MGR Online - โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติระบุเตรียมแจ้งความเอาผิดกลุ่มกลุ่มบลิงก์ แฮกเกอร์ เจาะระบบข้อมูลเว็บไซต์ในสังกัดสำนักงานแห่งชาติ หลังไม่พอใจกระบวนการยุติธรรม พร้อมยืนยันยังไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญของเจ้าหน้าที่
วันนี้ (6 ม.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีที่เว็บไซต์ของหน่วยงานในสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ทั้งกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กองบังคับการอำนวยการ ศูนย์บริการออกหนังสือรับรองความประพฤติ กองบัญชาการตำรวจสันติบาล และ บก.ภ.พิจิตร ถูกแฮกเกอร์ ในนามกลุ่มบลิงก์ แฮกเกอร์ (Blink HackerGroup) เจาะข้อมูลในระบบคอมพิวเตอร์ โดยเมื่อเข้าเว็บไซต์จะปรากฏพื้นหลังสีดำพร้อมภาพชายหน้ากากขาวและเขียนตัวอักษรใหญ่ มีข้อความว่า “Blink Hacker Group Failed Law We want Justice GreetzMyanmar Black Hats” แปลว่ากฎหมายล้มเหลว พวกเราต้องการความยุติธรรม ว่าในวันนี้ พล.ต.ต.ศิริพงษ์ ติมุลา ผู้บังคับการกองบังคับการสนับสนุนทางเทคโนโลยีจะแจ้งความต่อกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) ขณะนี้ทราบว่ามีพยานหลักฐานมากเพียงพอ แต่เนื่องจากการกระทำความผิดทางเทคโนโลยีเป็นเรื่องละเอียดอ่อนจึงต้องใช้ความรอบคอบในการทำงาน ต้องมีการตรวจสอบข้อมูลอย่างละเอียด
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวอีกว่า กลุ่มแฮกเกอร์ดังกล่าวมีการกระทำความผิดในหลายประเทศ โดยปกติกลุ่มแฮกเกอร์จะไม่มีการเปิดเผยพื้นที่ของตนเอง แต่มีการใช้ชื่อกลุ่มชัดเจน อ้างว่าไม่พอใจในคำตัดสินต่างๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้กระทำอ้างได้ แต่ในทางการสอบสวนเราไม่ได้มองเพียงว่าใครกล่าวอ้างเป็นคนทำ เรามองว่าผู้ที่กระทำแท้จริงเป็นใคร ในการกระทำความผิดแฮกเกอร์ มักจะไม่ปรากฏผู้กระทำความผิด สังเกตว่าจะมีการใส่หน้ากาก
“การตรวจสอบไอพีแอดเดรสก็อาจเป็นการออกมาจากประเทศไหนก็ได้ การกระทำความผิดแบบนี้ผิดมาตรา 5 การเข้าถึงระบบคอมพิวเตอร์ ผู้ใดเข้าถึงโดยมิชอบซึ่งระบบคอมพิวเตอร์ที่มีมาตรการป้องกันการเข้าถึงโดยเฉพาะ และมาตรการนั้นมิได้มีไว้สำหรับตน ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 9 การแก้ไขเปลี่ยนแปลงข้อมูลคอมพิวเตอร์ ผู้ใดทำให้เสียหาย ทำลาย แก้ไข เปลี่ยนแปลง หรือเพิ่มเติมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วนซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นโดยมิชอบ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว
ทั้งนี้ เชื่อว่ากระทำการเพื่อเป็นการแสดงความเก่งกาจ ซึ่งเว็บไซต์ดังกล่าวถือเป็นเว็บสาธารณะเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้าถึงข้อมูลของเจ้าหน้าที่ได้ จึงอาจทำให้มีช่องโหว่สามารถเข้าทำลายระบบได้ พร้อมกันนี้ได้ยืนยันว่ากลุ่มดังกล่าวไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลสำคัญของเจ้าหน้าที่ได้อย่างแน่นอน เนื่องจากมีระบบป้องกันอย่างรัดกุม
พ.ต.อ.กฤษณะกล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบกลุ่มนี้ยังไม่เคยไปเจาะเว็บไซต์ของหน่วยราชการอื่นๆ ทั้งนี้แม้จะมีการป้องกันเพียงใดผู้ที่จ้องจะแฮกเข้าระบบก็ทำได้อยู่ดี ยืนยันว่าเราต้องการจับกุมตัวมาดำเนินคดีอย่างแน่นอน โดยการใช้เทคโนโลยีในการสอบสวนเหมือนกัน ทั้งนี้ยังไม่ทราบวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของกลุ่มแฮกเกอร์กลุ่มนี้