“หมอวิชัย” ระบุนายกฯ ขอโทษบอร์ด สสส.ถือเป็นสัญญาณดี เชื่อเหตุที่ต้องคืนตำแหน่งบอร์ด เพราะงานชะงัก จึงต้องทำให้ สสส.จัดประชุมได้ ด้านภาคประชาชนชื่นชมพร้อมจับตาการคืนตำแหน่งบอร์ด สสส.
นพ.วิชัย โชควิวัฒน อดีตรองประธานคณะกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) คนที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหตน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ระบุว่า ในวันที่ 18 มกราคม จะมีการออกคำสั่งให้ สสส.สามารถดำเนินการจัดประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ ได้ และขอโทษกรณีที่มีการออกคำสั่งให้คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ สสส.7 คนพ้นการทำหน้าที่ ว่า ตนยังไม่มีโอกาสได้ฟังคำสัมภาษณ์ทั้งหมดของนายกฯ แต่เข้าใจว่าการที่นายกฯ กล่าวขอโทษผู้อาวุโส น่าจะหมายถึง ศ.นพ.ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส และระบุถึงการปลดคณะกรรมการกองทุนฯ ทั้ง 7 ท่าน ทำให้การดำเนินงานของ สสส.ต้องหยุดชะงัก เพราะไม่สามารถประชุมคณะกรรมการกองทุนฯ ได้เนื่องจากองค์ประกอบไม่ครบ ดังนั้นจึงต้องดำเนินการให้ สสส.จัดประชุมได้ ถือเป็นสัญญาณและเป็นจุดตั้งต้นที่ดี โดยส่วนตัวแล้วก็หวังที่จะทำอย่างไรให้ สสส.กลับมาทำงานได้ตามปกติตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย อย่างไรก็คงต้องติดตามกันต่อไป
ส่วนกระแสข่าวระบุว่ามีกระบวนการแทรกแซงการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิฯ นั้น นพ.วิชัยกล่าวว่า โดยกระบวนการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒินั้น ถ้าดูตามคำสั่ง ม.44 กำหนดชัดว่า กระบวนการสรรหาให้เป็นไปตามผู้มีอำนาจหน้าที่สรรหาตามระเบียบที่กำหนดไว้เดิม ซึ่งระเบียบฯ ของ สสส.กำหนดองค์ประกอบของกรรมการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณุวุฒิฯ ไว้ชัดเจน ประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิ ผู้แทนภาคี ผู้แทนเจ้าหน้าที่ และบุคลากรต่างๆ ตามองค์กรประกอบกำหนด อีกทั้งหากดูจากขั้นตอนการสรรหาผู้จัดการกองทุน สสส.เพื่อดำรงตำแหน่งแทน ทพ.กฤษดา เรืองอารีย์รัชต์ ผู้จัดการ สสส.ที่ดำเนินการแล้วเสร็จแล้วนั้น เท่าที่ตนได้ติดตามก็ไม่พบว่ามีกระบวนการที่พยายามแทรกแซงแต่อย่างใด
ด้านนายวันชัย บุญประชา เลขานุการมูลนิธิเครือข่ายครอบครัว กล่าวว่า ตนขอชื่นชมท่านนายกรัฐมนตรี ที่กล้าหาญในการออกมาขอโทษ ซึ่งโดยปกติแล้วจะเห็นผู้นำน้อยมาก เมื่อรู้สึกว่าตนเองทำอะไรพลาดไปแล้วจะออกมาขอโทษ แต่สิ่งที่จะต้องติดตามกันต่อไปคือ ท่านนายกฯ จะทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ไปจัดการแก้ไขได้หรือไม่ เนื่องจากท่านนายกฯ ระบุว่าไม่พบการทุจริต ดังนั้นเพื่อให้คำขอโทษของท่านนายกฯ เป็นรูปธรรมที่ชัดเจน ควรดำเนินการคืนตำแหน่งให้แก่กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิของ สสส. เพราะ สสส.ได้มีการปรับปรุงแก้ไขระเบียบที่เกี่ยวข้องไม่ให้ผู้มีตำแหน่งอยู่ในองค์กรที่รับทุน สสส. เข้ามาเป็นคณะกรรมการกองทุนฯ ไปแล้ว ดังนั้นควรคืนตำแหน่งท่าน เพราะได้ตัดสินใจเองว่าจะลาออกจากกรรมการฯ สสส. หรือมูลนิธิ เพราะต้องถือเป็นสิทธิ์ของแต่ละท่าน รวมทั้งขอให้สั่งการให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) ยกเลิกการชะลอการดำเนินงานของ สสส. ด้วย
“ภาคประชาสังคมขอชื่นชมท่านนายก และจะติดตามว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะมีการดำเนินงานให้คำพูดของท่านนายกฯ เกิดเป็นรูปธรรมหรือไม่ ซึ่งการที่จะปฏิรูป สสส.ให้เป็นเครื่องมือของสังคมอย่างแท้จริงนั้น ต้องเปิดเวทีให้ประชาชน หน่วยงาน องค์กรที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันสร้างสรรค์ ไม่ใช่เพียงแต่คนในระบบราชการ เพราะ สสส.เป็นองค์กรนวัตกรรมทางสุขภาพ ตั้งขึ้นเพื่อลดข้อจำกัดทางราชการในการทำงานด้านสุขภาพ ไม่ควรมองต้องอคติหรือจับผิด แต่ควรเปิดให้ประชาชนมาช่วยกันปฏิรูป” นายวันชัยกล่าว และว่า ในส่วนของประเด็นภาษีซึ่งเป็นความเดือดร้อนของภาคีฯ ขอฝากให้ สสส.เร่งหารือร่วมกับกรมสรรพากรเพื่อหาข้อยุติให้ได้โดยเร็ว