พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงข่าวภายหลังประชุม ครม.ว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้กล่าวในที่ประชุม ถึงการเดินทางไปต่างประเทศว่า เขามีการยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น เพราะว่าปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงในเรื่องการเกิดเหตุร้ายมีมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ทำเนียบรัฐบาล เดิมที่อาจคำนึงถึงความสะดวกของผู้ที่เข้ามาในทำเนียบฯ ไม่ว่าจะเป็นผู้บริหาร เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ประชาชนที่มายื่นเรื่องร้องเรียน หรือแม้กระทั่งสื่อมวลชน หลังจากนี้ ก็ควรจะมีมาตรการรักษาความ ปลอดภัยที่เข้มงวดมากขุ้น พล.อ.ประวิตร จึงได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปกำหนดกฎ กติกา เพื่อกำหนดมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ทำเนียบฯ ซึ่งถือเป็นพื้นที่ศูนย์กลางการบริหารประเทศให้มีความเข้มงวดมากขึ้น ก่อให้เกิดความมั่นใจในการรักษาความปลอดภัย เพราะว่า ศูนย์อำนวยการและสั่งการที่สำคัญที่สุดของประเทศอยู่ที่นี้ ถ้ามีความละหลวม วันข้างหน้าอาจจะมีความไม่ปลอดภัยที่จะเกิดขึ้น จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ดังนั้น หน่วยงานทุกระดับมีมาตรการที่ตอบสนองกับการรักษาความปลอดภัยมากขึ้น ความสะดวกของทุกคนอาจจะลดลงบ้าง
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า ในที่ประชุมครม. พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึง เรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. สั่งการให้ทำการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดภายใน 6 เดือน โดยวันที่ 4 มี.ค.นี้ จะครบ 4 เดือน หลังจากที่นายกฯสั่งการ ซึ่งก็ได้รวบรวมข้อมูลผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศครบแล้ว และวันที่ 4 มี.ค.นี้ จะเริ่มดำเนินการจับกุม กวาดล้าง ผู้มีอิทธิพล เพื่อเป็นการจัดระเบียบสังคมไทย และ 2 เดือนจากนี้ จะจับกุมกวาดล้างทุกพื้นที่ โดยฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง บูรณาการทำงานร่วมกัน
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวด้วยว่า ในที่ประชุมครม. พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึง เรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. สั่งการให้ทำการปราบปรามผู้มีอิทธิพล ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดภายใน 6 เดือน โดยวันที่ 4 มี.ค.นี้ จะครบ 4 เดือน หลังจากที่นายกฯสั่งการ ซึ่งก็ได้รวบรวมข้อมูลผู้มีอิทธิพลทั่วประเทศครบแล้ว และวันที่ 4 มี.ค.นี้ จะเริ่มดำเนินการจับกุม กวาดล้าง ผู้มีอิทธิพล เพื่อเป็นการจัดระเบียบสังคมไทย และ 2 เดือนจากนี้ จะจับกุมกวาดล้างทุกพื้นที่ โดยฝ่ายความมั่นคง ทหาร ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง บูรณาการทำงานร่วมกัน