ข่าวการจับทุจริตในองค์กรปกครองท้องถิ่น (อปท.) เกิดขึ้นอย่างถี่ยิบ ล่าสุด เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ จังหวัดน่าน บุกจับนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) วรนคร อำเภอปัว จังหวัดน่าน ในความผิดเรียกรับผลประโยชน์ โดยมีหลักฐานคาหนังคาเขา
ผลประโยชน์ที่เรียกรับ เป็นส่วนแบ่ง 10% ของเงินโบนัสพนักงาน อบต.ทั้งหมดจำนวนประมาณ 2 แสนบาท โดยได้ส่วนแบ่งทั้งสิ้นประมาณ 2 หมื่นบาท
การอนุมัติจ่ายโบนัสพนักงาน อบต.วรนคร อาจเป็นส่วนหนึ่งของการผลาญงบประมาณ เพื่อเป็นช่องทางแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัว โดยตั้งเงื่อนไขกับพนักงาน อบต.ไว้ ถ้าจ่ายโบนัสจะต้องทอนส่วนแบ่งคืนให้กลุ่มผู้อนุมัติคนละ 10% ซึ่งเป็นการหากินง่ายๆ ด้วยวิธีที่น่าทุเรศ
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพิ่งใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่งพักข้าราชการจำนวนทั้งสิ้น 49 คนที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งส่อพฤติกรรมการทุจริต โดยมีนายก อบต.จังหวัดมหาสารคาม ถูกสั่งพักงานแทบจะยกจังหวัด
การทุจริตในองค์กรปกครองท้องถิ่นร้ายแรงมาก เพราะโกงกันทุกรูปแบบ โกงกันทุกหย่อมหญ้า และกลายเป็นอีกองค์กรที่มีอิทธิพลในพื้นที่ ใช้อำนาจหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์จากการอนุมัติการทำธุรกรรมต่างๆ
ผลประโยชน์ที่แย่งชิงกัน นำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงในการเลือกตั้ง อบต.หรือขัดแย้งกันเอง จนฆ่ากันตายแทบยก อบต.ก็มีมาแล้ว
วัตถุประสงค์การจัดตั้ง อบต.เพื่อกระจายอำนาจ แต่ปัจจุบัน อบต.กลับมีสภาพไม่แตกต่างจากองค์กร “มาเฟีย” ในแต่ละพื้นที่ เป็นแหล่งเพาะเชื้อร้ายของการทุจริต และเป็นภาพสะท้อนความล้มเหลวในระบอบประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง
เพราะการเลือกตั้งองค์กรปกครองท้องถิ่น ไม่ว่า อบต.หรือ อบจ.มีการซื้อเสียงหนักกว่าการเลือกตั้ง ส.ส.เสียอีก จ่ายกันเสียงละหลายพันบาท โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ธุรกิจเจริญเติบโต
ภาพลักษณ์ของ อปท.ถูกมองว่าฟอนเฟะ ไม่เป็นที่ศรัทธาของประชาชน จนมีกระแสขับเคลื่อนให้เกิดการยกเครื่องครั้งใหญ่ เพราะกลายเป็นองค์กรที่สร้างปัญหาในแต่ละท้องถิ่น และถูกใช้เป็นฐานของนักการเมืองเลวๆ
คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) เมื่อเข้ามาควบคุมอำนาจการบริหารประเทศใหม่ๆ ทำให้ประชาชนเกิดความหวัง เพราะทำท่าจะยกเครื่องใหญ่องค์กรปกครองท้องถิ่น
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เคยออกมาเปิดโปงการผลาญงบประมาณของ อปท.โดยจัดทัวร์ไปต่างประเทศ นั่งเครื่องบินชั้นหนึ่ง พักโรงแรมหรู และตีแผ่พฤติกรรมการทุจริต จนสังคมคิดว่า
เมื่อ คสช.มีอำนาจ เมื่อม.ล.ปนัดดามีตำแหน่งในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ คงจะขับเคลื่อนการปฏิรูปองค์กรปกครองท้องถิ่นอย่างจริงจัง เพราะเคยเป็นข้าราชการที่รู้ปัญหาดี สัมผัสพฤติกรรม อปท.มายาวนาน
แต่หลังจาก อปท.ตอบโต้คำพูดของม.ล.ปนัดดา และขู่จะออกมาเคลื่อนไหวแสดงพลังต่อต้าน ม.ล.ปนัดดาก็เปลี่ยนท่าที กลับคำพูดเกี่ยวกับพฤติกรรมของ อปท.และแทบไม่เคยข้องแวะเรื่องการปฏิรูปองค์กรปกครองท้องถิ่นอีกเลย
คงไม่ต้องทวงถามวาระการปฏิรูปองค์กรปกครองท้องถิ่นอีกแล้ว เพราะไม่ว่าการปฏิรูปในด้านใด ไม่ว่าการปฏิรูปสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ได้ดำเนินการให้เป็นรูปธรรมสักเรื่อง
จึงไม่เหลือความคาดหวังใดในการผ่าตัดใหญ่ อปท.แล้ว
อปท.เป็นหนึ่งในอีกร้อยแปดปัญหาที่ประชาชนรู้สึกเสียดายโอกาสของประเทศ เพราะลงทุนปฏิวัติทั้งที มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอยู่ในมือ แต่ไม่รู้ว่าพล.อ.ประยุทธ์คิดอะไรอยู่ ทำไมไม่จัดการแก้ปัญหา ทำลายความหวังของประชาชนจนแทบไม่เหลือ
และอปท.ก็เป็นอีกร้อยแปดปัญหาที่จะถูกหมักหมม ถูกซุกไว้ใต้พรมต่อไป โดยไม่รู้ว่า ใครจะเข้ามาแก้ไขแล้ว
เพราะขนาดพล.อ.ประยุทธ์ที่มองกันทีแรกว่า กล้า เก่ง และขึงขังเอาจริง แต่อีกไม่กี่เดือน คสช.จะมีอายุครบ 2 ปีแล้ว ประเทศยังไม่ถูกปฏิรูปในด้านใด
สังคมไทยคงได้แต่รออัศวินม้าขาวตัวจริงต่อไป เพราะวันนี้อัศวินตัวจริงยังไม่เกิด มีแต่ตัวปลอมเท่านั้น
ผลประโยชน์ที่เรียกรับ เป็นส่วนแบ่ง 10% ของเงินโบนัสพนักงาน อบต.ทั้งหมดจำนวนประมาณ 2 แสนบาท โดยได้ส่วนแบ่งทั้งสิ้นประมาณ 2 หมื่นบาท
การอนุมัติจ่ายโบนัสพนักงาน อบต.วรนคร อาจเป็นส่วนหนึ่งของการผลาญงบประมาณ เพื่อเป็นช่องทางแสวงหาผลประโยชน์ใส่ตัว โดยตั้งเงื่อนไขกับพนักงาน อบต.ไว้ ถ้าจ่ายโบนัสจะต้องทอนส่วนแบ่งคืนให้กลุ่มผู้อนุมัติคนละ 10% ซึ่งเป็นการหากินง่ายๆ ด้วยวิธีที่น่าทุเรศ
ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพิ่งใช้อำนาจตามมาตรา 44 สั่งพักข้าราชการจำนวนทั้งสิ้น 49 คนที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งส่อพฤติกรรมการทุจริต โดยมีนายก อบต.จังหวัดมหาสารคาม ถูกสั่งพักงานแทบจะยกจังหวัด
การทุจริตในองค์กรปกครองท้องถิ่นร้ายแรงมาก เพราะโกงกันทุกรูปแบบ โกงกันทุกหย่อมหญ้า และกลายเป็นอีกองค์กรที่มีอิทธิพลในพื้นที่ ใช้อำนาจหน้าที่เรียกรับผลประโยชน์จากการอนุมัติการทำธุรกรรมต่างๆ
ผลประโยชน์ที่แย่งชิงกัน นำไปสู่ความขัดแย้งรุนแรงในการเลือกตั้ง อบต.หรือขัดแย้งกันเอง จนฆ่ากันตายแทบยก อบต.ก็มีมาแล้ว
วัตถุประสงค์การจัดตั้ง อบต.เพื่อกระจายอำนาจ แต่ปัจจุบัน อบต.กลับมีสภาพไม่แตกต่างจากองค์กร “มาเฟีย” ในแต่ละพื้นที่ เป็นแหล่งเพาะเชื้อร้ายของการทุจริต และเป็นภาพสะท้อนความล้มเหลวในระบอบประชาธิปไตยอย่างสิ้นเชิง
เพราะการเลือกตั้งองค์กรปกครองท้องถิ่น ไม่ว่า อบต.หรือ อบจ.มีการซื้อเสียงหนักกว่าการเลือกตั้ง ส.ส.เสียอีก จ่ายกันเสียงละหลายพันบาท โดยเฉพาะในพื้นที่ที่ธุรกิจเจริญเติบโต
ภาพลักษณ์ของ อปท.ถูกมองว่าฟอนเฟะ ไม่เป็นที่ศรัทธาของประชาชน จนมีกระแสขับเคลื่อนให้เกิดการยกเครื่องครั้งใหญ่ เพราะกลายเป็นองค์กรที่สร้างปัญหาในแต่ละท้องถิ่น และถูกใช้เป็นฐานของนักการเมืองเลวๆ
คณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) เมื่อเข้ามาควบคุมอำนาจการบริหารประเทศใหม่ๆ ทำให้ประชาชนเกิดความหวัง เพราะทำท่าจะยกเครื่องใหญ่องค์กรปกครองท้องถิ่น
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เคยออกมาเปิดโปงการผลาญงบประมาณของ อปท.โดยจัดทัวร์ไปต่างประเทศ นั่งเครื่องบินชั้นหนึ่ง พักโรงแรมหรู และตีแผ่พฤติกรรมการทุจริต จนสังคมคิดว่า
เมื่อ คสช.มีอำนาจ เมื่อม.ล.ปนัดดามีตำแหน่งในรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ คงจะขับเคลื่อนการปฏิรูปองค์กรปกครองท้องถิ่นอย่างจริงจัง เพราะเคยเป็นข้าราชการที่รู้ปัญหาดี สัมผัสพฤติกรรม อปท.มายาวนาน
แต่หลังจาก อปท.ตอบโต้คำพูดของม.ล.ปนัดดา และขู่จะออกมาเคลื่อนไหวแสดงพลังต่อต้าน ม.ล.ปนัดดาก็เปลี่ยนท่าที กลับคำพูดเกี่ยวกับพฤติกรรมของ อปท.และแทบไม่เคยข้องแวะเรื่องการปฏิรูปองค์กรปกครองท้องถิ่นอีกเลย
คงไม่ต้องทวงถามวาระการปฏิรูปองค์กรปกครองท้องถิ่นอีกแล้ว เพราะไม่ว่าการปฏิรูปในด้านใด ไม่ว่าการปฏิรูปสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ยังไม่ได้ดำเนินการให้เป็นรูปธรรมสักเรื่อง
จึงไม่เหลือความคาดหวังใดในการผ่าตัดใหญ่ อปท.แล้ว
อปท.เป็นหนึ่งในอีกร้อยแปดปัญหาที่ประชาชนรู้สึกเสียดายโอกาสของประเทศ เพราะลงทุนปฏิวัติทั้งที มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาดอยู่ในมือ แต่ไม่รู้ว่าพล.อ.ประยุทธ์คิดอะไรอยู่ ทำไมไม่จัดการแก้ปัญหา ทำลายความหวังของประชาชนจนแทบไม่เหลือ
และอปท.ก็เป็นอีกร้อยแปดปัญหาที่จะถูกหมักหมม ถูกซุกไว้ใต้พรมต่อไป โดยไม่รู้ว่า ใครจะเข้ามาแก้ไขแล้ว
เพราะขนาดพล.อ.ประยุทธ์ที่มองกันทีแรกว่า กล้า เก่ง และขึงขังเอาจริง แต่อีกไม่กี่เดือน คสช.จะมีอายุครบ 2 ปีแล้ว ประเทศยังไม่ถูกปฏิรูปในด้านใด
สังคมไทยคงได้แต่รออัศวินม้าขาวตัวจริงต่อไป เพราะวันนี้อัศวินตัวจริงยังไม่เกิด มีแต่ตัวปลอมเท่านั้น