xs
xsm
sm
md
lg

ทางเลือกทางรอดเศรษฐกิจ...

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ป้อมพระอาทิตย์
โดย โสภณ องค์การณ์

เมืองไทยของหมู่เฮายุคนี้ ไม่มีน้ำเพียงพอสำหรับทำนา ไม่มีน้ำมากให้ปลาได้ว่ายวน แม้น้ำจะยังพอมีอยู่บ้างก็ปนเปื้อนสารพิษ ทั้งคนและสัตว์อยู่ในชะตากรรมของความเสี่ยงพอๆ กัน เป็นผลของมรดกบาปจากการตัดไม้ทำลายป่าแหล่งต้นน้ำในช่วง 50 กว่าปี จนเกือบวอดทั้งแผ่นดิน

ปัญหาภัยแล้งที่กำลังจะกลายเป็นวิกฤติในเกือบทุกภาค เว้นภาคใต้ คือน้ำในเขื่อนหลักเหลือน้อยแทบขอดติดก้นอ่าง เป็นครั้งแรกใน 30 ปี เหลือพอใช้จนถึงเดือนมิถุนายน เมื่อไม่มีใครบอกได้ว่าถ้าถึงวันนั้นฝนยังไม่มาจะเอาน้ำที่ไหนใช้ ก็มีคำรับรองว่าจะมีน้ำพอใช้ถึงเดือนสิงหาคมโน่น

ย้ำอีกครั้ง น้ำไม่พอเพียงอย่างที่เคยเป็น เพราะความโง่เขลาเบาปัญญา ความตื่นตระหนกของนักการเมืองที่ประชาชนเลือกเข้ามานั่นแหละ และถ้ายังมีการซื้อเสียงเลือกตั้งคราวหน้า พวกสร้างเวรกรรมให้บ้านเมืองหน้าเดิมแต่ยกระดับความหิวโหยจะหวนคืนกลับมาสร้างบาปซ้ำรอยเดิม

ประเทศไทยมีนักทำลายธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอันดับต้นๆ ของโลก จากความอุดมสมบูรณ์ กลายเป็นความวิปริต ความแห้งแล้ง ต้องให้เวลาอย่างน้อย 5 ปีในการเติมน้ำในเขื่อนให้อยู่ระดับเดิม แต่ต้องมีฝนฟ้าตกตามปกติ ไม่มีเอลนินโญ แต่มีพายุไต้ฝุ่น ดีเปรสชั่นหอบน้ำมาเข้าเขื่อน

รอดูว่าวิกฤตภัยแล้งจะส่งผลกระทบต่อชาวเมืองแค่ไหน ชาวชนบทนั้นน้ำตาเหือดแห้งไปนานแล้ว ข้าวนาปรังถูกเว้นไว้ 2 ปี ข้าวนาปียังพอทำได้แต่ราคาไม่ดีเพราะปัญหาในการบริหารจัดการ

บ้านเมืองจึงมีเรื่องเยอะ แต่ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง มีระบบการเมืองกำลังด้อยพัฒนาดูน่าเวทนา ความขัดแย้งไม่เกี่ยวกับอุดมการณ์ แต่เน้นเรื่องการแก่งแย่งอำนาจเพื่อ

ผลประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้อง ผู้บริหารขาดความน่าเชื่อถือ ไม่น่าไว้ใจ เผลอเมื่อไหร่เป็นต้องหาช่องทางโกงทันที

คณะผู้กุมอำนาจรัฐปัจจุบันถูกสงสัยว่ากำลังเล่นเกมซ่อนกลหาทางยื้อเวลาอยู่ต่อโดยใช้กฎหมายรัฐธรรมนูญกำหนด 5 ปีไว้สำหรับช่วงเปลี่ยนผ่าน อ้างความมั่นคง แต่คนรู้ทันและกลุ่มปฏิปักษ์เชื่อว่าที่แท้เป็นแผนการอยู่ยาว เพื่อสร้างความปลอดภัยเมื่อถึงเวลาลงจากหลังเสือ

เป็นช่วงจังหวะรุมเร้าของปัญหาสารพัด ต้องใช้ความรู้ ความใจเย็น มีสติ และคณะทำงานที่คิดฉลาด ทันสมัยเข้ามาจัดการเพื่อให้รอดพ้นวิฤตการเมือง เศรษฐกิจ สังคม คณะคุณท่านบอกว่าจะกำหนดแนวยุทธศาสตร์บริหารบ้านเมืองยาวนาน 30 ปีวางโครงสร้างเพื่อไม่ให้มีการรัฐประหารยึดอำนาจอีกต่อไปซึ่งจะทำให้มีทิศทางชัดเจน มีกฎเข้มจัดการกับการทุจริต คอร์รัปชั่น

นั่นเป็นเรื่องของการเมือง ความอยู่รอด หรือเป็นความทะเยอทะยานของใคร และต้องการมีอำนาจหรือไม่ อีกไม่นานชาวบ้านคงได้รู้เห็น ถ้าใครคิดไม่ซื่อ อย่าหวังว่าจะรอดพ้นไปได้เพราะประชาชนยอมทนกับสภาพกดดันตั้งแต่การรัฐประหารมีกฎจำกัดสิทธิต่างๆ จนแทบไม่เหลือ

มาดูสภาวะปัจจุบันดีกว่าว่าระบบเศรษฐกิจเอื้ออำนวยอวยภาคการค้าอุตสาหกรรมมีระบบป้องกันอย่างไรบ้างเมื่อสถานการณ์เศรษฐกิจซบเซา เกือบทั้งโลก หลายชาติหาทางออกไม่ได้ การติดเชื้อเศรษฐกิจถดถอยเรื้อรังเช่นนี้พิสูจน์ให้เห็นว่าประเทศไทยรับกับวิกฤตได้ดีแค่ไหน อย่างไร

ตัวเลขการส่งออกติดลบติดต่อกันนานหลายเดือนเมื่อความต้องการน้ำมันปิโตรเลียมลดลงทำให้ราคาน้ำมันดิบตกต่ำ คนไม่ใช้เงิน การค้าฝืดเคือง เงินเฟ้อติดลบ กลายเป็นสภาวะเงินฝืดยืดเยื้อกว่า 1 ปี สถาบันการเงินแทบไม่ปล่อยกู้ยกเว้นในรายซึ่งสามารถชำระหนี้ได้ตลอด

เราเห็นได้ว่าสินค้าทั้งเกษตร อุตสาหกรรมอยู่ในสภาวะราคาตกต่ำ ความต้องการมีน้อย คนไทยอยู่ในสภาพจำยอมกับค่าครองชีพสูง น้ำมันราคาแพงกว่าตลาดโลกภาคเกษตรมีภัยแล้ง ปลูกข้าวไม่ได้ ต้องหาทางปลูกพืชน้ำน้อยเพื่อให้มีรายได้พออยู่รอด ไม่รู้ว่าจะดีขึ้นเมื่อไหร่ ดูแล้วมืดมน

เมื่อภาคอุตสาหกรรมมีปัญหา เจ้าของกิจการใช้มาตรการต่างๆ ลดต้นทุน ค่าใช้จ่าย วิธีสุดท้ายคือลดจำนวนคนงาน พนักงาน ถ้าสายป่านไม่ยาว ขาดสภาพคล่อง ต้องปิดกิจการ ส่งผลเสียหาย คนว่างงาน หางานยาก อาจขาดรายได้ต่อเนื่องจนเกิดปัญหาสังคม อาชญากรรม

ภาคเกษตรยังพอเลี้ยงตัวเองด้วยอาหารที่ผลิตได้ในพื้นที่ ขาดเงินสดบ้างแต่ยังมีที่อยู่อาศัย มี อาหาร แต่แรงงาน คนในสังคมเมืองต้องมีรายได้เพื่อจ่ายค่าเช่า ผ่อนที่อยู่อาศัย การครองชีพ เห็นได้ชัดว่าเมื่อคนมีอาหารใส่ท้อง ความคิดจะประกอบอาชญากรรมเพื่ออยู่รอดไม่รุนแรงมาก

คุณท่านสมควรทบทวนแนวทางสำหรับบ้านเมืองหรือยังว่าจะมุ่งสู่อุตสาหกรรมหรือเกษตรกรรม หรือทั้ง 2 ประการ จะแบ่งสัดส่วนอย่างไร ไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม มลภาวะเป็นพิษ จะเน้นอุตสาหกรรม หรือเกษตรอินทรีย์ใช้หลักเศรษฐกิจพอเพียงตามที่ได้ไปคุยไว้ในต่างประเทศ

แนวคิดเรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษสำหรับอุตสาหกรรมมีแต่ก่อให้เกิดปัญหาต่อชุมชน ผลกระทบต่อธรรมชาติ ความขัดแย้งรุนแรง เจ้าหน้าที่รัฐไม่สามารถจัดการสะสางได้ ชาวบ้านถูกกระทำอย่างโหดร้ายโดยนายทุนทั้งจากต่างประเทศ กลุ่มอิทธิพลภายในประเทศดังเช่นกรณีเหมืองทอง

แนวทางอุตสาหกรรมที่ผ่านมาได้ทำลายธรรมชาติ ชุมชน มลพิษอุตสาหกรรมเกือบทั่วประเทศ การมุ่งเอาใจภาคธุรกิจ แต่ละทิ้งภาคเกษตรได้สร้างความเหลื่อมล้ำ ความคับแค้นใจให้กลุ่มทุนน้อยด้อยโอกาส พ่อค้าระดับล่างจนแทบสิ้นหนทางทำมาหากิน ขาดรายได้ เป็นปัญหาสังคม

การให้ทุกคนมีอาหารใส่ท้องทุกคน ทุกมื้อ ไม่ใช่เป็นเป้าหมายสำคัญของรัฐบาลหรือ

ยุทธศาสตร์ที่เหมาะสม คือแนวทางที่ให้บ้านเมืองอยู่รอดในระยะยาว ประชาชนพอใจ ภาคเกษตรไม่ต้องพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ มีแต่ภาคอุตสาหกรรมทำให้เกิดหนี้สิน นับวันเราสูญเสียความสามารถในการแข่งขัน มีแต่ภาคเกษตรเท่านั้นเป็นมรดกของแผ่นดินแบบยั่งยืน

เพียงวางแผนการผลิต การตลาดพืชผลให้รอบคอบ ไม่ต้องเสียเงินนำเข้าวัตถุดิบ

ยังไม่สายเกินไปที่จะเลือกว่าคุณท่านจะนำพาบ้านเมืองไปบนเส้นทางทุนนิยมสามานย์พึ่งพาการลงทุนจากต่างประเทศ ธรรมชาติเสียหาย ค่าครองชีพสูง หรือแนวทางเศรษฐกิจพอเพียง นี่จะเป็นตัวบ่งชี้ว่าอนาคตของประเทศจะเป็นของนายทุนใหญ่หรือประชาชนทั่วไป

การเลือกเส้นทางผิด เหมือนเริ่มต้นภาคอุตสาหกรรมเชิงทำลายกว่า 50 ปีก่อน จะนำไปสู่หายนะ ถ้าเกิดวิกฤตเศรษฐกิจ หรือภาวะสงคราม โรงงานอุตสาหกรรมไม่ได้ผลิตอาหาร ท้องทุ่งท้องนา ธรรมชาติต่างหากที่ผลิตอาหารให้คนอยู่รอดยั่งยืน

ทางเลือกของคุณท่านจะชี้ชัดว่าเป็นผู้นำประเภทใด เพื่อใคร


กำลังโหลดความคิดเห็น