xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กตู่” ต้อง “ใช้ธรรม” มิใช่ “ใช้อธรรม” (ตอนเจ็ด) “บิ๊กตู่” - อ่านบรรทัดรองสุดท้ายก็พอ!

เผยแพร่:   โดย: ชัชวาลย์ ชาติสุทธิชัย

ทุนสามานย์-ทำให้มนุษย์โลกจมปลักในกิเลสสารพัด มนุษย์-จึงขาดความเอื้ออาทรซึ่งกันและกัน โลก-พลอยไร้สันติสุขและเต็มไปด้วยสงคราม

ผู้เรียบเรียงหนังสือ “ใช้ธรรมะกับการเมือง” ได้หยิบยกถ้อยคำของ “พุทธทาส อินทปัญโญ” ณ ลานหินโค้ง สวนโมกขพลาราม เมื่อวันที่ 9 เมษายน 2526 มาไว้ในหน้า 180 ดังนี้

“...เมื่อโลกมันพัฒนาเพื่อกิเลส ก็ตามใจมัน เราเพื่อธรรมะ เพื่อสันติภาพ เพื่อสันติสุข โลกมันยิ่งพัฒนาๆ จะไปสู่ความวินาศ ก็ตามใจมัน ; แต่เราจะพัฒนามาสู่สันติภาพ คือความสงบสุข ใครเขาจะว่า ถอยหลังเข้าคลอง ก็ช่างหัวมัน ให้เขาว่า...”

ผู้เขียนหนังสือเล่มนี้กล่าวถึง “ท่านพุทธทาส” กับ “สงครามสหรัฐฯ บุกยึดอิรัก” ได้อย่างแหลมคมว่า

กระแสสงครามที่โหดร้ายรุนแรง และความตายอย่างทารุณของประชาชนอิรักที่หมดทางสู้ เกิดขึ้นจากอิทธิพลการเมืองของสหรัฐฯ ตามวิธีคิดแบบทุนนิยม ที่กล้าลงทุนไปแล้วสี่แสนล้านบาท ใช้ระเบิดทำลายร้ายแรง ฆ่ามนุษย์ตาดำๆ ฝืนมติยูเอ็นที่ชาวโลกช่วยกันตั้งขึ้นไว้แก้ปัญหา

ทำให้โลกรู้ว่า ยูเอ็น หรือสหประชาชาติ ไม่ใช่ที่พึ่งถาวร เมื่อมหาอำนาจไม่มีความถูกต้องทางการเมือง โลกก็กำลังจะวินาศ แสดงถึงภาวะศีลธรรมของโลกว่า กำลังพ่ายแพ้

เป็นเวลาเนิ่นนานถึง 35 ปีมาแล้ว ที่ “ท่านพุทธทาส” เขียนแสดงความห่วงใยการเมืองโลก ไว้ด้วยลายมือของท่านเอง ดังนี้;

“โลกกำลังจะวินาศ เพราะศีลธรรมกำลังพ่ายแพ้! องค์กรโลก, ยังไม่สามารถตั้งอยู่ในฐานะผู้พิทักษ์สันติภาพของโลกได้ แต่กลายเป็นเวทีที่ยื้อแย่งฉกฉวย เอาความได้เปรียบแก่กันและกันเสียมากกว่า. ศาสนาเหลืออยู่เป็นที่พึ่งด่านสุดท้าย ที่จะเป็นความหวัง หรือที่พึ่งของโลก, แต่ก็ยังไม่เป็นที่เข้าใจกันอย่างเพียงพอ ; ยังจะต้องทำความเข้าใจกัน และประสานงานกันอีกมาก. กิจกรรมธรรมโฆษณ์ มีความมุ่งหมายส่วนลึก เพื่อจะแก้ปัญหาส่วนนี้.”

ในหนังสือหน้า 64-65 “ท่านพุทธทาส” ได้ฟันธงถึง “รัฐบาล” และ “ยูเอ็น” ไว้ ดังนี้

“รัฐบาลจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ การเมือง หรือการปกครองไม่ได้ ถ้าไม่มีธรรมะ เพราะมันจะไปมีปัญหาที่เกิดจากปากท้องจนแก้ไม่ไหว ขอให้คอยดูเถอะ... นี่ปัญหาปากท้องขนาดยักษ์ของประเทศหรือของโลก ก็ต้องแก้ได้ด้วยธรรมะ ธรรมะมีมาแล้ว ปัญหาเหล่านี้ก็ไม่มี อย่าว่าแต่ปัญหาปากท้องของคนแต่ละคน...

แต่เดี๋ยวนี้คนในโลกแต่ละประเทศไม่สนใจธรรมะ มันเห็นเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องการเมือง...เป็นเรื่องสำคัญไปเสีย ไม่มาสนใจธรรมะ มันก็แก้ปัญหาเหล่านั้นไม่ได้ ขอให้คอยดูไปเถอะ...

ขอให้เราทุกคนเห็นถึงข้อเท็จจริงอันนี้ แล้วช่วยกันเต็มที่เพื่อให้ธรรมะกลับมา มีการปฏิบัติหน้าที่ของตนถูกต้องตามกฎของธรรมชาติ คือเป็นมนุษย์ที่ถูกต้องทุกขั้นตอน ตั้งแต่เกิดจนตาย ให้มีธรรมะอย่างนี้กลับมา แล้วปัญหาเลวร้ายต่างๆ ในสังคม ในประเทศ หรือว่าในโลกนี้ก็จะหมดไป เดี๋ยวนี้ทั้งโลกเขาไม่มีเรื่องธรรมะ ที่จะมาปรึกษาหารือหรือแก้ไขปัญหาอื่นๆ”

“ท่านพุทธทาส” ยังกล่าวถึง “ยูเอ็น” อีกครั้งอย่างตรงไปตรงมาว่า

“องค์การสหประชาชาติเป็นที่ทะเลาะวิวาท ไม่ใช่เป็นที่ที่มีธรรมะ ไม่ใช้ธรรมะแก้ปัญหาในโลก เขาไม่ได้ใช้ธรรมะกันเลย เขาใช้ฝีปาก ใช้อำนาจ หรือใช้พรรคพวกอะไรต่างๆ เพื่อแก้ปัญหา อย่างนี้มันจะสร้างปัญหาปากท้อง คือ ความไม่สงบสุขของประชาชนในโลกนี้เพิ่มขึ้น...”

มิใช่เรื่องน่าแปลกใจอันใดเลย ทั้งเรื่องใกล้ตัวและเรื่องไกลตัวที่เกิดขึ้นบนโลก เมื่อ “ท่านพุทธทาส” ใช้ธรรมพิจารณา ย่อมเข้าใจใน “เหตุที่ก่อให้เกิดผล” ตามมา

วันนี้คนทั้งโลกรู้ว่า “องค์กร” ระดับโลกอย่าง “ยูเอ็น” นั้น มิได้เป็นเพียงแค่ “เสือกระดาษ” เท่านั้น แต่หลายครั้งที่ “ยูเอ็น” ยังเป็น “เครื่องมือ” ให้มหาอำนาจบางชาติ บุกปล้นฆ่าชาติที่เล็กกว่าอีกด้วย ดังสงครามมะกันบุกปล้นบุกฆ่าบุกยึดอิรักไงล่ะ

ชัดไหมล่ะว่า...สงครามกับสันติภาพเกิดขึ้นจาก-คน! เรื่องดีกับเรื่องชั่วก็เกิดขึ้นจาก-คน!

“ท่านพุทธทาส” จึงระบุว่า “อำนาจของวัตถุนิยม ทำให้นักการเมืองมุ่งแต่จะเอาประโยชน์ โดยไม่ต้องนึกถึงศีลธรรม...”

ชาติไทยมิได้มีเพียง “นักการเมือง” เท่านั้น ที่ละทิ้งศีลธรรมเพราะ...

พระสงฆ์-มนุษย์ที่ต้องมีศีลและมีธรรมสูงสุดในสังคมไทย ทว่าพระสงฆ์ใหญ่น้อยจำนวนมิใช่น้อยในวันนี้ ได้ลดละจากพระธรรมวินัย ไปจมอยู่กับกิเลสในอำนาจ-เงินทอง-ลาภยศ-รถเบนซ์ ฯลฯ

ศาสนจักรกับราชอาณาจักร-ต้องพึ่งพากันและกัน ดังนั้น พระสงฆ์กับฆราวาสก็ต้องพึ่งพากันและกัน โดยพระสงฆ์ผู้รู้-ผู้ปฏิบัติธรรมต้องเป็น “หัวหลัก” ส่วนพระสงฆ์รูปใดหลงกิเลสละทิ้งธรรมก็กลายเป็น “หัวตอ”

งานนี้...พระสงฆ์และฆราวาสที่ดี จึงต้องทำ “หน้าที่” เป็น “หัวเรี่ยวหัวแรง” ขจัด “แก๊งหัวตอคลุมผ้าเหลือง” ที่เป็น “มารศาสนา” ให้หมดไปจากวงการพระสงฆ์โดยไว...จริงไหม“บิ๊กตู่?”

โดย “ท่านพุทธทาส” เชื่อว่า การเมืองกับศาสนาจะต้องไปด้วยกัน ต้องใช้หลักเดียวกัน คือ หลักของ “หน้าที่” เพราะทั้งการเมืองและธรรมะ คือ “การจัดการให้คนหมู่มาก อยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ”

ถ้านักการเมืองยังแบ่งแยกจากธรรมะอยู่ ท่าน(พุทธทาส)ว่า...

“ก็เป็นความโง่ของผู้แบ่งแยกเอง”

(ย้ำ...ควรอ่านหนังสือ “ใช้ธรรมะกับการเมือง” ทั้งเล่ม-อ่านต่อพุธหน้า)
กำลังโหลดความคิดเห็น