xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

คดีเกาะเต่าทำพิษ แฮกเกอร์นิรนามถล่มเว็บศาลเดี้ยง! พี่สาวคนตายอัดตำรวจไทยหลอกลวง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เว็บเพจหน้าแรกของสำนักงานศาลยุติธรรม กลายเป็นบนพื้นสีดำ และมีรูปสัญลักษณ์คล้ายหน้ากากสีขาวถูกคาดบริเวณดวงตา พร้อมข้อความภาษาอังกฤษ เขียนว่า “ BLINK HACKER GROUP” และ “ Failed Law We Want Justice ! # Boycott Thailand” โดยขบวนการแฮกเกอร์นานาชาติ ที่ใช้ชื่อว่า Anonymous เพื่อประท้วงต่อคำพิพากษาคดีฆาตกรรมบนเกาะเต่า
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ยังลุกลามบานปลายไม่หยุดกรณีคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวชาวอังกฤษบนเกาะเต่า หลังศาลชั้นต้นมีคำพิพากษาลงโทษประหารชีวิตแรงงานต่างด้าวชาวพม่า 2 คน ก็เกิดการตอบโต้กลับเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม เริ่มจากกลุ่มแฮกเกอร์ชาวพม่าที่ถล่มเว็บไซต์ของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตามมาด้วยการลงมือโจมตีเว็บไซต์ศาลยุติธรรมของไทยของขบวนการแฮกเกอร์นานาชาติ นามว่า Anonymous หรือ นิรนาม

สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานปฏิบัติการโจมตีเว็บไซต์ของรัฐบาลไทยล่าสุดเมื่อคืนวันที่ 12 มกราคม 2559 ซึ่งเป้าหมายครั้งนี้คือ ศาลยุติธรรมของไทย โดยขบวนการแฮกเกอร์นานาชาติ ที่ใช้ชื่อว่า Anonymous หรือ นิรนาม ที่อ้างว่าลงมือโจมตีเว็บไซต์หลายร้อยแห่งของรัฐบาลไทย หลังจากศาลไทยมีคำพิพากษาประหารชีวิตนายซอลิน และนายวิน ซอ ฮตุน อายุ 22 ปีทั้งคู่ เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2558 เนื่องจากพบว่าพวกเขามีความผิดฐานฆาตกรรม ฮันนาห์ วิทเธอริดจ์ วัย 23 ปี และนายเดวิด มิลเลอร์ วัย 24 ปี บนเกาะเต่าในปี 2557 แต่เป็นเพราะกระบวนการสืบสวนสอบสวนของตำรวจทำให้เกิดข้อเคลือบแคลงสงสัยว่าทรมานผู้ต้องสงสัยและจัดการกับหลักฐานผิดพลาด ทำให้การประท้วงปะทุขึ้นในพม่าหลังมีคำพิพากษาเพราะความเชื่อที่ว่าแรงงานทั้งสองเป็น “แพะรับบาป” ขณะที่นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนบางรายเชื่อว่าตำรวจบังคับให้ทั้งสองยอมรับสารภาพ แต่ตำรวจปฏิเสธว่าไม่ได้ทำเช่นนั้น

รายงานข่าวของรอยเตอร์ ระบุว่า ในข้อความที่โพสต์ลงเพจเฟซบุ๊ก 'We Are Anonymous' ทางกลุ่มบอกว่าพวกเขาเป็นผู้โจมตีเว็บไซต์ศาลไทยเพื่อประท้วงคำพิพากษา โดย “Anonymous ปิดเว็บไซต์ศาลยุติธรรมไทยทั้งหมดเพื่อประท้วงต่อคำพิพากษาคดีฆาตกรรมบนเกาะเต่า Anonymous สนับสนุนการรณรงค์ที่เรียกร้องให้นักท่องเที่ยวคว่ำบาตรไทย” ทางกลุ่ม ระบุ

เมื่อตรวจสอบหน้าเว็บเพจหน้าแรกของสำนักงานศาลยุติธรรม กลายเป็นบนพื้นสีดำ และมีรูปสัญลักษณ์คล้ายหน้ากากสีขาวถูกคาดบริเวณดวงตา พร้อมข้อความภาษาอังกฤษ เขียนว่า “ BLINK HACKER GROUP” และ “ Failed Law We Want Justice ! # Boycott Thailand”

นอกจากนั้น ทางกลุ่มยังเปิดเผยรายชื่อมากกว่า 200 เว็บไซต์ที่พวกเขาดำเนินการโจมตี ขณะที่รอยเตอร์ระบุว่าเว็บไซต์หลักของศาลแพ่งไทยไม่สามารถเข้าถึงได้ในทันที แต่เว็บไซต์ของศาลยุติธรรม ซึ่งทางกลุ่มอ้างว่าได้ดำเนินการเจาะระบบ สามารถกลับมาใช้การได้ตามปกติในช่วงบ่ายวันพุธ 13 มกราคม 2559

กรณีที่หน้าเว็บไซต์สำนักงานศาลยุติธรรม ถูกแฮกเกอร์โจมตีจนไม่สามารถใช้งานได้นั้น นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบการเชื่อมต่อโครงข่ายข้อมูลหน้าเว็บไซต์สำนักงานศาลยุติธรรมไม่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่เวลา 22.00 น.ของวันที่ 12 มกราคมที่ผ่านมา โดยพบว่า หน้าเว็บเพจหน้าแรกของสำนักงานศาลยุติธรรม กลายเป็นบนพื้นสีดำ และมีรูปสัญลักษณ์คล้ายหน้ากากสีขาว พร้อมข้อความภาษาอังกฤษ เขียนว่า “ BLINK HACKER GROUP” และ “ Failed Law We Want Justice ! # Boycott Thailand ” และจากการสืบค้นพบว่า “ BLINK HACKER GROUP ” เชื่อมโยงกลุ่มที่ใช้ชื่อ Anonymous Myanmar Hacker

อย่างไรก็ตาม การที่หน้าเว็บไซต์ของสำนักงานศาลยุติธรรม ไม่สามารถเข้าใช้งานได้ตามปกติเป็นแต่เพียงการเปิดเข้ามาใช้งานของบุคคลภายนอกเท่านั้นแต่ระบบปฏิบัติการภายในระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรมกับหน่วยงานภายในที่เกี่ยวข้องไม่ได้รับความเสียหายใดๆ

โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวย้ำว่า ลักษณะข้อความของผู้บุกรุกทางคอมพิวเตอร์ที่ได้เขียนไว้ ในหน้าเว็บเพจของสำนักงานศาลยุติธรรม ทำให้เห็นได้ว่าอาจเชื่อมโยงการพิพากษาคดีเกาะเต่า ซึ่งสำนักงานศาลยุติธรรม ขอเรียนว่า การกระทำของผู้บุกรุกทางคอมพิวเตอร์ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงการพิจารณา และคำพิพากษาศาลชั้นต้นคดีเกาะเต่าได้ที่ศาลได้ดำเนินการตามบทบัญญัติกฎหมาย แต่ทางคดี คู่ความสามารถใช้สิทธิ์อุทธรณ์-ฎีกาได้ตามกฎหมายต่อไป

การเจาะระบบครั้งนี้มีขึ้นหลังจากเมื่อวันอังคาร (12 มกราคม 2559) นางสาวลอรา วิทเธอริดจ์ พี่สาวของ นางสาวฮันนาห์ ออกมาแฉว่าถูกขู่ฆ่าจากคนไทย มีการพยายามเสนอเงินเพื่อให้เลิกติดตามคดี ซ้ำเจต้าหน้าที่ยังพูดทำร้ายความรู้สึกครอบครัว ด้วยการบอกให้กลับบ้าน ไป ทำลูกใหม่ พร้อมตำหนิตำรวจหลอกให้แถลงข่าวโดยไม่เต็มใจ

เฟซบุ๊ก “บีบีซีไทย” ได้นำข้อความจาก นางสาวลอรา ที่โพสต์ผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว “Laura Witheridge” ตำหนิกระบวนการยุติธรรมของไทยเกี่ยวกับคดีดังกล่าว โดยระบุว่า พี่สาวเหยื่อคดีเกาะเต่าโพสต์เฟซบุ๊กระบุถูกข่มขู่ ตำหนิทางการไทยใช้ถ้อยคำทำร้ายความรู้สึก

ขณะเดียวกัน เพรส แอสโซซิเอชั่น รายงานเช่นเดียวกันว่า นางสาวลอรา ได้โพสต์ข้อความทางเฟซบุ๊กส่วนตัวตำหนิทางการไทยว่าไม่ใส่ใจความโศกเศร้าของครอบครัว เจ้าหน้าที่ตำรวจและศาลใช้ถ้อยคำทำร้ายความรู้สึก ส่วนตัวเธอนั้นถูกข่มขู่เอาชีวิตและมีผู้พยายามเสนอเงินชดเชยเพื่อให้เรื่องเงียบ

นางสาวลอรา วิทเธอริดจ์ พี่สาวของ นางสาวฮันนาห์ วิทเธอริดจ์ 1 ในเหยื่อฆาตกรรมเกาะเต่าโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวโจมตีกระบวนการยุติธรรมของไทย
นางสาวลอรา เขียนข้อความทางหน้าเฟซบุ๊ก เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2559 หลังทราบข่าวการเสียชีวิตของลุค มิลเลอร์ นักท่องเที่ยวชาวอังกฤษคนล่าสุดซึ่งเสียชีวิตในสระว่ายน้ำของ โรงแรมแห่งหนึ่งที่เกาะเต่า เมื่อไม่กี่วันก่อนว่า ...... ระหว่างที่ครอบครัวพยายามติดตามคดีของน้องสาว ตนเองได้รับคำขู่เอาชีวิตจากคนไทยหลายครั้ง โดยมีผู้ส่งรูปของเธอที่โดนฉีกใบหน้าออกมาให้ พร้อมข้อความว่า “ฆาตกรทำงานเสร็จไปแค่ครึ่งเดียว” ทั้งยังมีการส่งภาพถ่ายจากที่เกิดเหตุที่น่าสยดสยองมาให้ ซึ่งทำให้เธอหวาดกลัวและฝันร้าย เธอยังเปิดเผยว่า มีคนไทยบางกลุ่มพยายามเสนอเงินชดเชยเพื่อให้ครอบครัวของเธอเลิกติดตามคดี แต่เธอรู้สึก “สะอิดสะเอียนอย่างยิ่ง” และบอกให้พวกเขาเอาเงินไปทิ้งเสีย

นอกจากนั้น ตลอดช่วงเวลาของการพิจารณาคดี เจ้าหน้าที่ได้แสดงความเห็นที่ทำร้ายความรู้สึกของครอบครัววิทเธอร์ริดจ์เป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งถ้อยคำที่ว่า “ยังจะต้องวุ่นวายอะไรอีก? กลับบ้านไปเสีย ไปทำลูกใหม่อีกคนก็แล้วกัน อีก 30 วันเธอก็กลับมาเกิดใหม่แล้ว ชาติหน้าเธออาจจะโชคดีกว่านี้” ลอรา บอกด้วยว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยส่วนใหญ่ทุจริต ทั้งยังหลอกให้ครอบครัวของเธอเข้าร่วมการแถลงข่าวโดยไม่เต็มใจ ทั้งที่ตอนแรกบอกว่าเป็นการเชิญไปให้ข้อมูลเพิ่มเติม

ก่อนหน้านี้ ครอบครัวของ นางสาวฮันนาห์ วิทเธอริดจ์ เปิดเผยหลังรับทราบคำพิพากษาประหารชีวิตจำเลยชาวเมียนมาว่า ในช่วงปีที่ผ่านมาครอบครัววิทเธอริดจ์ต้องเผชิญกับช่วงเวลาที่ยากลำบากอย่างเหลือเชื่อ โดยการติดตามกระบวนการพิจารณาคดีในไทยเป็นความยากลำบากอย่างยิ่ง ครอบครัวต้องอดทนกับทั้งความเจ็บปวดและกับการได้รับข่าวสารที่สับสน ขณะนี้จึงขอเวลาไตร่ตรองผลการพิพากษาในครั้งนี้อย่างรอบคอบ และใคร่ครวญดูว่าทางครอบครัวจะมีแถลงการณ์ที่เหมาะสมอย่างไรต่อไป

ขณะที่ครอบครัวของนายเดวิด มิลเลอร์ เหยื่อผู้เสียชีวิตในคดีเดียวกับน.ส. ฮันนาห์ วิทเธอริดจ์ ออกแถลงการณ์ระบุว่าศาลได้ตัดสินอย่างยุติธรรม และตำรวจไทยได้สอบสวนเรื่องนี้อย่างรอบคอบและละเอียดถี่ถ้วน โดยมีหลักฐานท่วมท้นที่ใช้เอาผิดกับจำเลย

หลังจากนางสาวลอรา เขียนข้อความเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ทั้งเรื่องการเสนอเงินเพื่อให้ยุติการติดตามคดี และถูกข่มขู่ทำร้ายถึงชีวิต และถูกเจ้าหน้าที่ของศาลใช้ถ้อยคำทำร้ายความรู้สึก ซึ่งกระทบกระเทือนต่อภาพลักษณ์ของ สตช. ที่รวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีคดีดังกล่าว ทาง พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จึงสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงให้กระจ่างชัด ขณะเดียวกัน ก็สั่งการให้ฝ่ายกฎหมายและกองการต่างประเทศ แปลและตรวจสอบข้อความของสื่อมวลชนต่างประเทศ และข้อความในเฟซบุ๊กส่วนตัวของนางสาวลอรา อย่างละเอียด เพื่อตรวจสอบดูว่าเข้าข่ายการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่

ฟากฝั่งศาลยุติธรรมก็เช่นเดียวกัน นายสืบพงษ์ ศรีพงษ์กุล โฆษกศาลยุติธรรม เปิดเผยถึงการตรวจสอบเฟซบุ๊กของนางสาวลอรา พบว่า มีการลบข้อความที่เกี่ยวกับศาลออกไปแล้ว โดยข้อความนี้ ทางสำนักข่าวบีบีซี ได้แปลการโพสต์ดังกล่าวของนางสาวลอรา ลงเป็นบทความเมื่อวันอาทิตย์ที่ 10 ม.ค. 2559 เวลา 20.18 น. หลังจากนั้น เมื่อเวลา 23.32 น. ของวันจันทร์ที่ 11 มกราคม2559 ในเฟซบุ๊กของ ลอรา ก็ได้ลบข้อความที่เกี่ยวกับศาลและเจ้าหน้าที่ศาลยุติธรรมออกไป

โฆษกศาลยุติธรรม ชี้แจงถึงข้อความที่โพสต์เกี่ยวกับศาลถึงถ้อยคำของผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่ระหว่างพิจารณาที่มีถ้อยคำกระทบกระเทือนต่อความรู้สึกครอบครัวของผู้เสียชีวิต ว่าการพิจารณาคดีดังกล่าวเป็นไปอย่างเปิดเผย และในระหว่างการพิจารณาคดี จะมีบุคคลที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายอยู่ในห้องพิจารณาคดีด้วยทุกนัด โดยเฉพาะญาติของ น.ส.ฮันนาห์ ผู้เสียชีวิต จะมีบุคคลที่ได้รับความไว้วางใจจากสถานกงสุลของสถานทูตอังกฤษ อยู่ร่วมด้วยตลอดในการพิจารณา ถ้าหากมีเหตุการณ์ดังกล่าวน่าจะได้มีการกล่าวถึงประเด็นนี้ตั้งแต่ที่มีการพิจารณาแล้ว แต่กลับไม่ปรากฏข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ระหว่างการพิจารณาเลย และไม่มีเหตุผลที่ทางผู้พิพากษาและเจ้าหน้าที่จะกล่าวถ้อยคำเช่นนั้น เพราะศาลยุติธรรมก็ให้ความคุ้มครองสิทธิของฝ่ายญาติผู้เสียชีวิตเช่นเดียวกันกับฝ่ายจำเลยตลอดการพิจารณาเหมือนเช่นคดีทั่วๆ ไป

เงื่อนงำในคดีฆาตกรรมนักท่องเที่ยวบนเกาะเต่า ดูท่าจะยังเป็นไฟสุมกระบวนการยุติธรรมของไทยไปจนกว่าคดีจะจบลงในชั้นศาลสูงสุด


กำลังโหลดความคิดเห็น