xs
xsm
sm
md
lg

สลายม็อบแดงไม่ผิด ยกฟ้อง"มาร์ค-เทือก"

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ผู้จัดการรายวัน360-ศาลอุทธรณ์ยืนยกฟ้อง “อภิสิทธิ์-สุเทพ” สั่งสลายการชุมนุม นปช. ปี 53 ชี้จำเลยลงนามคำสั่งด้วยตำแหน่งหน้าที่ราชการ ตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ไม่ใช่ในนามส่วนตัว ด้านทนายเสื้อแดงเตรียมหารืออัยการยื่นฎีกาต่อ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (17 ก.พ.) ที่ห้องพิจารณา 906 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก เวลา 09.30 น. ศาลนัดฟังคำสั่งการวินิจฉัยประเด็นข้อกฎหมายของศาลอุทธรณ์ คดีหมายเลขดำ อ.4552/2556 และ อ.1375/2557 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อายุ 52 ปี หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ อดีตนายกรัฐมนตรี และนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อายุ 66 ปี อดีตเลขาธิการ กปปส. อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตผอ.ศูนย์อำนวยการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน (ศอฉ.) เป็นจำเลยที่ 1-2 ในความผิดฐานร่วมกันก่อหรือใช้ให้ผู้อื่นกระทำหรือฐานฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ประกอบมาตรา 80, 83, 84

สืบเนื่องจากการออกคำสั่ง ศอฉ.ให้เจ้าหน้าที่เข้าขอคืนพื้นที่การชุมนุมบริเวณถนนราชดำเนิน และแยกราชประสงค์ จากกลุ่ม นปช.ที่ชุมนุมตั้งแต่เดือน เม.ย.-19 พ.ค.2553 กระทั่งนายพัน คำกอง ชาวจังหวัดยโสธร อายุ 43 ปี คนขับแท็กซี่ และ ด.ช.คุณากร ศรีสุวรรณ หรือน้องอีซา อายุ 14 ปี เสียชีวิตบริเวณใกล้สถานีรถไฟแอร์พอร์ตลิงก์ สถานีราชปรารภ วันที่ 15 พ.ค.2553 และนายสมร ไหมทอง คนขับรถตู้ ถูกกระสุนยิงมาจากฝั่งเจ้าหน้าที่ที่รักษาการณ์ในพื้นที่ย่านราชปรารภที่มีการประกาศ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินฯ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส

โดยการฟังคำตัดสินในครั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ และสุเทพ เดินทางมาศาลตามนัด พร้อมนายสวัสดิ์ เจริญผล ทนายความ นายถาวร เสนเนียม กลุ่มอดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ และคณะมาร่วมฟังคำสั่งและให้กำลังใจ รวมทั้งยังมีญาติผู้เสียชีวิตประมาณ 10 คนมาร่วมฟังคำสั่งด้วย

คดีนี้ ศาลชั้นต้นมีคำสั่งให้ยกฟ้อง เนื่องจากเห็นว่าจำเลยทั้ง 2 ใช้อำนาจตามตำแหน่งหน้าที่ ไม่ใช่กระทำโดยส่วนตัวหรือนอกเหนือหน้าที่ราชการ และเห็นว่าคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) มีอำนาจไต่สวน หากชี้มูลความผิด ก็ต้องยื่นฟ้องคดีต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

ส่วนศาลอุทธรณ์ได้ตรวจสำนวนปรึกษากันแล้ว เห็นสอดคล้องกับศาลชั้นต้นว่า จำเลยทั้ง 2 ทำตามหน้าที่ ไม่ได้ทำในฐานะส่วนตัว แต่กรณีที่จำเลยทำในฐานะผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง การสอบสวนเพื่อเอาโทษ จึงเป็นอำนาจของ ป.ป.ช. การที่โจทย์และโจทย์ร่วมฟ้องจำเลยโดยอาศัยสำนวนการสอบสวนของกรมสอบสวนคดีพิเศษ ซึ่งไม่มีอำนาจในการสอบสวน จึงไม่ชอบ ศาลอาญาจึงมิใช่ศาลที่มีเขตอำนาจในการชำระคดีทั้งสองสำนวน อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องชอบด้วย ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย

นายโชคชัย อ่างแก้ว ทนายความของญาติผู้เสียชีวิต กล่าวว่า จะไปศึกษาคำพิพากษาของศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ที่ยกฟ้อง ก่อนที่จะปรึกษาหารือกันในข้อกฎหมาย และนำประเด็นนี้เข้าหารือกับพนักงานอัยการในยื่นฎีกาต่อไป

นายภานุพงษ์ โชติสิน อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ กล่าวว่า เพิ่งได้รับทราบข่าวคำสั่งของศาลอุทธรณ์ต้องดูในรายละเอียดก่อนว่าจะยื่นฎีกาหรือไม่

นายอดุลย์ เฉตวงษ์ อัยการพิเศษสำนักงานคดีพิเศษ 1 กล่าวว่า เบื้องต้นจะต้องรอคัดคำพิพากษาฉบับเต็มก่อน เพื่อให้คณะทำงานอัยการร่วมกันพิจารณาก่อนจะมีความเห็นในทางคดี ซึ่งกรณีศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ทั้งสองศาลมีความเห็นให้ยกฟ้อง การที่จะยื่นฎีกาได้นั้น จะต้องส่งให้อัยการสูงสุดรับรองให้ฎีกา

ด้านนายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า คดีนี้เป็นไปตามแนวทางที่ได้ต่อสู้คดีมาโดยตลอดว่าคดีไม่อยู่ในอำนาจสอบสวนของดีเอสไอ แต่เข้าใจว่าคดีนี้ไม่ถึงที่สิ้นสุด ต้องรอว่าอัยการและโจทก์ร่วมจะยื่นฎีกาหรือไม่ คิดว่าคดีความที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในช่วงสลายการชุมนุมไม่มีอีกแล้ว หรืออาจจะมีคดีอยู่บ้างเพียงเล็กน้อย

ขณะที่นายสุเทพกล่าวก่อนเข้าฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ว่า ไม่รู้สึกกังวลอะไร คดีนี้ ป.ป.ช. ได้มีมติว่าการกระทำของตนกับนายอภิสิทธิ์ในการสลายการชุมนุม เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย โดยตอนนี้ตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวการเมืองแล้ว เป็นเอ็นจีโอทำงานอยู่มูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย หากเรียกว่าเป็นการเมืองก็เป็นการเมืองภาคประชาชน
กำลังโหลดความคิดเห็น