xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กตู่"ตั้งรองปธ.บอร์ดเพิ่มให้สสส.เดินหน้าทำงานได้

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายกฯเซ็นแล้ว คำสั่งตั้งรองประธานบอร์ดสสส. เพิ่ม เพื่อให้ทำงานต่อได้ "วิษณุ"ชี้ หากบอร์ดเก่ากลับมา ต้องไม่นั่งตำแหน่งทับซ้อน ด้านขสช.โต้ไม่มีองค์กรรับทุน สสส.เลี่ยงภาษี จวกกรมสรรพากรตีความใหม่ขัดกฎหมาย สสส. ห่วงการทำงาน สสส.กลายเป็นรูปแบบธุรกิจ มีการจัดซื้อจัดจ้าง คิดถึงผลกำไร รอฟังผลประชุมบอร์ด สสส.มีมาตรการช่วยเหลือหรือไม่

เมื่อเวลา 13.45 น. วานนี้ (18 ม.ค. ) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ ภายหลังการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ครั้งที่ 1/2559 ถึงการออกคำสั่งให้ คณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ที่มีอยู่สามารถทำงานได้ว่า ได้ลงนามไปเรียบร้อยแล้ว เพื่อให้กรรมการที่เหลืออยู่ ทำงานไปได้ก่อน เพราะมีปัญหา รองประธานไม่ครบขาดไปหนึ่งคน เมื่อตั้งรองประธานขึ้นมา ก็สามารถทำงานต่อไปได้

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การที่นายกฯ มีคำสั่งเรื่องสสส. ออกมาอีกนั้น ไม่ได้เกิดจากคำสั่ง หัวหน้าคสช. ที่ให้บอร์ด สสส. 7 คน พ้นจากตำแหน่งนั้นบกพร่อง เพราะคำสั่งแรก แค่ให้กรรมการพ้นจากตำแหน่งไป ไม่ได้มีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบ และยังให้ดำเนินการสรรหากรรมการใหม่โดยเร็ว เพียงแต่ถ้าการสรรหาทำได้ช้า หรือบอร์ด สสส.ไม่สามารถประชุมได้ ก็ต้องแก้ไขให้ นั่นคือสิ่งที่กำลังจะทำ

ทั้งนี้ อดีตบอร์ด สสส. 7 คน พ้นจากตำแหน่งเพราะถูกกล่าวหาว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อน โดยซ้อนระหว่างการเป็นตำแหน่ง ก. และตำแหน่ง ข. แต่เมื่อพ้นจากตำแหน่ง ก.ไป ก็ไม่มีอะไรทับซ้อน หากจะกลับเข้าไปใหม่อีก จะต้องแก้ปัญหาเรื่องทับซ้อน อย่าให้เกิดอีก ส่วนการสรรหา จะเริ่มเมื่อไร ตนไม่ทราบ

ขสช.ระบุไม่มีองค์กรรับทุนสสส.เลี่ยงภาษี

วานนี้ (18 ม.ค.) นายคำรณ ชูเดชา ผู้ประสานงานขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน (ขสช.) กล่าวถึงกรณีนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ คณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย (พท.) เตรียมยื่นหนังสือถึงอธิบดีกรมสรรพากร เพื่อเรียกเก็บภาษีเงินได้กับผู้ที่รับเงินจากสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) และดำเนินคดีอาญากับบุคคลที่มีพฤติการณ์หลบเลี่ยงภาษี ว่า ไม่มีองค์กรใดที่รับทุนจาก สสส. และหลบเลี่ยงภาษี เพราะที่ผ่านมามีการจ่ายภาษีทั้งแบบบุคคลทั่วไป และองค์กรนิติบุคคล การตีความใหม่ของกรมสรรพากรว่าองค์กรเหล่านี้ทำงานในลักษณะเหมือนธุรกิจทางการค้าต้องจ่ายภาษีทั่วไปนั้นไม่ถูกต้อง ขัดกับวัตถุประสงค์และตัวบทกฎหมายของ พ.ร.บ.กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ.2544

“พวกเราไม่เข้าใจกรมสรรพากร เนื่องจากมารีดภาษีกับพวกเราใหม่ใน 2 กรณี คือ 1.มองว่าภาคีที่รับทุนจากสสส. เพื่อทำงานด้านสาธารณะประโยชน์นั้น เป็นสัญญาที่ต้องไปตีตราสาร กล่าวคือ เหมือนการจ้างทำงาน โดยต้องไปจดทะเบียนและต้องจ่ายภาษีในอัตรา 1 บาทต่อ 1,000 บาท และ2.ภาษี VAT ภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ซึ่งกฎหมายกำหนดว่าองค์กรใดที่มีรายได้เกิน 1,800,000 บาท จะต้องไปยื่นและจ่ายภาษี ทุกวันที่ 15 ของเดือน เนื่องจากถือเป็นภาษีซื้อ ภาษีขาย โดยกรณีดังกล่าวถือเป็นการตีความว่าองค์กร หรือมูลนิธิที่ทำงานให้สสส. เป็นการรับจ้าง เป็นเรื่องของธุรกิจ ซึ่งขัดกับกฎหมายของสสส.และวัตถุประสงค์ชัดเจน” นายคำรณ กล่าว

นายคำรณ กล่าวว่า ขณะนี้มีองค์กร มุลนิธิต่างๆ ได้รับผลกระทบ ถูกกรมสรรพากรส่งหนังสือแจ้งเรื่องภาษีรวมกว่า 2,000 องค์กร ซึ่งมีทั้งมูลนิธิ หน่วยงานข้าราชการที่รับทุนจาก สสส.เพื่อทำงานสาธารณะประโยชน์ด้วย หากกรมสรรพากรยืนยันจะเก็บภาษีแบบขัดหลักการ ขัดต่อวัตถุประสงค์ของกฎหมาย สสส. สุดท้ายในอนาคต สสส.ก็จะไม่มี และการทำงานต่อไปก็จะเป็นแบบธุรกิจ มีการจัดซื้อจัดจ้าง คิดถึงผลกำไร ไม่ใช่สาธารณะประโยชน์อีกต่อไป ทั้งนี้ จะรอการประชุมบอร์ดสสส.ว่าจะมีมติ แนวทางช่วยเหลืออย่างไร เพราะหากต้องจ่ายภาษีลักษณะนี้จริง รวมแล้วสูงถึง 800 ล้านบาท ซึ่งองค์กรสาธารณะประโยชน์จะไปเอาเงินที่ไหน คงต้องให้ สสส. ไปตั้งงบฯมาจ่ายเอง ซึ่งไม่ถูกต้อง และไม่ถูกตั้งแต่ต้นที่กรมสรรพากรจะมารีดภาษีแบบนี้
กำลังโหลดความคิดเห็น