ประธาน ศอตช.ลั่นไม่คุยภาคีเครือข่ายสุขภาพ ที่ให้ทบทวนคำสั่ง คสช.ปลด 7 บอร์ด สสส.พ้นเก้าอี้นอกรอบ แนะให้ยื่นขอความเป็นธรรมมา พร้อมชี้แจง ชี้เป็นหลักการ ไม่มีใครมีอภิสิทธิ์ ยันไม่ยุบตระกูล ส.
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวถึงกรณีภาคีเครือข่ายสุขภาพ 20 เครือข่ายออกมาเรียกร้องให้ทบทวนคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ให้กรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) 7 คน พ้นจากตำแหน่งว่า ตั้งแต่บัญชี 1 และ 2 มีหลักการคือต้องยื่นขอความเป็นธรรมขึ้นมา จากนั้น ศอตช.จะให้องค์คณะที่ทำหน้าที่ตรวจสอบชี้แจงซึ่งปฏิบัติกันมาตลอด อย่างกรณีเลขาธิการ สปสช.พอชี้แจงเขาก็เข้าใจ ยืนยันต้องทำตามหลักการนี้ ต้องปฏิบัติเท่าเทียมกันทุกคน ถ้าจะมีกลุ่มหนึ่งให้ออกไปชี้แจงข้างนอกตนไม่ทำ ไม่มีองค์กรหรือหน่วยงานที่ ศอตช.ตรวจสอบแล้วจะได้รับอภิสิทธิ์จากตนไปชี้แจงข้างนอก แต่ต้องเข้ามาตามช่องทางเหมือนคนอื่น ไม่อย่างนั้นคนอื่นจะตั้งคำถามกับว่าทำไมถึงทำแบบนี้
พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ตนพร้อมให้ความเป็นธรรม ที่ผ่านมาขนาดต้องคืนตำแหน่งก็มีมาแล้ว ส่วนที่จะมีการเคลื่อนไหวกันถามว่าเคลื่อนไหวเพื่ออะไร ส่วน นพ.วิชัย โชควิวัฒน อดีตรองประธานบอร์ด สสส. จนถึงขณะนี้ก็ยังไม่มา แต่ไปร้องอยู่ข้างนอก ไปทำอย่างนั้นมันไม่จบ ตนไม่ได้ใช้ตรงนี้เป็นที่โต้ตอบท่าน แต่พูดในหลักการที่ตนพยายามยืนอยู่ตรงนี้ให้ได้
“ตระกูล ส.ทั้งหลาย รัฐบาลไม่มีนโยบายที่จะยุบเลย แต่ในหลักการทำงานเมื่อทำไปแล้วมีข้อที่ต้องปรับปรุงก็ต้องปรับปรุง ยืนยันหลายครั้งว่า สสส.เป็นโครงการที่ดี รัฐบาลไม่มีแนวทางจะยกเลิก แต่กำลังพูดในแง่ของการใช้งบบริหารแผ่นดิน ไม่ได้พูดถึงโครงการ ไม่ได้พูดถึงคนที่เสียสละเข้าไปทำงาน คนที่ทำงาน 5 ปี 10 ปี 50 ปี ย่อมมีข้อผิดพลาดกันได้ก็มาคุยกัน แล้วทำให้โครงการนี้มุ่งไปสู่การบริการประชาชนอย่างดี คุ้มค่าต่อเงินทุกบาททุกสตางค์ และเท่าเทียมกันทั้งหมด”
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีการรวบรวมกันหลายเครือข่ายจะส่งผลต่อรัฐบาลหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า ถ้าประชาชนชอบแบบนั้นก็ให้ประชาชนชอบไป ตนยืนยันว่าไม่ทำ เพราะมีหลักการและยืนยันว่าทำเท่าเทียมกัน ทุกคนต้องเดินเข้ามาโดยทำเรื่องขอความเป็นธรรม ไม่อย่างนั้นบัญชี 1 และ 2 จะตำหนิตน ถ้าเขาทำเรื่องเข้ามาก็พร้อมตอบ แต่จะไม่แจกแจงในสาธารณะ ไม่เคยทำแม้แต่ครั้งเดียว เพราะคนเหล่านี้มีครอบครัว มีลูกมีเมีย อย่าไปพูดแฉอะไร ตนว่าเวทีข้างนอกไม่ใช่เวทีการแก้ปัญหา
เมื่อถามย้ำว่า หากเขายังไม่เข้าใจยินดีที่จะไปพูดหรือไม่ พล.อ.ไพบูลย์กล่าวสั้นๆ อย่างมีอารมณ์ว่า “ไม่คุย” พร้อมเดินออกจากวงสัมภาษณ์ทันที