"วิษณุ" บอกไม่รู้ 7 บอร์ด สสส.จะได้กลับมาหรือไม่ คตร. ย้ำวันจันทร์นี้หัวหน้า คสช.จะมีคำสั่งให้บอร์ดที่เหลืออยู่ปฏิบัติงานต่อได้ ยันไม่มีล้วงลูกตั้งบอร์ดใหม่
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีเครือข่ายภาคีสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เรียกร้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ทบทวนการใช้ มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 57 ปลด 7 กรรมการสสส. ว่าในบัญชีสอบข้าราชการพัวพันการทุจริต ลอต 3 เห็นได้ชัดว่า กลุ่มอื่นๆ มีการตั้งคณะกรรมการสอบ แต่ สสส.ไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบ ที่เป็นเช่นนั้น เพราะไม่ได้มีการทุจริต เพียงแต่มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน นั่งในองค์กรที่ขอทุน กับองค์กรที่ให้ทุน เมื่อเอาออกจากตำแหน่ง ก็ไม่ทับซ้อนอีกต่อไป
ส่วนกรรมการทั้ง 7 คน จะได้กลับมาหรือไม่ เมื่อมีการสรรหาใหม่ ตนไม่ทราบ ถ้าจะเอากลับมา ก็ไม่ได้ว่าอะไร และถ้าจะกลับมาก็ต้องยกเลิกคำสั่งมาตรา 44
ด้าน พล.อ.ชาตอุดม ติตถะสิริ ประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใชจ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) กล่าวถึง กรณีวันที่ 18 ม.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะมีการออกคำสั่งหัวหน้าคสช. ตาม มาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 57 ให้บอร์ดสสส. เดิมที่เหลืออยู่ มีอำนาจสามารถปฏิบัติงานได้ และจัดตั้งตำแหน่งรองประธานให้ครบองค์ประชุม ภายหลังก่อนหน้านี้ ได้ออกคำสั่งให้ 7 บอร์ด สสส. หยุดการปฏิบัติหน้าที่ ว่า นายกฯ ต้องการให้สสส. เดินต่อไปได้ โดยต้องดำเนินการอย่างมีจริยธรรม ตรงตามวัตถุประสงค์ ส่วนอะไรที่เป็นปัญหากระทรวงสาธารณสุข กำลังดำเนินการแก้ไข เพื่อให้การใช้งบประมาณเป็นไปตามวัตถุประสงค์
ส่วนตำแหน่งบอร์ด สสส.ที่ว่างอยู่ นายกฯให้มีกระบวนการคัดสรรตามขั้นตอนที่ถูกต้อง และนายกฯได้พูดแล้วว่า คสช. จะไม่เข้าไปล้วงลูก
เมื่อถามว่า กรรมการ สสส.ทั้ง 7 คน ที่ถูกปลด เมื่อรัฐบาลยืนยันไม่เกี่ยวกับการทุจริต แต่เป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน สามารถมาสมัครใหม่ได้หรือไม่ พล.อ.ชาตอุดม กล่าวว่า ต้องดู ซึ่งตนไม่รู้คุณสมบัติกำหนดไว้อย่างไร ถ้ามีคุณสมบัติก็เข้ามาได้ เมื่อถามว่าระหว่างนี้ จำเป็นต้องได้คนเข้าไปรักษาการในบอร์ด สสส. ก่อนหรือไม่ อย่าง นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ หรือ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระหว่างรอตั้งกรรมการ สสส.ใหม่ พล.อ.ชาตอุดม กล่าวว่า กรรมการที่เหลือ 14 คน จาก 21 คน ก็สามารถทำหน้าที่ต่อไปได้ ยังไม่ต้องตั้งคนกลางอะไรเข้าไป และนายกฯได้สั่งกระทรวงสาธารณสุข เข้าไปดูกรอบการทำงานของ สสส. ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ให้สังคมได้รับประโยชน์อย่างแท้จจริงแล้ว จึงยังไม่จำเป็นต้องตั้งคนกลางเข้าไปดูแลระหว่างการสรรหา
**จับตาคำสั่งคืนตำแหน่งบอร์ด สสส.
นพ.วิชัย โชควิวัฒน์ อดีต รองประธานบอร์ด สสส. คนที่ 2 กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ในวันที่ 18 ม.ค. จะมีการออกคำสั่งให้ สสส. สามารถดำเนินการจัดประชุมคณะกรรมการกองทุนฯได้ ว่า ถือเป็นสัญญาณที่ดี ก็คงต้องติดตามกันต่อไป
ส่วนกระแสข่าวระบุว่า มีกระบวนการแทรกแซงการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯนั้น นพ.วิชัย กล่าวว่า โดยกระบวนการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒินั้น ถ้าดูตามคำสั่ง ม.44 กำหนดชัดว่า กระบวนการสรรหาให้เป็นไปตามผู้มีอำนาจหน้าที่สรรหาตามระเบียบที่กำหนดไว้เดิม ซึ่งระเบียบฯ ของสสส. กำหนดองค์ประกอบของกรรมการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณุวุฒิฯ ไว้ชัดเจน ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนภาคี ผู้แทนเจ้าหน้าที่ และบุคลากรต่างๆ ตามองค์กรประกอบกำหนด อีกทั้งหากดูจากขั้นตอนการสรรหาผู้จัดการกองทุน สสส. เพื่อดำรงตำแหน่งแทน ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. ที่ดำเนินการแล้วเสร็จแล้วนั้น เท่าที่ตนได้ติดตาม ก็ไม่พบว่ามีกระบวนการที่พยายามแทรกแซงแต่อย่างใด.
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง กรณีเครือข่ายภาคีสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) เรียกร้องพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ทบทวนการใช้ มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญชั่วคราวปี 57 ปลด 7 กรรมการสสส. ว่าในบัญชีสอบข้าราชการพัวพันการทุจริต ลอต 3 เห็นได้ชัดว่า กลุ่มอื่นๆ มีการตั้งคณะกรรมการสอบ แต่ สสส.ไม่มีการตั้งคณะกรรมการสอบ ที่เป็นเช่นนั้น เพราะไม่ได้มีการทุจริต เพียงแต่มีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน นั่งในองค์กรที่ขอทุน กับองค์กรที่ให้ทุน เมื่อเอาออกจากตำแหน่ง ก็ไม่ทับซ้อนอีกต่อไป
ส่วนกรรมการทั้ง 7 คน จะได้กลับมาหรือไม่ เมื่อมีการสรรหาใหม่ ตนไม่ทราบ ถ้าจะเอากลับมา ก็ไม่ได้ว่าอะไร และถ้าจะกลับมาก็ต้องยกเลิกคำสั่งมาตรา 44
ด้าน พล.อ.ชาตอุดม ติตถะสิริ ประธานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใชจ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) กล่าวถึง กรณีวันที่ 18 ม.ค.นี้ พล.อ.ประยุทธ์ จะมีการออกคำสั่งหัวหน้าคสช. ตาม มาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 57 ให้บอร์ดสสส. เดิมที่เหลืออยู่ มีอำนาจสามารถปฏิบัติงานได้ และจัดตั้งตำแหน่งรองประธานให้ครบองค์ประชุม ภายหลังก่อนหน้านี้ ได้ออกคำสั่งให้ 7 บอร์ด สสส. หยุดการปฏิบัติหน้าที่ ว่า นายกฯ ต้องการให้สสส. เดินต่อไปได้ โดยต้องดำเนินการอย่างมีจริยธรรม ตรงตามวัตถุประสงค์ ส่วนอะไรที่เป็นปัญหากระทรวงสาธารณสุข กำลังดำเนินการแก้ไข เพื่อให้การใช้งบประมาณเป็นไปตามวัตถุประสงค์
ส่วนตำแหน่งบอร์ด สสส.ที่ว่างอยู่ นายกฯให้มีกระบวนการคัดสรรตามขั้นตอนที่ถูกต้อง และนายกฯได้พูดแล้วว่า คสช. จะไม่เข้าไปล้วงลูก
เมื่อถามว่า กรรมการ สสส.ทั้ง 7 คน ที่ถูกปลด เมื่อรัฐบาลยืนยันไม่เกี่ยวกับการทุจริต แต่เป็นเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อน สามารถมาสมัครใหม่ได้หรือไม่ พล.อ.ชาตอุดม กล่าวว่า ต้องดู ซึ่งตนไม่รู้คุณสมบัติกำหนดไว้อย่างไร ถ้ามีคุณสมบัติก็เข้ามาได้ เมื่อถามว่าระหว่างนี้ จำเป็นต้องได้คนเข้าไปรักษาการในบอร์ด สสส. ก่อนหรือไม่ อย่าง นพ.แท้จริง ศิริพานิช เลขาธิการมูลนิธิเมาไม่ขับ หรือ นพ.ณรงค์ สหเมธาพัฒน์ อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข ระหว่างรอตั้งกรรมการ สสส.ใหม่ พล.อ.ชาตอุดม กล่าวว่า กรรมการที่เหลือ 14 คน จาก 21 คน ก็สามารถทำหน้าที่ต่อไปได้ ยังไม่ต้องตั้งคนกลางอะไรเข้าไป และนายกฯได้สั่งกระทรวงสาธารณสุข เข้าไปดูกรอบการทำงานของ สสส. ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ให้สังคมได้รับประโยชน์อย่างแท้จจริงแล้ว จึงยังไม่จำเป็นต้องตั้งคนกลางเข้าไปดูแลระหว่างการสรรหา
**จับตาคำสั่งคืนตำแหน่งบอร์ด สสส.
นพ.วิชัย โชควิวัฒน์ อดีต รองประธานบอร์ด สสส. คนที่ 2 กล่าวถึงกรณี พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ในวันที่ 18 ม.ค. จะมีการออกคำสั่งให้ สสส. สามารถดำเนินการจัดประชุมคณะกรรมการกองทุนฯได้ ว่า ถือเป็นสัญญาณที่ดี ก็คงต้องติดตามกันต่อไป
ส่วนกระแสข่าวระบุว่า มีกระบวนการแทรกแซงการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯนั้น นพ.วิชัย กล่าวว่า โดยกระบวนการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒินั้น ถ้าดูตามคำสั่ง ม.44 กำหนดชัดว่า กระบวนการสรรหาให้เป็นไปตามผู้มีอำนาจหน้าที่สรรหาตามระเบียบที่กำหนดไว้เดิม ซึ่งระเบียบฯ ของสสส. กำหนดองค์ประกอบของกรรมการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณุวุฒิฯ ไว้ชัดเจน ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนภาคี ผู้แทนเจ้าหน้าที่ และบุคลากรต่างๆ ตามองค์กรประกอบกำหนด อีกทั้งหากดูจากขั้นตอนการสรรหาผู้จัดการกองทุน สสส. เพื่อดำรงตำแหน่งแทน ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส. ที่ดำเนินการแล้วเสร็จแล้วนั้น เท่าที่ตนได้ติดตาม ก็ไม่พบว่ามีกระบวนการที่พยายามแทรกแซงแต่อย่างใด.
