xs
xsm
sm
md
lg

อัดแม่น้ำ5สายวางระเบิดเวลา ไม่ใส่ใจปรองดอง-หวังอยู่ยาว

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวถึง การดำเนินการของแม่น้ำ 5 สายที่ผ่านมาว่า ไม่ได้ทำให้ประเทศชาติพ้นวิกฤติ ซ้ำยังเป็นการวางกับดัก สร้างเงื่อนไขไปสู่วิกฤติที่ร้ายแรงในอนาคต จะทำให้ประเทศเสียโอกาส ย่ำอยู่กับที่ รัฐบาลหลังเลือกตั้งบริหารงานไม่ได้ และอยู่ได้ไม่นาน เมื่อรัฐบาลยุบสภา วงจรเก่าทั้งหมดจะกลับมา แต่จะแตกต่างจากที่ผ่านมาตรงที่ไม่ต้องมีการรัฐประหาร ฝ่ายที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง สามารถอยู่ได้นานๆ โดยเงื่อนไขปัจจัยที่สะสมไว้ เพื่อให้เกิดวิกฤติในอนาคต ข้อหนึ่งก็คือ การปิดกั้นสิทธิ เสรีภาพ การกดโดยใช้อำนาจเด็ดขาด กดผู้เดือดร้อน หรือผู้เห็นต่างไม่ให้แสดงความคิดเห็น ซึ่งจะเป็นระเบิดเวลาในวันข้างหน้า หากไม่เกิดขึ้นในสมัยรัฐบาล คสช. ก็จะมีโอกาสปะทุขึ้นมาได้ง่ายหลังการเลือกตั้ง
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า อีกปัจจัยที่ทำให้วิกฤติยังคงอยู่ต่อไป หรือมากยิ่งขึ้น คือ ช่วงที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ยังไม่ปรากฏว่ามีความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง กระบวนการปรองดอง ก็ยังไม่เริ่มต้น โดยคสช. และรัฐบาลไม่มีการริเริ่ม หรือใส่ใจอยากปรองดอง อย่างที่กล่าวอ้างตอนที่จะเข้าสู่อำนาจ
"ความจริงแล้ว ถ้าติดตามคำพูดของนายกรัฐมนตรี ไม่เข้าใจกระบวนการปรองดองเลย มักจะแสดงความคิดเห็นที่ทำให้เห็นว่า เข้าใจผิดว่า การปรองดองคือเรื่องนิรโทษกรรมเท่านั้น ใครพูดเรื่องปรองดองขึ้น นายกฯ มักจะพูดเรื่องนิรโทษกรรม หรือการอภัยโทษ โดยไม่พยายามรับฟังความเห็นฝ่ายต่างๆ ว่า มองปัญหาความขัดแย้งอย่างไร และจะแก้วิกฤติประเทศกันอย่างไร เมื่อนานเข้าจากสภาพที่อ้างว่าตัวเองเป็นคนกลาง ที่จะเข้ามาแก้ปัญหาความขัดแย้ง ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง หรือกลายเป็นคู่ขัดแย้งโดยไม่รู้ตัว หรือแม้แต่พูดถึงการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ยังไม่พูดเลย ดังนั้นจะให้ประเทศพ้นวิกฤติความขัดแย้ง จึงเป็นไปได้ยาก และเมื่อเรากำลังมีรัฐธรรมนูญที่สร้างเงื่อนไขไปสู่วิกฤติด้วย ยิ่งทำให้เราไม่มีทางพ้นจากวิกฤติ" นายจาตุรนต์ กล่าว
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ปัญหาอีกเรื่องที่เป็นข้ออ้าง คสช. เข้ามาอยู่ในอำนาจ คือ การปราบปรามการทุจริต ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ปีครึ่งที่ผ่านมา ไม่ได้รับการดำเนินการใดๆ กลับทำให้เสียหายมากขึ้น ไม่ปรับปรุงระบบป้องกันการทุจริต ล้มเลิกระบบที่องค์กรอิสระเป็นผู้ดูแลปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน เปลี่ยนมาอยู่ใต้ฝ่ายบริหาร ทั้งรัฐบาลและ คสช.ใช้ มาตรา 44 ในรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราวปี 57 ทำให้เกิดปัญหามากกว่าเป็นประโยชน์ ทำระบบการป้องกันและปราบปรามเสียหายยิ่งกว่าเดิม อย่างกรณีจัดการกับสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพหรือบอร์ด (สสส.) การปลดกรรมการ สสส. เป็นตัวอย่างของความล้มเหลวเชิงระบบ อาศัยการใช้อำนาจเบ็ดเสร็จ โดยไม่ผ่านกระบวนการยุติธรรมที่ถูกต้อง และทำให้ไม่มีกระบวนการไปตรวจสอบ สสส. อย่างโปร่งใส และยุติธรรม
ดังนั้น เมื่อใช้ มาตรา 44 ไม่เป็นธรรมกับองค์กร และคนจำนวนมากที่ถูกใช้คำสั่ง อันมีผลทำให้ข้าราชการ หรือเจ้าหน้าที่ของรัฐจำนวนมาก เกิดอาการเกียร์ว่าง เพราะบรรดาข้าราชการ และเจ้าหน้าที่รัฐ กลัวว่าไม่รู้ว่าวันไหนจะถูกดำเนินการด้วย มาตรา 44 โดยไม่สามารถไปร้องขอความเป็นธรรมกับใครได้ จากที่ต้องเสียสิทธิประโยชน์ และเกียรติยศไปแล้ว และต้องสับสนกับนายกฯ ไม่รู้ว่าอะไรกันแน่ ตอนแรกให้กลับมา แล้วมาบอกให้สรรหาใหม่ เพราะฉะนั้น โดยรวมแล้ว บทบาทของแม่น้ำ 5 สาย ไม่ได้กำลังแก้ปัญหาสำคัญๆของประเทศ แต่กำลังซ้ำเติมปัญหาที่มีอยู่แล้วให้แย่ลง กำลังทำให้ประเทศเสียโอกาสไปทุกวัน โดยที่มีแนวโน้มว่าปัญหาเหล่านี้ จะมีมากขึ้น และวิกฤติ นี้จะยืดเยื้อยาวนานต่อไป
กำลังโหลดความคิดเห็น