“จาตุรนต์” ฟ้องศาลปกครองถอนคำสั่งกระทรวงการต่างประเทศที่ให้ยกเลิกหนังสือเดินทาง ระบุเหตุผลไม่ชอบ
นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี สมาชิกพรรคเพื่อไทย เข้ายื่นฟ้องกระทรวงการต่างประเทศ กรมการกงสุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ อธิบดีกรมการกงสุล สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นเผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1-7 ต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้ยกเลิกคำสั่งกระทรวงการต่างประเทศ ลงวันที่ 19 ส.ค. 58 ที่ยกเลิกหนังสือเดินทางของตนเอง เนื่องจากเห็นว่าคำสั่งยกเลิกดังกล่าวไม่ชอบด้วยกฎหมาย
นายจาตุรนต์กล่าวว่า ตนเองไม่ได้รับแจ้งคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางจากกระทรวงการต่างประเทศ ทราบจากการที่กรมการกงสุลออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซต์ว่า เนื่องจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติมีหนังสือขอให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณา เนื่องจากตนเป็นบุคคลที่มีหมายจับ และอยู่ระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาแล้วเห็นว่ากรณีดังกล่าวเข้าข่ายจะยกเลิกหนังสือเดินทางตามระเบียบของกระทรวงการต่างประเทศ จึงได้ยกเลิกหนังสือเดินทางของตน ซึ่งตนก็ได้มีหนังสือลงวันที่ 3 ก.ย. 58 ถึงปลัดกระทรวงการต่างประเทศเพื่อสอบถามข้อเท็จจริง แต่ก็ยังไม่ได้รับหนังสือตอบกลับจากปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และได้ยื่นอุทธรณ์คำสั่งดังกล่าวต่อ รมว.ต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และอธิบดีกรมการกงสุล แต่ไม่มีการพิจารณาอุทธรณ์ดังกล่าวและไม่มีการแจ้งผลให้ทราบ จึงต้องใช้สิทธิฟ้องคดีต่อศาล
นายจาตุรนต์ยังเห็นว่าเหตุผลที่กระทรวงการต่างประเทศอ้างในการยกเลิกหนังสือเดินทางตนเองนั้น เป็นเท็จ เพราะตนเองไมใช่บุคคลที่มีหมายจับหรืออยู่ระหว่างเดินทางไปต่างประเทศที่ผ่านมามีคดีที่อัยการศาลทหารกรุงเทพยื่นฟ้องตนต่อศาลทหาร ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ตนถูกควบคุมตัวโดยสมัครใจเมื่อวันที่ 27 พ.ค. 2557 ไม่มีการออกหมายจับแต่อย่างใด และขณะนี้คดีดังกล่าวอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลทหาร โดยตนได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ภายใต้เงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกประเทศ เว้นแต่ศาลจะอนุญาต และที่ว่าตนอยู่ระหว่างเดินทางไปต่างประเทศก็ไม่เป็นจริง เพราะขณะนั้นไม่ได้เดินทางไปไหน เชื่อว่าเหตุผลในการยกเลิกหนังสือเดินทางของตนน่าจะมาจากก็ในเวลานั้นตนได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ร่างรัฐธรรมนูญว่ามีเนื้อหาไม่เป็นประชาธิปไตย รวมทั้งแสดงความเห็นการเมืองอื่นๆ ที่ทำให้ผู้มีอำนาจไม่พอใจ เหตุแห่งการยกเลิกหนังสือเดินทางจึงไม่ตรงกับเหตุผลที่แท้จริงเป็นการเลือกปฏิบัติ จงใจกระทำละเมิดโดยผิดกฎหมาย ทำให้ตนได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรงในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความเสียหายต่อเสรีภาพในการเดินทาง ความเสียกายต่อเกียรติยศและชื่อเสียง เสียหายต่อศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ จึงขอให้ศาลพิจารณาเพิกถอนคำสั่งดังกล่าวของกระทรวงการต่างประเทศ
ทั้งนี้ นายจาตุรนต์มองว่า ข้อเท็จจริงในคดีของตนแตกต่างจากคดีขอเพิกถอนหนังสือเดินทางของนายทักษิณ ชินวัตร เพราะตนเองไม่มีหมายจับ ไม่ได้อยู่ระหว่างเดินทางในต่างประเทศ ดังนั้น การที่ศาลปกครองยกคำขอทุเลาการบังคับตามคำสั่งกระทรวงต่างประเทศที่ยกเลิกหนังสือเดินทางของนายทักษิณ จึงไม่สามารถนำมาเทียบเคียงกันได้ ซึ่งในส่วนคดีของตนยังไม่ได้ขอให้ศาลพิจารณากำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา เพราะทราบว่าตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงต่างประเทศถ้ายกเลิกหนังสือเดินทางของบุคคลไปแล้ว จะให้คืนไมได้ ต้องการเป็นการยื่นทำหนังสือเดินทางฉบับใหม่ แต่การจะไปยื่นขอทำหนังสือเดินทางใหม่ก็ยังไม่ได้เพราะฟ้องเป็นคดีขอเพิกถอนอยู่ อย่างไรก็ตาม ตนขอสวงวนสิทธิ์ในอนาคตหากมีเหตุฉุกเฉิน จำเป็นก็อาจจะต้องร้องขอให้ศาลไต่สวนฉุกเฉินเพื่อกำหนดมาตรการบรรเทาทุกข์ชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา และขอสงวนสิทธิ์ในการที่จะดำเนินคดีอาญาและเรียกค่าเสียหายในทางแพ่งจากผู้เกี่ยวข้องต่อไป