ช่วงเทศกาลสำคัญๆ นายทักษิณ ชินวัตร มักใช้โอกาสสร้างข่าวคราวเขย่าการเมืองไทย โดยงานเลี้ยงฉลองปีใหม่และตรุษจีนที่บ้านของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ปีนี้ได้วิดีโอคอลเข้ามาขย่มทั้งร่างรัฐธรรมนูญและถล่มพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาอย่างไม่ไว้หน้า
“ทักษิณ” กล่าวหาว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ “ห่วยแตก” อำนาจศาลรัฐธรรมนูญมากเกินไป ทำให้ประเทศชาติถอยหลังเข้าคลอง และระบุว่า จากบ้านไปเกือบ 10 ปี แต่บ้านเมืองกลับถอยหลังไปเกือบ 20 ปี
คำพูดท่อนนี้ยังไม่เท่าไหร่ เพราะเป็นการพูดเอาดีใส่ตัว ความชั่วโยนให้คนอื่น ซึ่งเป็นความถนัดของนายทักษิณอยู่แล้ว และคนที่ฉลาดรู้ทันคงไม่มีใครใส่ใจในเสียงโหวกเหวก
ส่วนคำพูดที่ดุเด็ดเผ็ดร้อน เรียกเสียงฮือได้ น่าจะอยู่ที่ท่อนสุดท้าย โดยกล่าวว่า ตอนนี้ผู้นำก็บ้าอำนาจจนขาดสติ ขาดวุฒิภาวะ แสดงกิริยาไม่สมควร ขอให้พวกเราเตรียมตัวไว้เลย จะมีการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้ มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยมีโอกาสสูงมากที่จะกลับเข้ามาบริหารประเทศ
ประเด็นจะมีเลือกตั้งเมื่อไหร่ พรรคเพื่อไทยจะได้กลับมาบริหารประเทศหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องรอดูกันต่อไป แต่ประเด็นที่ไม่ต้องรอดู เพราะเห็นกันจะจะคือ “ทักษิณ” ใส่หมัดตรงเข้าใส่ผู้นำ
และผู้นำที่ “ทักษิณ” อัดไม่เลี้ยง จะเป็นใครอื่นไปไมได้ นอกจากพล.อ.ประยุทธ์“ทักษิณ” เปิดหน้าชก เดินชนพล.อ.ประยุทธ์แล้ว และเล่นแรงเสียด้วย คำถามคือ พล.อ.ประยุทธ์จะทนไหวหรือ เพราะโดยบุคลิกภาพ แค่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ยังทนไม่ได้ เก็บอารมณ์ไม่อยู่
เมื่อถูก “ทักษิณ” ด่ากราดซัดหมัดตรงอย่างไม่เกรงใจ ไม่ไว้หน้า พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ปรอทแตก ไม่โกรธจัดชนิดควันออกหูเชียวหรือ
หลายคนกำลังรอด้วยใจระทึกว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเอาอย่างไร จะโต้กลับ ด่ากราด อัดเละ ถลกหนังหัว “ทักษิณ” หรือไม่ เพราะหยามหน้ากันขนาดนี้ ลูกผู้ชายด้วยกัน ฆ่าได้ แต่หยามกันยอมไม่ได้อยู่แล้ว
ก่อนหน้ามีคำถามมาตลอดว่า เพราะเหตุใดหรือทำไม พล.อ.ประยุทธ์จึงไม่ค่อยพูดถึงพฤติกรรมของนายทักษิณ ไม่ค่อยจะหยิบยกความเสียหายของประเทศจากน้ำมือของ “ทักษิณ”
จะเป็นเพราะนโยบายปรองดองก็คงไม่ใช่ เพราะพล.อ.ประยุทธ์คงไม่มีทางปรองดองกับนายทักษิณ ซึ่งมีฐานะเป็นนักโทษหนีคดี
จะเป็นเพราะเจรจาทำข้อตกลงทางการเมืองอะไรกันไว้ ก็ไม่น่าจะใช่เหมือนกัน เพราะถ้ามีข้อตกลงกัน “ทักษิณ” คงไม่ยำพล.อ.ประยุทธ์เละถึงใจพระเดชพระคุณขนาดนี้
เมื่อไม่มีอะไรต่อกัน จึงเป็นเรื่องน่าประหลาดใจว่า คนดุจะตายอย่างพล.อ.ประยุทธ์ ทำไมจึงละเว้นที่จะพูดถึงนายทักษิณ
ทีกับนักข่าวรุ่นลูกกลับเกรี้ยวกราด ทำน่าถมึงทึง เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ถามอะไรไม่ถูกใจหน่อย “ของขึ้น” อยู่เป็นประจำ หงุดหงิดหัวเสีย อารมณ์ขุ่นมัวอยู่เป็นนิจ
แต่คราวนี้ถึงทีที่ต้องชนกับ “ทักษิณ” แล้ว พล.อ.ประยุทธ์จะอารมณ์ขนาดไหน เกรี้ยวกราด ว๊ากใส่ ไล่ตะเพิดหรือไม่
ไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องเสี้ยมให้พล.อ.ประยุทธ์เปิดศึกกับ “ทักษิณ” เพราะพล.อ.ประยุทธ์เข้ามา ก็เพื่อชำระสะสางปัญหาที่ “ทักษิณ” สร้างไว้
พล.อ.ประยุทธ์มีหน้าที่โดยตรงในการตามลากคอ “ทักษิณ” กลับมาติดคุก มีหน้าที่เปิดเผยข้อเท็จจริงในความเสียหายที่ “ทักษิณ” และพวกสร้างไว้ มีหน้าที่ที่จะต้องบอกประชาชนทั้งประเทศรู้ว่า รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรหรือรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทำให้ประเทศวิบัติอย่างไรบ้าง
พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ทำในสิ่งที่ต้องทำแต่อย่างใด จนเกิดข้อสงสัยว่า กลัวบารมี “ทักษิณ” หรือกลัวพรรคเพื่อไทยจะกลับมาเป็นรัฐบาล และตามล้างแค้นหรือเปล่า
กลัวถูก “ทักษิณ” เอาคืนหรือไม่ จึงสงวนท่าทีนักกับการพูดถึงพฤติกรรมของ “ทักษิณ” ซึ่งก่อกวนรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์มาตลอด
การที่ “ทักษิณ” บังอาจวิพากษ์ยับพล.อ.ประยุทธ์ แสดงให้เห็นถึงความฮึกเหิม และอาการได้ใจ จึงฉวยโอกาสได้ทีขี่แพะไล่
ฉีกหน้ากันขนาดนี้ กล่าวหาว่า บ้าอำนาจจนขาดสติ ขาดวุฒิภาวะ แสดงกิริยาไม่สมควร ถ้าไม่สั่งสอนเสียบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าพล.อ.ประยุทธ์หงอ
นักข่าวยังซัดไม่เลี้ยง จะเลี้ยง “ทักษิณ” ไว้ทำไม เสียยี่ห้อพล.อ.ประยุทธ์หมด
“ทักษิณ” กล่าวหาว่า ร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ “ห่วยแตก” อำนาจศาลรัฐธรรมนูญมากเกินไป ทำให้ประเทศชาติถอยหลังเข้าคลอง และระบุว่า จากบ้านไปเกือบ 10 ปี แต่บ้านเมืองกลับถอยหลังไปเกือบ 20 ปี
คำพูดท่อนนี้ยังไม่เท่าไหร่ เพราะเป็นการพูดเอาดีใส่ตัว ความชั่วโยนให้คนอื่น ซึ่งเป็นความถนัดของนายทักษิณอยู่แล้ว และคนที่ฉลาดรู้ทันคงไม่มีใครใส่ใจในเสียงโหวกเหวก
ส่วนคำพูดที่ดุเด็ดเผ็ดร้อน เรียกเสียงฮือได้ น่าจะอยู่ที่ท่อนสุดท้าย โดยกล่าวว่า ตอนนี้ผู้นำก็บ้าอำนาจจนขาดสติ ขาดวุฒิภาวะ แสดงกิริยาไม่สมควร ขอให้พวกเราเตรียมตัวไว้เลย จะมีการเลือกตั้งในเร็วๆ นี้ มั่นใจว่าพรรคเพื่อไทยมีโอกาสสูงมากที่จะกลับเข้ามาบริหารประเทศ
ประเด็นจะมีเลือกตั้งเมื่อไหร่ พรรคเพื่อไทยจะได้กลับมาบริหารประเทศหรือไม่ เป็นเรื่องที่ต้องรอดูกันต่อไป แต่ประเด็นที่ไม่ต้องรอดู เพราะเห็นกันจะจะคือ “ทักษิณ” ใส่หมัดตรงเข้าใส่ผู้นำ
และผู้นำที่ “ทักษิณ” อัดไม่เลี้ยง จะเป็นใครอื่นไปไมได้ นอกจากพล.อ.ประยุทธ์“ทักษิณ” เปิดหน้าชก เดินชนพล.อ.ประยุทธ์แล้ว และเล่นแรงเสียด้วย คำถามคือ พล.อ.ประยุทธ์จะทนไหวหรือ เพราะโดยบุคลิกภาพ แค่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ยังทนไม่ได้ เก็บอารมณ์ไม่อยู่
เมื่อถูก “ทักษิณ” ด่ากราดซัดหมัดตรงอย่างไม่เกรงใจ ไม่ไว้หน้า พล.อ.ประยุทธ์จะไม่ปรอทแตก ไม่โกรธจัดชนิดควันออกหูเชียวหรือ
หลายคนกำลังรอด้วยใจระทึกว่า พล.อ.ประยุทธ์จะเอาอย่างไร จะโต้กลับ ด่ากราด อัดเละ ถลกหนังหัว “ทักษิณ” หรือไม่ เพราะหยามหน้ากันขนาดนี้ ลูกผู้ชายด้วยกัน ฆ่าได้ แต่หยามกันยอมไม่ได้อยู่แล้ว
ก่อนหน้ามีคำถามมาตลอดว่า เพราะเหตุใดหรือทำไม พล.อ.ประยุทธ์จึงไม่ค่อยพูดถึงพฤติกรรมของนายทักษิณ ไม่ค่อยจะหยิบยกความเสียหายของประเทศจากน้ำมือของ “ทักษิณ”
จะเป็นเพราะนโยบายปรองดองก็คงไม่ใช่ เพราะพล.อ.ประยุทธ์คงไม่มีทางปรองดองกับนายทักษิณ ซึ่งมีฐานะเป็นนักโทษหนีคดี
จะเป็นเพราะเจรจาทำข้อตกลงทางการเมืองอะไรกันไว้ ก็ไม่น่าจะใช่เหมือนกัน เพราะถ้ามีข้อตกลงกัน “ทักษิณ” คงไม่ยำพล.อ.ประยุทธ์เละถึงใจพระเดชพระคุณขนาดนี้
เมื่อไม่มีอะไรต่อกัน จึงเป็นเรื่องน่าประหลาดใจว่า คนดุจะตายอย่างพล.อ.ประยุทธ์ ทำไมจึงละเว้นที่จะพูดถึงนายทักษิณ
ทีกับนักข่าวรุ่นลูกกลับเกรี้ยวกราด ทำน่าถมึงทึง เหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ ถามอะไรไม่ถูกใจหน่อย “ของขึ้น” อยู่เป็นประจำ หงุดหงิดหัวเสีย อารมณ์ขุ่นมัวอยู่เป็นนิจ
แต่คราวนี้ถึงทีที่ต้องชนกับ “ทักษิณ” แล้ว พล.อ.ประยุทธ์จะอารมณ์ขนาดไหน เกรี้ยวกราด ว๊ากใส่ ไล่ตะเพิดหรือไม่
ไม่มีความจำเป็นใดที่ต้องเสี้ยมให้พล.อ.ประยุทธ์เปิดศึกกับ “ทักษิณ” เพราะพล.อ.ประยุทธ์เข้ามา ก็เพื่อชำระสะสางปัญหาที่ “ทักษิณ” สร้างไว้
พล.อ.ประยุทธ์มีหน้าที่โดยตรงในการตามลากคอ “ทักษิณ” กลับมาติดคุก มีหน้าที่เปิดเผยข้อเท็จจริงในความเสียหายที่ “ทักษิณ” และพวกสร้างไว้ มีหน้าที่ที่จะต้องบอกประชาชนทั้งประเทศรู้ว่า รัฐบาลนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตรหรือรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ทำให้ประเทศวิบัติอย่างไรบ้าง
พล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ทำในสิ่งที่ต้องทำแต่อย่างใด จนเกิดข้อสงสัยว่า กลัวบารมี “ทักษิณ” หรือกลัวพรรคเพื่อไทยจะกลับมาเป็นรัฐบาล และตามล้างแค้นหรือเปล่า
กลัวถูก “ทักษิณ” เอาคืนหรือไม่ จึงสงวนท่าทีนักกับการพูดถึงพฤติกรรมของ “ทักษิณ” ซึ่งก่อกวนรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์มาตลอด
การที่ “ทักษิณ” บังอาจวิพากษ์ยับพล.อ.ประยุทธ์ แสดงให้เห็นถึงความฮึกเหิม และอาการได้ใจ จึงฉวยโอกาสได้ทีขี่แพะไล่
ฉีกหน้ากันขนาดนี้ กล่าวหาว่า บ้าอำนาจจนขาดสติ ขาดวุฒิภาวะ แสดงกิริยาไม่สมควร ถ้าไม่สั่งสอนเสียบ้าง เดี๋ยวจะหาว่าพล.อ.ประยุทธ์หงอ
นักข่าวยังซัดไม่เลี้ยง จะเลี้ยง “ทักษิณ” ไว้ทำไม เสียยี่ห้อพล.อ.ประยุทธ์หมด