้านว่า ตนได้ให้มาเอาโทรศัพท์ที่ฝากไว้กับลูกสาว แต่โชคดีที่ลูกสาวไม่หลงเชื่อ จึงไม่มอบโทรศัพท์ให้ไป
** “ประยุทธ์” เมิน พท.ขยายความ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.กล่าวถึงกรณีที่ทหารเชิญตัว นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย มาปรับทัศนคติและแจ้งขอหาผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯว่า ก่อนหน้านี้ได้เตือนไปหลายครั้งแล้ว อยากให้ดูคำสั่ง คสช.ว่าอย่างไร มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวเขียนว่าอย่างไรถึงการกระทำอะไรที่สร้างความเดือดร้อนและสร้างความขัดแย้ง
“วันนี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ เขาไม่ควรจะพูดอะไรที่เสียหาย ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ที่เป็นประโยชน์ ผมเคยไปยุ่งอะไรหรือไม่ บางคนไม่เป็นประโยชน์ ผมก็ยังทน” พล.อ.ประยุทธื กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการนำเรื่องของนายวัฒนาไปยื่นต่อองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนก็ชี้แจงยูเอ็นตลอดอยู่แล้ว และให้ทูตชี้แจงในต่างประเทศ ส่งข้อมูลพื้นฐานไปแล้ว ใครทำความผิดอะไรบ้าง พฤติกรรมที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ส่งไปหมดทุกประเทศ ดังนั้นทุกประเทศจะมีชื่อและข้อมูลหมด เวลาใครพูดมาก็ไปชี้แจง เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ คงไม่ปล่อยให้เขาไปฟ้องข้างเดียว ไม่ได้เป็นการตอบโต้ แต่เป็นการนำข้อเท็จจริงไปชี้แจง และหลายประเทศเขาก็เข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ เราอย่ามาทำลายกันเองเลย
** “เพื่อไทย” โร่ฟ้องยูเอ็น
วันเดียวกัน น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ และ นางชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ได้เป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าพบผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งอง๕การสหประชาชาติ ณ สำนักงานยูเอ็น ถ.ราชดำเนิน เพื่อรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย พร้อมมอบแถลงการณ์พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 2 มี.ค. กรณีที่ทหารควบคุมตัวนายวัฒนาไปปรับทัศนคติด้วย
น.ส.วิสาระดี เปิดเผยว่า ไม่ได้มาเรียกร้องเพื่อนักการเมืองของพรรคเพียงอย่างเดียว แต่เรียกร้องในฐานะประชาชนคนหนึ่ง เพื่อป้องกันสิทธิขั้นพื้นฐานในการแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาสำคัญที่บ้านเมืองต้องการพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และรณรงค์ประชามติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นไปอย่างยุติธรรม อันจะส่งผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนและระบอบประชาธิปไตยในอนาคตข้างหน้า
** “อ๋อย” เชื่อโดนหิ้วเพราะด่า “บิ๊กป้อม”
อีกด้าน นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ก็โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คถึงกรณีที่นายวัฒนาถูกควบคุมตัวระบุตอนหนึ่งว่า เชื่อว่าปรับทัศนคตินายวัฒนาไม่ใช่เรื่องที่ไปวิจารณ์ คสช. แต่น่าจะมาจากไปวิจารณ์ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่พูดถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างรุนแรงมากกว่า หรือเรียกไปปรับทัศนคติจากความโกรธเป็นส่วนตัว
วานนี้ (3 มี.ค.) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง 63 พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาล (สน.) นางเลิ้ง ได้นำ นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย ผู้ต้องหาคดีนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลปลอมไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลอันเป็นเท็จที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการกระทำเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มายื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เนื่องจากการสอบสวนยังไม่เสร็จสิ้น ต้องสอบปากคำพยานเพิ่มเติม ซึ่งศาลได้อนุญาตให้ฝากขังผู้ต้องหาได้มีกำหนด 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 3-14 มี.ค. ตามที่พนักงานสอบสวนร้องขอ ก่อนที่นายวัฒนาได้ยื่นคำร้องพร้อมหลักทรัพย์เป็นเงินสดจำนวน 1 แสนบาท เพื่อขอปล่อยชั่วคราว ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ไม่มีพฤติการณ์หลบหนี จึงอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยห้ามผู้ต้องหาเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่ได้รับอนุญาตจากศาลก่อน พร้อมกำชับผู้ต้องหาให้มารายงานตัวต่อศาลวันที่ 14 มี.ค.ตามที่ครบฝากขังครั้งแรกด้วย
** “วัฒนา” ลั่นวิจารณ์ คสช.ต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังที่ นายวัฒนา ได้รับการปล่อยตัวเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 2 มี.ค.ที่ผ่านมาก็ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊คทันทีเกี่ยวกับการถูกจับกุมตัว ในหัวข้อ “ทำไมผมถึงวิจารณ์คุณไม่ได้” โดยระบุตอนหนึ่งว่า ทหารได้พาไปที่มณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) และควบคุมตัวในห้องสี่เหลี่ยม มีนายทหารมาพูดคุยกับด้วย 2 ชุด ก่อนที่จะถูกควบคุมตัวมาที่ สน.นางเลิ้ง เพื่อแจ้งข้อกล่าวหาตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ และส่งถึงบ้านประมาณ 23.10 น. ซึ่งนายทหารทุกคนปฏิบัติกับตนอย่างสุภาพ แต่ไม่ได้หมายความวิธีการที่ถูกใช้ให้ทำนั้นถูกต้อง ที่ยกกำลังมาบุกบ้านเพื่อควบคุมตัว ซึ่งเป็นพฤติกรรมของการลุแก่อำนาจและใช้อำนาจตามอำเภอใจ ขัดกับคำพูดที่เรียกร้องให้ทุกคนเคารพกฎหมาย
“ผมยืนยันกับนายทหารที่ถูกใช้ให้มาปรับทัศนคติว่า ผมจะยังคงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และบุคคลอื่นที่เกี่ยวข้องต่อไป เพราะใครก็ตามที่กินเงินเดือนจากภาษีอากรของพี่น้องประชาชนซึ่งเป็นเงินของผมด้วย ย่อมจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ได้เสมอ ที่สำคัญผมไม่เคยขอร้องให้พวกคุณเข้ามายึดอำนาจ แล้วทำไมผมจึงจะวิจารณ์ไม่ได้ พวกคุณไม่มีสิทธิมาใช้พฤติกรรมแบบที่ทำกับผมโดยเด็ดขาด เพราะผมไม่ยอมและไม่เคยกลัว” นายวัฒนา ระบุ
นายวัฒนา เปิดเผยด้วยว่า ภายหลังจากที่ถูกควบคุมตัวไปแล้ว ได้มีนายทหารกลุ่มหนึ่งย้อนกลับมาที่บ้านโดยหลอกแม่บ้านว่า ตนได้ให้มาเอาโทรศัพท์ที่ฝากไว้กับลูกสาว แต่โชคดีที่ลูกสาวไม่หลงเชื่อ จึงไม่มอบโทรศัพท์ให้ไป
** “ประยุทธ์” เมิน พท.ขยายความ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.กล่าวถึงกรณีที่ทหารเชิญตัว นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย มาปรับทัศนคติและแจ้งขอหาผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯว่า ก่อนหน้านี้ได้เตือนไปหลายครั้งแล้ว อยากให้ดูคำสั่ง คสช.ว่าอย่างไร มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราวเขียนว่าอย่างไรถึงการกระทำอะไรที่สร้างความเดือดร้อนและสร้างความขัดแย้ง
“วันนี้ไม่ใช่สถานการณ์ปกติ เขาไม่ควรจะพูดอะไรที่เสียหาย ถ้าเป็นการวิพากษ์วิจารณ์ที่เป็นประโยชน์ ผมเคยไปยุ่งอะไรหรือไม่ บางคนไม่เป็นประโยชน์ ผมก็ยังทน” พล.อ.ประยุทธื กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่มีการนำเรื่องของนายวัฒนาไปยื่นต่อองค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนก็ชี้แจงยูเอ็นตลอดอยู่แล้ว และให้ทูตชี้แจงในต่างประเทศ ส่งข้อมูลพื้นฐานไปแล้ว ใครทำความผิดอะไรบ้าง พฤติกรรมที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ส่งไปหมดทุกประเทศ ดังนั้นทุกประเทศจะมีชื่อและข้อมูลหมด เวลาใครพูดมาก็ไปชี้แจง เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ คงไม่ปล่อยให้เขาไปฟ้องข้างเดียว ไม่ได้เป็นการตอบโต้ แต่เป็นการนำข้อเท็จจริงไปชี้แจง และหลายประเทศเขาก็เข้าใจมากขึ้นเรื่อยๆ เราอย่ามาทำลายกันเองเลย
** “เพื่อไทย” โร่ฟ้องยูเอ็น
วันเดียวกัน น.ส.วิสาระดี เตชะธีราวัฒน์ และ นางชยิกา วงศ์นภาจันทร์ ได้เป็นตัวแทนพรรคเพื่อไทย เดินทางเข้าพบผู้แทนสำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งอง๕การสหประชาชาติ ณ สำนักงานยูเอ็น ถ.ราชดำเนิน เพื่อรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย พร้อมมอบแถลงการณ์พรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 2 มี.ค. กรณีที่ทหารควบคุมตัวนายวัฒนาไปปรับทัศนคติด้วย
น.ส.วิสาระดี เปิดเผยว่า ไม่ได้มาเรียกร้องเพื่อนักการเมืองของพรรคเพียงอย่างเดียว แต่เรียกร้องในฐานะประชาชนคนหนึ่ง เพื่อป้องกันสิทธิขั้นพื้นฐานในการแสดงความคิดเห็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเวลาสำคัญที่บ้านเมืองต้องการพื้นที่ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็น และรณรงค์ประชามติรับหรือไม่รับร่างรัฐธรรมนูญให้เป็นไปอย่างยุติธรรม อันจะส่งผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนและระบอบประชาธิปไตยในอนาคตข้างหน้า
** “อ๋อย” เชื่อโดนหิ้วเพราะด่า “บิ๊กป้อม”
อีกด้าน นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ก็โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊คถึงกรณีที่นายวัฒนาถูกควบคุมตัวระบุตอนหนึ่งว่า เชื่อว่าปรับทัศนคตินายวัฒนาไม่ใช่เรื่องที่ไปวิจารณ์ คสช. แต่น่าจะมาจากไปวิจารณ์ พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่พูดถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อย่างรุนแรงมากกว่า หรือเรียกไปปรับทัศนคติจากความโกรธเป็นส่วนตัว