xs
xsm
sm
md
lg

“สมชาย วงศ์สวัสดิ์” ใกล้ปิดฉาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา

คดีสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม 2551 บริเวณหน้ารัฐสภา จนกลายเป็นเหตุการณ์นองเลือดครั้งรุนแรง มีความคืบหน้าตามลำดับ และภายในปีหน้า คงจะมีการตัดสินความผิดผู้ที่รับผิดชอบในคำสั่งสังหารประชาชน

คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เป็นโจทย์ยื่นฟ้องนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี พร้อมกับพวกรวม4คน ในความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการหรือความผิดในการสลายการชุมนุม

จำเลยร่วมอีก 3คนประกอบด้วย พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตรองนายกรัฐมนตรี พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ อดีต ผบ.ตร.และพล.ต.ท.สุชาติ เหมือนแก้ว อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล

เช้าวันที่ 16 ธันวาคมที่ผ่านมา ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดพร้อมทนายโจทย์ จำเลยและทนายจำเลย โดยตกลงให้โจทย์และจำเลย นำพยานเข้าไต่สวนรวม115 ปาก

และศาลจะไต่สวนพยานทั้งหมดให้เสร็จภายใน 20 นัด เริ่มนัดไต่สวนตั้งแต่เดือนเมษายนปี 2559 ถ้าไม่มีการขอเลื่อนนัด คาดว่าจะใช้เวลาไต่สวนไม่เกิน 40 สัปดาห์

ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ประมาณกลางปี 2560 คดี 7 ตุลาทมิฬน่าจะมีคำตัดสินผู้ที่รับผิดชอบในการสั่งสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯบริเวณหน้ารัฐสภา ทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องเสียชีวิตร่วม 10 ชีวิต พิการอีกนับสิบและบาดเจ็บร่วมพันคน

คดี 7 ตุลาทมิฬอยู่ในความสนใจของประชาชน เพราะการสลายการชุมนุมไม่ได้เป็นไปตามขั้นตอน แต่เป็นความจงใจใช้ความรุนแรง เจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งใช้อาวุธร้ายแรง ยิงใส่ผู้ชุมนุมที่ไม่มีอาวุธ และแม้จะมีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก แต่ตำรวจก็ยังปฏิบัติการด้วยความรุนแรงตลอดทั้งวัน

ถ้าสอบสวนกันอย่างจริงจัง ยังมีคนที่ต้องรับผิดชอบการเข่นฆ่าประชาชนในเหตุการณ์ 7 ตุลาทมิฬอีกมากมาย โดยเฉพาะตำรวจที่ตั้งใจใช้ความรุนแรงสลายการชุมนุมโดยตรง

แต่สำหรับประเทศไทย ได้ผู้รับผิดชอบที่รอคำพิพากษามาเพียงเท่านี้ก็คงพอใจได้ระดับหนึ่งแล้ว เพราะคดี 7 ตุลาทมิฬถูกเป่าไปแล้ว โดยอัยการสั่งไม่ฟ้อง จนป.ป.ช.ต้องยื่นฟ้องเอง

พล.ต.อ.พัชรวาท ซึ่งถูกสั่งปลดออกจากราชการ ในความผิดสลายการชุมนุม แต่ยื่นคำร้องศาลปกครอง จนศาลปกครองมีคำสั่งให้คืนตำแหน่ง ผบ.ตร.

ยังไม่มีใครที่ได้รับโทษ ยังไม่มีใครต้องชดใช้เวรกรรม จากคำสั่งอำมหิต สลายการชุมนุม 7 ตุลาทมิฬ จนดูเหมือนว่า ประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อของอำนาจรัฐ จะตายฟรี

แต่ความคืบหน้าล่าสุดของคดีจากศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ทำให้ประชาชนที่ได้รับเคราะห์กรรมจากรัฐบาลนายสมชายสบายใจขึ้น เพราะคดีกำลังเคลื่อนไปตามกระบวกการ และไม่นานเกินรอ จะมีคำพิพากษาออกมา

ความสูญเสียจากเหตุการณ์นองเลือด7ตุลาฯไม่อาจเรียกคืนได้ แต่สามารถที่จะเยียวยาจิตใจของกลุ่มผู้สูญเสียได้ โดยนำตัวผู้ที่รับผิดชอบในคำสั่งเข่นฆ่าประชาชนมาลงโทษอย่างสาสม

และคนรับผิดชอบที่ถูกส่งขึ้นเขียง รอคำตัดสินลงโทษก็มีอยู่แล้ว 4 คน ประกอบด้วย นายสมชาย พล.อ.ชวลิต พล.ต.อ.พัชรวาท และพล.ต.ท.สุชาติ

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะมีคำพิพากษาอย่างไร ภายในปี 2560 คงได้รู้กัน แต่ที่สำคัญ จำเลยคดี 7 ตุลาทมิฬทั้ง 4 คน จะต้องอยู่ฟังคำพิพากษา ใครจะหนีตายก่อนไม่ว่า แต่จะปล่อยให้หนีออกนอกประเทศเหมือนนายทักษิณ ชินวัตรไม่ได้

คดีงวดเข้ามาแล้ว ใครจะขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ ต้องพิจารณาเป็นพิเศษ ไม่มีเหตุผลอันควร ต้องไม่อนุญาต เช่นเดียวกับการที่ศาลฎีกาฯไม่อนุญาตให้นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ขอเดินทางตามลูกชายไปทัศนะศึกษาที่ประเทศญี่ปุ่น

คดี 7 ตุลาทมิฬ ไม่แตกต่างจากคดีโกงข้าว โดยเมื่อเข้าสู่กระบวนการของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองแล้วสบายใจได้ เพราะไม่นานเกินไปจะมีคำตัดสิน

ถ้าผิดติดคุกสถานเดียว จำเลยที่รู้ดีว่าตัวเองผิด จึงไม่อยู่รอฟังคำตัดสิน เผ่นหนีออกนอกประเทศก่อน โดยการเผ่นหนีของนายทักษิณ จึงส่งผลต่อน้องสาว โดยไม่สามารถขอเดินทางออกนอกประเทศได้ง่ายๆ เพราะกลัวจะหนีตามพี่ชายไป

เครือข่ายตระกูลชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี3 คน ไล่ตั้งแต่นายทักษิณ นายสมชายและนางสาวยิ่งลักษณ์ แต่วาระสุดท้ายต้องมาลงเอยที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองทั้ง 3 คน และดูแล้วไม่น่าจะมีใครรอดจากการชดใช้กรรม

คดีเข่นฆ่าประชาชนในเหตุการณ์ 7 ตุลาทมิฬ พยายามหมกคดีกันให้ได้ จนคิดว่า “สมชาย วงศ์สวัสดิ์” จะรอดได้ แต่มาถึงวันนี้ไม่มีใครคิดว่าจะรอดแล้ว


กำลังโหลดความคิดเห็น