ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -กระแสตุ๊กตาเทพ ไหลบ่าสังคมไทยกลบข่าวต่างๆ จนแทบลืมไปว่ายังมีอะไรอีกมากมายที่คนไทยควรสนใจ เช่น เรื่องรัฐธรรมนูญ หากไม่ผ่านประชามติรัฐบาลทหาร จะเอายังไง จะหยิบรัฐธรรมนูญฉบับไหนมาใช้ และพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หน.คสช. จะอยู่ในอำนาจอีกนานเท่าไหร่ ทั้งที่รับปากว่ากลางปี 2560 ต้องมีเลือกตั้งแน่นอน แต่ในฐานะรัฐบาลรักษาการณ์ต้องใช้เวลานานอีกแค่ไหน ถ้าพรรคเพื่อไทย มีจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร มากพอจัดตั้งรัฐบาลทหารจะว่าไง
แค่โหมดรัฐธรรรมนูญฉบับ อาจารย์มีชัย ฤชุพันธุ์ ยังมีแต่คำถามมากมาย ไม่รวมปัญหาทุจริต กรณีอุทยานราชภักดิ์ หรือกระทั่งรอยร้าวในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่กระเพื่อมอย่างหนัก จากมาตรการกระเตง“ตุ๊กตาลูกโจ๊ก” ผู้มาเหนือเมฆ เหนือ“ตุ๊กตาลูกเทพ”ด้วยการออกกฎ ก.ตร.ให้ประโยชน์คนกลุ่มน้อย ชักบันไดหนีคนกลุ่มใหญ่ ปัญหาราคายางที่ยังแก้ไม่สะเด็ดน้ำ ปัญหาภัยแล้งจนไม่สามารถทำนาได้ และปัญหาเศรษฐกิจเงินทองหายาก ทุกวันนี้แม้แต่ตลาดนัดเห็นแต่คนขายมากกว่าคนซื้อ
ว่าไปแล้วความนิยมตุ๊กตาเทพ มีมานานสองสามปี แต่เป็นกลุ่มเล็กๆ มาโด่งดังเป็นที่รู้จักและสนอกสนใจแก่คนไทยเมื่อ“ไทยสมายล์”ออกข่าวเปิดให้จองตั๋วตุ๊กตาลูกเทพได้... เท่านั้นแหละเมื่อนักข่าวเอาไปถามนายกรัฐมนตรี ท่านก็พาตลกไปถึงตุ๊กตายาง ส่วนพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง แสดงความเห็นว่า ถ้าสามารถสนับสนุนชาวสวนยางทำตุ๊กตาเทพได้ ก็จะทำ ว่ากันไปเป็นที่ครึกครื้น
แต่ที่มาแรงแซงโค้งก็คือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. โดยกล่าวระหว่างเปิดแถลงข่าวว่า ห่วงใยกับกระแสความนิยมตุ๊กตาเทพ เพราะละเมิดสิทธิส่วนตัวผู้อื่น เช่น มีการติดตัวโดยสารทางเครื่องบิน รถทัวร์ หรือแม้แต่รถไฟ นอกจากนั้นยังอาจมีกลุ่มมิจฉาชีพ สบช่องใช้ซุกซ่อนยาเสพติด
ประเด็นที่ “บิ๊กแป๊ะ”จุดประกายขึ้นผ่านไปเพียงคืนเดียว รุ่งเช้าตำรวจปราบปรามยาเสพติดเชียงใหม่ ไปตรวจพบยาบ้า 200 เม็ด ซุกอยู่ใสตุ๊กตาตัวหนึ่งภายในศาลาที่พักผู้โดยสารท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ รายละเอียดมีอยู่ว่า ฝ่ายปราบปรามยาเสพติด ได้รับแจ้งจากสายจะมีการซื้อขาย และส่งมอบยาเสพติดกันที่สนามบินฯ
สายข่าวระบุว่า ขบวนค้ายาเสพติดจะใช้วิธีซุกสิ่งผิดกฎหมายไว้ในตุ๊กตา เมื่อรับแจ้งจึงซุ่มจับตาดูการเคลื่อนไหว ต่อมาพบกระเป๋าถือสตรีสีดำวางพิงเสาในศาลาที่พักผู้โดยสาร เจ้าหน้าที่รออยู่เป็นเวลานานไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ จึงเข้าตรวจและพบยาบ้าดังกล่าว
เท่านั้นแหละ ทั้งสนามบิน บขส. รถไฟ เรือเมล์ ต่างออกมาตรการเข้มงวด-จับตากับตุ๊กตาเทพ จากที่เคยให้จองตั๋วในฐานะผู้โดยสารกลายเป็นแค่สัมภาระ ที่หนักกว่านั้นคือ มีตำรวจจาก ปอศ. หรือตำรวจปราบปรามผู้กระทำผิดทางเศรษฐกิจ กับตำรวจ ปคบ. หรือกองบังคับการคุ้มครองผู้บริโภค ออกตรวจตราร้านขายตุ๊กตาเทพ ทั่วประเทศ ร้านไหนนำเข้าโดยไม่มีหลักฐานการเสียภาษีก็ต้องดู ยึดตุ๊กตาเทพ ถูกดำเนินคดีเปรียบเทียบปรับ
ถัดมาอีกวันไม่ทราบว่า “บิ๊กแป๊ะ”เห็นกระแสตอบรับดีหรืออย่างไร จึงออกมาให้สัมภาษณ์อีกรอบ โดยเที่ยวนี้จัดหนัก จัดเต็ม ระบุว่าขณะนี้ได้สั่งตำรวจทั่วประเทศออกตรวจตราที่มาที่ไปของขบวนการตุ๊กตาเทพอย่างละเอียด ทั้งทางบก ทางอากาศ และทางน้ำ เพื่อตรวจสอบการขนย้ายตุ๊กตาเทพ รวมทั้งแหล่งจำหน่าย เพราะเป็นสินค้านำเข้ามีการเสียภาษีถูกต้องหรือไม่
“ส่วนการลงอักขระ ถ้าเข้าข่ายผิดกฎหมายทางเจ้าสำนักจะถูกดำเนินคดีฐานต้มตุ๋น หลอกลวง เรื่องแบบนี้น่าวิตกว่า คนร้ายจะใช้เป็นช่องทางกระทำผิดกฏหมายจึงต้องให้ความสำคัญ”
นั่นคือมุมมองของผู้มีอำนาจ อันตรายของตุ๊กตาเทพ ทรงอานุภาพขนาด ผบ.ตร. ออกคำสั่งระดมสรรพกำลังทั้งบก-อากาศ-น้ำ เพื่อ ปราบปรามแบบขุดรากถอนโคนกันขนาดนี้ หากสังคมโลกรับรู้เป็นระลอกสองต่อจากความโง่เขลาเบาปัญญาจากระลอกแรก คงฮาไม่ออก
ตกลงเกิดอะไรขึ้นกับประเทศไทย ทั้งที่ก่อนหน้าภาครัฐเตือนให้ประชาชนมีสติ แต่ถึงเวลานี้ผู้มีอำนาจกลับออกคำสั่ง ใช้วิธีที่ดูเหมือนว่าจะเป็นผู้ขาดสติเสียเอง จุดนี้น่ากังวลและน่าห่วงใยมากกว่า !!??
อย่างที่รายงานในตอนต้นว่า กระแสตุ๊กตาเทพมีมานานแล้ว แต่ค่อยๆ ก่อตัวในวงแคบๆ เป็นความสุขทางใจของคนกลุ่มหนึ่งแม้จะบ้าบอคอแตก แต่ไม่สร้างความเดือดร้อนกับใครแน่ นอกจากนั้นประโยชน์อีกทางหนึ่งคือ มีการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจ สร้างอาชีพได้อย่างมากมาย เช่น แม่บ้านที่มีความสามารถรับจ้างตัดเย็บชุดลูกเทพ ทราบมาว่าพวกที่คลั่งตุ๊กตาเทพจริงๆ เขาสั่งตัดชุดครั้งละ 10-20 ชุด เรียกว่ามนุษย์มีความต้องการอย่างไรตุ๊กตาเทพ มีหมด ไม่รวมการซื้อขาย และอื่นๆ อย่างน้อยก็เป็นการกระตุ้นชีพจรเศรษฐกิจที่กำลังเต้นอ่อนลงๆ เหมือนคนใก้ลตาย
แต่เมื่อผู้มีอำนาจมีมุมมองว่า พวกเชื่อ-ชอบตุ๊กตาเทพคือพวกโง่เขลาเบาปัญญา หรือหนักหน่อยคือ เป็นแก๊งอาชญากรทำผิดกฏหมาย แล้วถือโอกาสแฝงตัวมา ต้องบอกตรงๆว่าน่าเสียดาย และเป็นความผิดพลาดซ้ำซาก เพราะท่านผู้มีอำนาจ“ก้าวล่วง”และชอบ “คิดแทน”คนอื่น
ลองหลับตานึกถึงภาพใครก็ได้ ที่อุ้มตุ๊กตาเทพ ไปเที่ยว ไปช็อปปิ้ง หรือดูหนัง ฟังเพลง เขารับการดูถูกดูแคลนจากสังคม ณ ขณะนั้นไปแล้ว อาจจะขัดหูขัดตา อาจรู้สึกหลอน แต่เชื่อว่าหลายคนอาจเฉยๆ คือตราบใดที่ไม่ละเมิดสิทธิ์เขา ใครอยากจะทำอะไรก็ทำไป
ความจริงปัญหาที่รอให้รัฐบาล หรือให้ตำรวจแก้ไขมันมีอีกมาก “ตุ๊กตาเทพ” ก็แค่ปราการณ์บ้าบอคอแตกของมนุษย์ขี้เหม็น ไม่มีอะไรน่าสนใจ แถมไม่มีอะไรน่าห่วงถึงขนาดที่ว่าชี้วัดความโง่เขลาเบาปัญญาของผู้คนในสังคมนี้ เพราะว่าไปแล้วเรื่องของความเชื่อคนไทยแทบทุกคนมีมุมมองที่ต่างกัน ใก้ลวันหวยออกไปดูเถิด ทั้งขอนไม้ ซากหมูหมากาไก่ ที่ประหลาดๆ คนไทยบ้าหวยกลุ่มหนึ่งแห่กันไปขอเลข ไม่เว้นพระสงฆ์องค์เจ้า ลองเข้าไปในโลกออนไลน์ เจอะเจอพฤติกรรมแปลกแหกจีวรชนิดไม่อยากเชื่อสายตา
พูดถึงความเชื่อในส่งลี้ลับ สิ่งที่มองไม่เห็น ฝรั่งตาน้ำข้าวหรือพี่ไทยหัวดำ ไม่แตกต่างกันเลย หากศึกษาจากประวัติศาสตร์คนไทยรุ่นปู่ ย่าตาทวด ก็มีกุมารทอง มี รัก-ยม หรือ วรรณคดีไทยขุนช้าง-ขุนแผน ก็มีนางบัวคลี่ ถูกขุนแผนแหวะท้อง เอาลูกไปย่างปลุกเสกเป็นกุมารทอง เรียกว่าเป็นความเชื่อที่โคตรโหดสุดสยองกันเลยทีเดียว
แม้บรรดาพุทธพาณิชย์ทั้งหลาย พวกเซียนพระเขาก็มีความเชื่อสืบเนื่องกันรุ่นต่อรุ่น ไม่เว้นกระทั่งนายกรัฐมนตรี หรือ ผบ.ตร. ที่มีความเชื่อในเครื่องรางของขลัง เฉพาะ“บิ๊กแป๊ะ”ถือว่าเป็นเซียนพระเครื่องตัวยง ทั้งเบญจภาคี พระเกจิอาจารย์ และ“วงใน”เขาก็ลือกันให้แซ่ดว่า หลังคว้าตำแหน่ง ผบ.ตร. ตัดหน้า พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ มาอย่างเส้นยาแดงผ่าแปด ท่านเชิญใครมาทำพิธีที่สำนักงาน อาคาร 1 บ้าง เห็นนุ่งขาวห่มขาวแก้เคล็ด เสริมดวงจนแน่นสำนักงานผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
นี่ไงล่ะคนไทย ที่ต่างมีความเชื่อในสิ่งที่มองไม่เห็น เป็นอีกทางที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ เปรียบเสมือนที่พึ่งซึ่งคนไทยบ้าเจ้าพ่อเจ้าแม่ ขูดต้นไม้ขอหวย หรือพวกคลั่งตุ๊กตาเทพ มันสะท้อนถึงความล้มเหลวบางอย่าง ผู้มีอำนาจก็อย่าไปอายใครเลยที่ประชาชนผู้อยู่ใต้ปกครองกลุ่มหนึ่งเขามีพฤติการณ์อย่างนั้น
ท้ายสุดที่อยากทิ้งไว้กับสังคมยุคตุ๊กตาเทพ คือ ปฏิบัติการของหน่วยปราบปรามยาเสพติดเชียงใหม่ แม้ข่าวการค้นพบยาบ้าซุกในตุ๊กตาเทพ จะฮือฮา “เข้าทาง”วาจาสิทธิ์ของ ผบ.ตร. แต่สำหรับวงการตำรวจ หรือนักข่าวอาชญากรรมประเภทเขี้ยวลากดิน เขามองไปอีกทาง
หากไม่อยากให้ใครนินทาว่า“จัดฉาก”เอาใจเจ้านาย ก็ขอให้รับสืบเสาะหาตัวคนร้ายมาลงโทษตามกฏหมายให้ได้ สนามบินนานาชาติต้องมีกล้องวงจรปิดทุกซอกทุกมุมอยู่แล้ว ใครเข้า ออก รูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร กระทั่งลานจอดรถ กระบะ หรือเก๋ง สี ทะเบียน มันจับภาพได้หมด ถ้าหน่วยปราบปรามยาเสพติดเชียงใหม่ ยังจับมือใครดมไม่ได้ สังคมกลุ่มหนึ่งก็จะดูแคลนตำรวจไทยไปเรื่อยๆ
ขอย้ำอีกทีว่า ถ้าไม่จัดฉาก ให้ลากคอเจ้าของยาบ้าในตุ๊กตาเทพตัวนั้นมาให้ได้ ถ้าไม่ไหวจริงๆ ขอภาพวงจรปิดในสนามบิน มาดูกันหน่อย มันต้องมีเบาะแสบ้างซิ !!??