ผู้จัดการรายวัน360-กลาโหมแถลงผลสอบสร้างราชภักดิ์ ตั้งข้อสังเกตเสนอ "บิ๊กป้อม" 16 หน้า ยันไม่มีอำนาจสอบทุจริต ทำได้แค่ตรวจสอบการใช้เงิน พบเป็นไปตามระเบียบ ส่วนเรื่องหักหัวคิว แนะส่งหน่วยงานอื่นสอบต่อ ปัดชี้ "อุดมเดช" ถูกผิด เหตุไม่มีอำนาจสอบบุคคล ด้าน "ป๋าเปรม" เปิดบ้านให้ "บิ๊กตู่" นำครม. เหล่าทัพ ตำรวจ เข้าอวยพรปีใหม่ ย้ำนำความรัก สามัคคี บริหารประเทศ แซวนายกฯ อย่าอารมณ์บ่จอยบ่อย กระซิบ "บิ๊กโด่ง" เป็นคนดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 13.30 น. วานนี้ (30 ธ.ค.) ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รองปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีการดำเนินการโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ พร้อมด้วยพล.ต.พนมเทพ เวสารัชชนันท์ ผู้ช่วยเจ้ากรมพระธรรมนูญ พล.ต.กิตติศักดิ์ บุญสุข ผู้ชำนาญการ สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ในฐานะคณะกรรมการฯ ร่วมแถลงข่าว โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และนายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ฝ่ายกฎหมาย พรรคเพื่อไทย เข้าร่วมรับฟัง แต่ไม่อนุญาตให้สื่อนำอุปกรณ์ถ่ายทอดสดเข้าไปในห้องแถลงข่าว
พล.อ.ชัยชาญกล่าวว่า การตรวจสอบได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว มีคณะกรรมการตรวจสอบ 8 คน แต่ไม่มีอำนาจทางกฎหมายไปแสวงหาข้อเท็จจริง เป็นเพียงการแสวงหาข้อเท็จจริงจากบุคคลและเอกสารที่อยู่ในความครอบครองของกระทรวงกลาโหม โดยได้มีการสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องไป 23 คน และมีการตรวจเอกสารหลักฐานอีกจำนวนมาก โดยเฉพาะเอกสารรายรับรายจ่าย งบประมาณการก่อสร้าง และได้มีการตั้งข้อสังเกตไว้ในรายงานสอบข้อเท็จจริงจำนวน 16 หน้าเสนอให้กับรมว.กลาโหม ส่วนการดำเนินการต่อไป เป็นหน้าที่ของหน่วยงานที่มีอำนาจตามกฎหมายที่จะต้องดำเนินการต่อ
ทั้งนี้ ในการตรวจสอบ พบว่า งบประมาณในการก่อสร้าง มาจากรายรับจากงบกลาง 63 ล้านบาท ใช้ในการก่อสร้างรอบๆ พระบรมรูป เช่น ติดตั้งหินอ่อน งานปูพื้น ป้ายอุทยาน การรักษาความปลอดภัย และการก่อสร้างรั้ว ซึ่งอยู่ระหว่างการจัดหา และงบบริจาคจากภาครัฐ เอกชน และการจัดกิจการไบค์แอนด์คอนเสริต์แทนคุณแผ่นดิน เข้ากองทุนสวัสดิการราชภักดิ์ เป็นเงิน 732 ล้านบาท และมีสิ่งขอที่ได้รับบริจาคตีเป็นเงินได้อีก 69 ล้านบาท รวมเป็นเงินบริจาคทั้งหมด 802 ล้านบาท
ส่วนรายจ่าย ใช้เงินในการก่อสร้างตามโครงการ 27 งาน จำนวน 752 ล้านบาท เช่น การหล่อพระบรมราชานุสาวรีย์พร้อมพานพุ่มคู่ อาคารรับพระบรมราชานุสาวรีย์ งานปูหญ้าและระบบระบายน้ำ การจัดสวนภูมิทัศน์ การปรับพื้นที่อุทยาน งานลานคอนกรีตส่วนเชื่อมต่อหน้าแท่นฐาน งานถนนทางเข้า งานปรับพื้นที่รั้ว งานระบบไฟฟ้าและแสงสว่าง
อย่างไรก็ตาม ยอดรายรับจนถึงวันที่ 30 พ.ย.2558 มีจำนวนรวม 866 ล้านบาทเศษ และมียอดรายจ่ายที่ใช้ดำเนินการไปแล้วและอยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผน จำนวน 816 ล้านบาทเศษ
นอกจากนี้ ยังมีงบประมาณก่อสร้างและปรับพื้นที่ รร.นายสิบทหารบก จำนวน 149 ล้านบาทเศษ ซึ่งเป็นการดำเนินการตามแผนงานของ ทบ. ใน ปี 2558 เพื่อใช้ปรับปรุงสาธารณูปโภคและการปรับปรุงพื้นที่ รร.นายสิบทหารบก ใช้ในการก่อสร้างจำนวน 11 งาน งานปรับปรุงรั้ว ส่วนที่ 1 และ 2 จำนวน 28 ล้านบาทเศษ ระบบประปา 11 ล้านบาทเศษ และยังมีงบบริจาคที่เข้าไปในมูลนิธิอุทยานราชภักดิ์ จำนวน 106 ล้านบาทเศษ ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการใช้จ่ายงบประมาณตรงนี้
"คณะกรรมการตรวจสอบฯ เห็นว่า การใช้จ่ายงบกลาง และงบประมาณของกองทัพบก ในการก่อสร้างและปรับปรุงพื้นที่ รร.นายสิบทหารบก หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535 และระเบียบคำสั่งของกองทัพบกที่เกี่ยวข้อง ส่วนงบบริจาค ในบัญชีชื่อกองทุนสวัสดิการอุทยานราชภักดิ์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ปฏิบัติตามระเบียบคณะกรรมการสวัสดิการกองทัพบกว่าด้วยอุทยานราชภักดิ์ พศ. 2558 และระเบียบการบริหารอุทยานราชภักดิ์ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง พศ.2558 และจากการพิจารณาตรวจสอบพิจารณาได้ว่า การใช้จ่ายงบประมาณ เป็นการดำเนินการตามระเบียบที่ได้กล่าวเอาไว้"พล.อ.ชัยชาญกล่าว
พล.อ.ชัยชาญกล่าวว่า ในประเด็นที่สังคมจับตาเป็นพิเศษ โดยเฉพาะการตั้งข้อสังเกตเรื่องโรงหล่อพระบรมรูป ทั้ง 7 พระองค์และการหักหัวคิวนั้น การตรวจสอบมีอุปสรรค ไม่สามารถติดตามบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกหลายคนมาสอบปากคำได้ เนื่องจากหนีไปต่างประเทศ โดยหนีไปด้วยคดีอื่น ไม่เกี่ยวกับคดีนี้ และประเด็นนี้อยู่นอกเหนืออำนาจของคณะกรรมการตรวจสอบฯ แต่ก็ได้ให้ข้อสังเกตว่าให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
ส่วนประเด็นอื่นๆ เช่น ราชภักดิ์ไบค์แอนคอนเสิร์ตแทนคุณแผ่นดิน กับกิจกรรมปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน ที่มีข่าวว่าใช้ต้นปาล์ม 72 ต้น ต้นละ 3 แสนบาท ในข้อเท็จจริงสอบแล้วไม่ใช่การซื้อต้นไม้มาปลูกในอุทยานราชภักดิ์ แต่เป็นลักษณะมีคนมาบริจาคต้นไม้ให้ จากนั้นถ้าใครหรือภาคเอกชนมาบริจาคก็จะมีชื่อติดตามต้นไม้ ซึ่งคณะกรรมการฯ เห็นว่ากิจกรรมดังกล่าวได้ดำเนินการตามแผนงาน มีการเปิดเผยบัญชีรายรับรายจ่ายชัดเจน ส่วนนี้ไม่มีข้อสังเกตใดๆ
เมื่อถามว่า สังคมยังสงสัยและพุ่งเป้าไปที่ตัวของ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม แต่การพิจารณาไม่ได้นำตัวบุคคลเข้ามาพิจารณา และพิจารณาในเรื่องงบประมาณเท่านั้น ดังนั้น พล.อ.อุดมเดช บริสุทธิ์ 100 เปอร์เซ็นต์ พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า เราไม่สามารถชี้ได้ว่าตรงไหนผิดถูก เพียงแต่ดูประเด็นอะไรที่ตั้งข้อสังเกตให้หน่วยงานที่่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
เมื่อถามว่า พล.อ.อุดมเดช ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แม้ว่าสังคมจะตั้งข้อสงสัย พล.อ.ชัยชาญกล่าวว่า ในประเด็นเรื่องนี้ ตัวบุคคล โดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับเรื่องการหล่อพระบรมรูปฯ ก็ได้มีข้อสังเกต แต่ไม่ได้วินิจฉัยได้ว่าอันไหนถูกผิด เพราะมีอำนาจขอบเขตในการสอบข้อมูลในส่วนของกลาโหม ดังนั้น ประเด็นที่สอบไม่สามารถชี้ถูกผิดได้อย่างไร เพียงให้ข้อสังเกตก็ให้อยู่ในอำนาจของหน่วยงานที่มีอำนาจทางกฎหมายดำเนินการ
เมื่อถามว่า พล.อ.อุดมเดช ไม่ต้องลาออกเพื่อแสดงสปิริต พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า ไม่สามารถตอบได้
ด้านนายเรืองไกร ให้สัมภาษณ์หลังฟังการแถลงว่า รู้สึกพอใจการชี้แจงข้อมูล ทั้งการใช้งบกลาง งบบริจาค และงบมูลนิธิ ซึ่งชัดเจนกว่าที่ผ่านมามาก ทำให้สังคมหายสงสัยระดับหนึ่ง เพราะตนเข้าใจดีว่าการสอบของคณะกรรมการฯ ชุดนี้ ไม่สามารถชี้มูลความผิดเหมือน ป.ป.ช. หรือ สตง. เพราะเป็นเพียงการแสวงหาข้อเท็จจริง
วันเดียวกันนี้ เวลา 07.00 น. ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัดภาคตะวันออก ภายในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กรักษาพระองค์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ได้เปิดมูลนิธิฯ ให้คณะนายทหารชั้นผู้ใหญ่ทุกเหล่าทัพ ข้าราชการระดับสูง พ่อค้า นักธุรกิจเอกชน ร่วมอวยพรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2559 มีพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.สมหมาย เกาฎีระ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้งผู้บัญชาการทหารอากาศ และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตลอดจนผู้บังคับบัญชาระดับสูงทุกเหล่าทัพ เข้าร่วมอวยพรกันอย่างพร้อมเพรียง โดยพล.อ.อุดมเดช ได้นำคณะกล่าวอวยพร
จากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวอวยพรตอบ สรุปความว่า ปีใหม่นี้เป็นความหวังของคณะรัฐมนตรีและรัฐบาล โดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ที่พวกเราจะต้องร่วมกันทำงานให้ประสบความสำเร็จ ให้ประเทศเดินหน้าต่อไปได้
ถัดมาเวลา 07.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมด้วยรัฐมนตรี ประกอบด้วย พ.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย, พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ, พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รมว.แรงงาน และ พล.อ.สุรศักดิ์ กาญจนรัตน์ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เข้าอวยพรปีใหม่ พล.อ.ประวิตร ด้วยเช่นกัน
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวภายหลังว่า ได้อวยพรให้พล.อ.ประวิตร มีสุขภาพแข็งแรง มีกำลังใจทำงาน อย่าท้อแท้ต่อคำต่อว่าของคนที่ไม่เข้าใจ เพราะทำดีสุดแล้ว อย่าไปเสียอารมณ์กับเรื่องนี้มากนัก ไม่เกิดประโยชน์ พร้อมกับฝากว่าประเทศชาติอยู่ในกำมือทุกคน ต้องทำให้บ้านเมืองมีเสถียรภาพให้ได้
ต่อมาเวลา 09.00 น. พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและรัฐบุรุษ ได้เปิดบ้านสี่เสาร์เทเวศร์ ให้พล.อ.ประยุทธ์ คณะรัฐมนตรี ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจ ตลอดจนข้าราชการทหารและตำรวจ เข้าขอรับพรและอวยพรเนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่
พล.อ.เปรม ได้กล่าวขอขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่พา ครม. ทหาร 3เหล่าทัพ และตำรวจมาพบว่า ตนภูมิใจที่ได้พบกับพวกเรา ปีหนึ่งจะพบกันไม่กี่ครั้ง ขอขอบคุณนายกฯ ที่ไม่ลืมกัน ยังมีความเป็นเพื่อน เป็นมิตร เป็นพี่น้อง และยังได้ย้ำถึงสิ่งที่นายกฯ เคยพูดถึง คือ เรื่องความรัก ความสามัคคี ซึ่งตรงกับกระแสรับสั่งของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อ 7-8 ปีที่แล้ว ที่พระองค์ทรงรับสั่งเรื่องความรู้รักสามัคคี ซึ่งตนคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญมาก ถ้าเราไม่เข้าใจและไม่นำไปใช้ ก็จะเป็นที่น่าเสียดาย พร้อมแสดงความเข้าใจว่าคงเหนื่อยกันมาก แต่ถ้าเหนื่อยแล้วคนไทยมีสุข ไม่มีความทุกข์ เป็นเรื่องที่ดี และดีใจที่นานยกฯ และพวกเราสละความสุขส่วนตัว เพื่อพี่น้องประชาชน ก่อนพูดแซวนายกฯ เรื่องอารมณ์ เช้าๆ ดี พอสายๆ อารมณ์เริ่มขุ่นมัว แต่เชื่อว่านายกฯ เข้มแข็ง เป็นคนสู้ไม่ถอย ถือเป็นตัวอย่างที่ดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากนั้น พล.อ.เปรม ได้เข้ามาทักทาย ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ โดยมี พล.อ.ประยุทธ์ เดินแนะนำ พร้อมทั้งอธิบายถึงภาระหน้าที่ ก่อนที่ พล.อ.เปรม เดินเข้ามาทักทาย พล.อ.อุดมเดช พร้อมพูดว่า "เชื่อว่าความดีจะทำให้โด่งประสบผลดี เราเชื่อว่าโด่งไม่ใช่คนแบบนั้น เชื่อว่าโด่งเป็นคนดี"
จากนั้น พล.อ.อุดมเดช ได้กล่าวว่า พล.อ.เปรม บอกกับตนว่า เชื่อในตนเองว่าไม่ได้ผิด ซึ่งตนก็เข้าใจว่าการกล่าวหานั้น ไม่ได้กล่าวหาตน แต่เป็นเรื่องของโครงการ ในฐานะที่เป็นประธาน ก็ต้องไปให้ข้อมูลในเรื่องการตรวจสอบ ถือเป็นเรื่องปกติ
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เวลา 10.30 น. พล.อ.เปรม ได้เปิดโอกาสให้ พล.อ.ปราการ ชมยุทธ์ รองเสนาธิการทหาร นำเหล่าทหารม้าเข้าอวยพร เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ โดย พล.อ.เปรม ได้เน้นย้ำให้ทหารม้าทำงานด้วยความหนักแน่น รวดเร็ว เด็ดขาด มีความสามัคคี และไม่อยากให้มีคำว่า ทหารแตงโม ตำรวจมะเขือเทศ อีกต่อไป