ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา
ใครจะไปเชื่อว่า คำสั่งห้ามตำรวจนอกพื้นที่พกอาวุธเข้าภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะไม่เกี่ยวข้องกับการตายของ พ.ต.ท.จันทร์ ชัยสวัสดิ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.เทียนทะเล ในฐานะเลขาธิการสมาพันธ์พนักงานสอบสวนแห่งชาติ
ใครอยากไปเชื่อว่า การตายของ พ.ต.ท.จันทร์ จะเป็นการฆ่าตัวตาย
และยิ่งไม่เชื่อเข้าไปใหญ่ เมื่อนายตำรวจใหญ่ออกมาแถลงว่า การฆ่าตัวตายของ พ.ต.ท.จันทร์ ไม่ได้เกิดจากแรงกดดันการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้แยกพนักงานสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้า พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ก็ฆ่าตัวตาย เพราะแรงกดดันจากผู้บังคับบัญชาที่เร่งให้ปิดคดีคืนรถของกลางที่ยึดไว้มูลค่าหลายสิบล้านบาท จนนำไปสู่ข่าวการลงรายชื่อของนายตำรวจหลายสิบคนของสน.ทุ่งสองห้อง เรียกร้องให้ย้ายผู้กำกับการ สน.ทุ่งสองห้อง
แต่สุดท้ายประเด็นพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้องก็ถูกกลบเกลื่อนและข่าวเงียบหาย
พ.ต.ท.จันทร์เป็นพนักงานสอบสวนรายล่าสุดที่ต้องจบชีวิต ขณะกำลังขับเคลื่อนการคัดค้านคำสั่งยุบพนักงานสอบสวน ตามอำนาจมาตรา 44 ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
สมาพันธ์พนักงานสอบสวนแห่งชาติ ซึ่งมีสมาชิกที่เป็นพนักงานสอบสวนทั่วประเทศอยู่กว่า 1 พันราย จากพนักงานสอบสวนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งหมดประมาณ 1 หมื่นคนเศษ ได้เคลื่อนไหวรณรงค์ให้แยกงานสอบสวนเป็นอิสระจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อป้องกันผู้บังคับบัญชาก้าวก่าย ชี้นำการสอบสวน
ชี้ผิดให้เป็นถูก ถูกให้เป็นผิด ทำให้คดีต่างๆ เกิดความอยุติธรรม
พ.ต.ท.จันทร์เป็นหนึ่งในหัวขบวนของพนักงานสอบสวนที่เรียกร้องให้แยกงานสอบสวน โดยก่อนเสียชีวิต ได้โพสต์ข้อความ “ผบ.ไม่ชอบ พงส. เอาทหารมารุม” ซึ่งเป็นการสื่อความหมายว่า ผบ.ตร.ไม่ชอบพนักงานสอบสวน
ส่วนการเอาทหารมารุม น่าจะหมายถึง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดึงพล.อ.ประยุทธ์เข้ามาช่วยสะกรัมพนักงานสอบสวน โดยใช้มาตรา 44 สั่งยุบพนักงานสอบสวน ทำให้งานสอบสวนต้องขึ้นตรงกับผู้กำกับการโดยตรง
หลังจาก พ.ต.ท.จันทร์เสียชีวิตอย่างมีปริศนา สมาพันธ์พนักงานสอบสวนก็รำส่ำระสาย ประธานสมาพันธ์ทำท่าจะวางมือ ลดบทบาทการเคลื่อนไหวแยกงานสอบสวนเป็นอิสระ
เพราะในเมื่อ ผบ.ไม่ชอบ และพ.ต.ท.จันทร์ต้องสิ้นชีพ ท่ามกลางความกังขาของสังคม แถมเอาทหารมารุมด้วย พนักงานสอบสวนที่ออกมาเคลื่อนไหวใครจะไม่ “หนาว”
ปัญหางานสอบสวน ทำให้นายตำรวจต้องเซ่นสังเวยไปแล้ว 2 ศพ เพราะแรงกดดันจากผู้บังคับบัญชา ทำให้ตำรวจที่ต่อสู้เพื่อแยกงานสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติคงต้องคิดหนักหน่อย หรือเกิดความท้อถอยกันขึ้นมา เพราะประเมินสถานการณ์แล้ว ขืนสู่ต่อไปก็เหนื่อยเปล่า และอาจถูกเจ้านายหมายหัวได้
การแยกงานสอบสวนเป็นอิสระ เป็นกลไกสำคัญในการปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาคงไม่ยอมง่ายๆ เพราะถ้าปล่อยให้งานสอบสวนหลุดจากมือแน่ๆ ถ้าไม่มีอำนาจสอบสวนในมือ จะทำมาหากินกับคดีต่างๆลำบาก
การปฏิรูปตำรวจจึงฝากความหวังไว้กับรัฐบาล แต่ พล.อ.ประยุทธ์เคยประกาศไว้แล้ว รอให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาปฏิรูป
และการใช้มาตรา 44 ยุบพนักงานสอบสวน เป็นการตอกย้ำว่า อย่าได้ หวัง การแก้ปัญหาตำรวจจากรัฐบาลชุดนี้
ขนาดนายตำรวจออกมาเคลื่อนไหวคู่ขนานกับภาคประชาชน เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ยังไม่มีพลังเพียงพอขับเคลื่อนการปฏิรูปแต่อย่างใด
ผู้นำประเทศก็ไม่อยากแตะตำรวจเสียอีก ชาตินี้คงไม่มีโอกาสเห็นการปฏิรูปตำรวจแล้ว
ประชาชนที่เคลื่อนไหวเรียกร้องการปฏิรูปตำรวจ คงเหนื่อยเปล่า เพราะเชียร์พล.อ.ประยุทธ์ไม่ขึ้น ตำรวจที่ทนแรงกดดันจากปัญหางานสอบสวนไม่ไหว จนต้องเซ่นสังเวยชีวิต 2 ศพติดๆ ก็คงตายฟรี
ชีวิตของ พ.ต.ท.จันทร์ดับสูญไปแล้ว เหลือแต่ภารกิจขับเคลื่อนการปฏิรูปตำรวจ โดยแยกงานสอบสวนเป็นอิสระจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
แต่จะมีตำรวจหน้าไหนกล้าอาสาสานต่อเจตนารมณ์ของพ.ต.ท.จันทร์
เพราะเมื่อผบ.ไม่ชอบ แถมเอาทหารมารุม ถ้ายังชูธงเคลื่อนไหวแยกงานสอบสวนพ้นมือตำรวจต่อไป มีโอกาสตายสถานเดียว
และเป็นการตายที่สูญเปล่าเหมือน พ.ต.ท.จันทร์อีกด้วย เพราะกระแสการเรียกร้องแยกงานสอบสวนต้องดับวูบลงพร้อมๆ กับชีวิตตำรวจดีๆ ที่ดับดิ้นไป
ถ้าไม่เอาทหารมารุม ถ้าไม่ใช้มาตรา 44 สั่งยุบพนักงานสอบสวน บางที พ.ต.ท.จันทร์อาจยังไม่ตายก็ได้
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา
ใครจะไปเชื่อว่า คำสั่งห้ามตำรวจนอกพื้นที่พกอาวุธเข้าภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะไม่เกี่ยวข้องกับการตายของ พ.ต.ท.จันทร์ ชัยสวัสดิ์ พนักงานสอบสวนผู้ชำนาญการพิเศษ สน.เทียนทะเล ในฐานะเลขาธิการสมาพันธ์พนักงานสอบสวนแห่งชาติ
ใครอยากไปเชื่อว่า การตายของ พ.ต.ท.จันทร์ จะเป็นการฆ่าตัวตาย
และยิ่งไม่เชื่อเข้าไปใหญ่ เมื่อนายตำรวจใหญ่ออกมาแถลงว่า การฆ่าตัวตายของ พ.ต.ท.จันทร์ ไม่ได้เกิดจากแรงกดดันการเคลื่อนไหวเรียกร้องให้แยกพนักงานสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ไม่กี่สัปดาห์ก่อนหน้า พนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้อง ก็ฆ่าตัวตาย เพราะแรงกดดันจากผู้บังคับบัญชาที่เร่งให้ปิดคดีคืนรถของกลางที่ยึดไว้มูลค่าหลายสิบล้านบาท จนนำไปสู่ข่าวการลงรายชื่อของนายตำรวจหลายสิบคนของสน.ทุ่งสองห้อง เรียกร้องให้ย้ายผู้กำกับการ สน.ทุ่งสองห้อง
แต่สุดท้ายประเด็นพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งสองห้องก็ถูกกลบเกลื่อนและข่าวเงียบหาย
พ.ต.ท.จันทร์เป็นพนักงานสอบสวนรายล่าสุดที่ต้องจบชีวิต ขณะกำลังขับเคลื่อนการคัดค้านคำสั่งยุบพนักงานสอบสวน ตามอำนาจมาตรา 44 ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
สมาพันธ์พนักงานสอบสวนแห่งชาติ ซึ่งมีสมาชิกที่เป็นพนักงานสอบสวนทั่วประเทศอยู่กว่า 1 พันราย จากพนักงานสอบสวนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติทั้งหมดประมาณ 1 หมื่นคนเศษ ได้เคลื่อนไหวรณรงค์ให้แยกงานสอบสวนเป็นอิสระจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อป้องกันผู้บังคับบัญชาก้าวก่าย ชี้นำการสอบสวน
ชี้ผิดให้เป็นถูก ถูกให้เป็นผิด ทำให้คดีต่างๆ เกิดความอยุติธรรม
พ.ต.ท.จันทร์เป็นหนึ่งในหัวขบวนของพนักงานสอบสวนที่เรียกร้องให้แยกงานสอบสวน โดยก่อนเสียชีวิต ได้โพสต์ข้อความ “ผบ.ไม่ชอบ พงส. เอาทหารมารุม” ซึ่งเป็นการสื่อความหมายว่า ผบ.ตร.ไม่ชอบพนักงานสอบสวน
ส่วนการเอาทหารมารุม น่าจะหมายถึง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดึงพล.อ.ประยุทธ์เข้ามาช่วยสะกรัมพนักงานสอบสวน โดยใช้มาตรา 44 สั่งยุบพนักงานสอบสวน ทำให้งานสอบสวนต้องขึ้นตรงกับผู้กำกับการโดยตรง
หลังจาก พ.ต.ท.จันทร์เสียชีวิตอย่างมีปริศนา สมาพันธ์พนักงานสอบสวนก็รำส่ำระสาย ประธานสมาพันธ์ทำท่าจะวางมือ ลดบทบาทการเคลื่อนไหวแยกงานสอบสวนเป็นอิสระ
เพราะในเมื่อ ผบ.ไม่ชอบ และพ.ต.ท.จันทร์ต้องสิ้นชีพ ท่ามกลางความกังขาของสังคม แถมเอาทหารมารุมด้วย พนักงานสอบสวนที่ออกมาเคลื่อนไหวใครจะไม่ “หนาว”
ปัญหางานสอบสวน ทำให้นายตำรวจต้องเซ่นสังเวยไปแล้ว 2 ศพ เพราะแรงกดดันจากผู้บังคับบัญชา ทำให้ตำรวจที่ต่อสู้เพื่อแยกงานสอบสวนออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติคงต้องคิดหนักหน่อย หรือเกิดความท้อถอยกันขึ้นมา เพราะประเมินสถานการณ์แล้ว ขืนสู่ต่อไปก็เหนื่อยเปล่า และอาจถูกเจ้านายหมายหัวได้
การแยกงานสอบสวนเป็นอิสระ เป็นกลไกสำคัญในการปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ซึ่งตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาคงไม่ยอมง่ายๆ เพราะถ้าปล่อยให้งานสอบสวนหลุดจากมือแน่ๆ ถ้าไม่มีอำนาจสอบสวนในมือ จะทำมาหากินกับคดีต่างๆลำบาก
การปฏิรูปตำรวจจึงฝากความหวังไว้กับรัฐบาล แต่ พล.อ.ประยุทธ์เคยประกาศไว้แล้ว รอให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาปฏิรูป
และการใช้มาตรา 44 ยุบพนักงานสอบสวน เป็นการตอกย้ำว่า อย่าได้ หวัง การแก้ปัญหาตำรวจจากรัฐบาลชุดนี้
ขนาดนายตำรวจออกมาเคลื่อนไหวคู่ขนานกับภาคประชาชน เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงและปฏิรูปสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็ยังไม่มีพลังเพียงพอขับเคลื่อนการปฏิรูปแต่อย่างใด
ผู้นำประเทศก็ไม่อยากแตะตำรวจเสียอีก ชาตินี้คงไม่มีโอกาสเห็นการปฏิรูปตำรวจแล้ว
ประชาชนที่เคลื่อนไหวเรียกร้องการปฏิรูปตำรวจ คงเหนื่อยเปล่า เพราะเชียร์พล.อ.ประยุทธ์ไม่ขึ้น ตำรวจที่ทนแรงกดดันจากปัญหางานสอบสวนไม่ไหว จนต้องเซ่นสังเวยชีวิต 2 ศพติดๆ ก็คงตายฟรี
ชีวิตของ พ.ต.ท.จันทร์ดับสูญไปแล้ว เหลือแต่ภารกิจขับเคลื่อนการปฏิรูปตำรวจ โดยแยกงานสอบสวนเป็นอิสระจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
แต่จะมีตำรวจหน้าไหนกล้าอาสาสานต่อเจตนารมณ์ของพ.ต.ท.จันทร์
เพราะเมื่อผบ.ไม่ชอบ แถมเอาทหารมารุม ถ้ายังชูธงเคลื่อนไหวแยกงานสอบสวนพ้นมือตำรวจต่อไป มีโอกาสตายสถานเดียว
และเป็นการตายที่สูญเปล่าเหมือน พ.ต.ท.จันทร์อีกด้วย เพราะกระแสการเรียกร้องแยกงานสอบสวนต้องดับวูบลงพร้อมๆ กับชีวิตตำรวจดีๆ ที่ดับดิ้นไป
ถ้าไม่เอาทหารมารุม ถ้าไม่ใช้มาตรา 44 สั่งยุบพนักงานสอบสวน บางที พ.ต.ท.จันทร์อาจยังไม่ตายก็ได้