นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) แถลงถึงความคืบหน้าในการประชุมกรธ.ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาแนวทางปฏิรูประบบราชการ โดยเชิญผู้บริหารของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จากสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) และคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรม (ก.พ.ค.) เข้าร่วมรับฟังความคิดเห็น เพื่อหาแนวทางป้องกันการทุจริตในระบบราชการ โดยควรกำหนดหลักการสำคัญไว้ในรัฐธรรมนูญ ส่วนรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการดำเนินการ ควรนำไปบัญญัติไว้ในกฎหมายลำดับรอง นอกจากนี้ ได้พิจารณาแนวทางการจัดทำโครงการประชานิยม ให้เป็นไปตามหลักวินัยทางการเงิน การคลัง และการงบประมาณ ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณา
ทั้งนี้ กรธ.ได้กำหนดการโครงการสัมมนาเรื่อง“การเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจ และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อร่างรัฐธรรมนูญ (ฉบับรับฟังความคิดเห็น)”รวม 4 เวที 4 ภาค ระหว่างเดือน ม.ค.-ก.พ. 59 ดังนี้ 1. วันที่ 29 –31 ม.ค. ที่โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ เชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ 2. วันที่ 5 –7ก.พ. ที่โรงแรมโฆษะ ขอนแก่น จ.ขอนแก่น 3. วันที่ 9 –11 ก.พ. ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ และ 4. วันที่ 12 –14 ก.พ. ที่โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า (สุราษฎร์ธานี) จ.สุราษฎร์ธานี
ในส่วนของการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญโดยรวมนั้น ทาง กรธ.จะพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญคร่าวๆ ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 8 ม.ค. ก่อนที่จะไปพิจารณาส่วนที่เหลือต่อ ในวันที่ 11 –17 ม.ค. ที่โรงแรมเลควิว รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟคลับ ชะอำ จ.เพชรบุรี
ทั้งนี้ ในส่วนของบทเฉพาะกาล ซึ่งจะพิจารณาในเรื่องของที่มา ส.ว.และ ส.ส. นั้น กรธ. ยังยืนยันตามหลักการในการเลือกตั้งครั้งแรก โดย ส.ว. ก็จะเป็นการเลือกตั้งทางอ้อมโดยประชาชน ขณะที่ส.ส.ก็จะเลือกตั้งโดยใช้การกาบัตรใบเดียวได้ถึง 3 อย่าง ทั้ง ส.ส.เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายกรัฐมนตรี ส่วนในอนาคตหากคสช. จะมีการร้องขออะไรมาเป็นพิเศษหรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องของอนาคต แต่ขณะนี้ยังไม่มี
นอกจากนี้ การทำหน้าที่ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูประเทศ (สปท.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ กรธ.นั้น มีเพียง กรธ.เท่านั้นที่ไม่สามารถไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อได้ ขณะที่สนช.และ สปท. หากมีการลงสมัครเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในส่วนตัวก็เชื่อว่าไม่มีอะไรมาปิดกั้น
ทั้งนี้ กรธ.ได้กำหนดการโครงการสัมมนาเรื่อง“การเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจ และรับฟังความคิดเห็นของประชาชนต่อร่างรัฐธรรมนูญ (ฉบับรับฟังความคิดเห็น)”รวม 4 เวที 4 ภาค ระหว่างเดือน ม.ค.-ก.พ. 59 ดังนี้ 1. วันที่ 29 –31 ม.ค. ที่โรงแรมฮอลิเดย์อินน์ เชียงใหม่ จ.เชียงใหม่ 2. วันที่ 5 –7ก.พ. ที่โรงแรมโฆษะ ขอนแก่น จ.ขอนแก่น 3. วันที่ 9 –11 ก.พ. ที่โรงแรมเซ็นทราศูนย์ราชการและคอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ แจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ และ 4. วันที่ 12 –14 ก.พ. ที่โรงแรมไดมอนด์พลาซ่า (สุราษฎร์ธานี) จ.สุราษฎร์ธานี
ในส่วนของการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญโดยรวมนั้น ทาง กรธ.จะพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญคร่าวๆ ให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 8 ม.ค. ก่อนที่จะไปพิจารณาส่วนที่เหลือต่อ ในวันที่ 11 –17 ม.ค. ที่โรงแรมเลควิว รีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟคลับ ชะอำ จ.เพชรบุรี
ทั้งนี้ ในส่วนของบทเฉพาะกาล ซึ่งจะพิจารณาในเรื่องของที่มา ส.ว.และ ส.ส. นั้น กรธ. ยังยืนยันตามหลักการในการเลือกตั้งครั้งแรก โดย ส.ว. ก็จะเป็นการเลือกตั้งทางอ้อมโดยประชาชน ขณะที่ส.ส.ก็จะเลือกตั้งโดยใช้การกาบัตรใบเดียวได้ถึง 3 อย่าง ทั้ง ส.ส.เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และนายกรัฐมนตรี ส่วนในอนาคตหากคสช. จะมีการร้องขออะไรมาเป็นพิเศษหรือไม่นั้น ก็เป็นเรื่องของอนาคต แต่ขณะนี้ยังไม่มี
นอกจากนี้ การทำหน้าที่ของสภาขับเคลื่อนการปฏิรูประเทศ (สปท.) สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และ กรธ.นั้น มีเพียง กรธ.เท่านั้นที่ไม่สามารถไปดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อได้ ขณะที่สนช.และ สปท. หากมีการลงสมัครเพื่อดำรงตำแหน่งทางการเมือง ในส่วนตัวก็เชื่อว่าไม่มีอะไรมาปิดกั้น