วานนี้ (16 ธ.ค.) ที่กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ (พล.ม.2 รอ.) พล.ต.เฉลิมพล ศรีสวัสดิ์ ผบ.พล.ม.2 รอ. เป็นประธานการประชุมติดตามความคืบหน้าการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ หลังจากที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)โดยกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย (กกล.รส.) มอบหมายให้ พล.ม.2รอ. เป็นหน่วยรับผิดชอบหลักในการดำเนินการจัดระเบียบรถตู้โดยสารสาธารณะ ซึ่งปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนของการบังคับใช้กฎหมาย แต่ยังคงมีปัญหาข้อขัดข้องในการดำเนินการหลายประการ เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาที่ยั่งยืน และเป็นการติดตามประเมินผลการดำเนินงานที่ผ่านมา โดยมีผู้แทนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล กรุงเทพมหานคร กรมการขนส่งทางบก บริษัทขนส่ง จำกัด (บขส.) องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และเจ้าหน้าที่ทหารเข้าร่วมประชุมอย่างพร้อมเพรียง
พล.ต.เฉลิมพล กล่าวว่า ในการประชุมนอกจากทำความเข้าใจในแผนงานการดำเนินการที่ผ่านมาแล้ว ก็ได้กำชับการดูแลให้มีระเบียบและเรื่องการเตรียมการเพื่อรองรับวันหยุดยาวช่วงเทศกาล เพื่อให้การบริการประชาชนมีความสะดวกและปลอดภัย ที่ผ่านมา คสช. มีนโยบายหลักในการจัดระเบียบ 4 ข้อ ได้แก่ เรื่องความปลอดภัย การจอดไม่ขวางทางจราจร ผู้มีอิทธิพล และเรื่องราคาโดยสารที่เป็นธรรม
ก่อนหน้านั้น มีรถตู้โดยสารป้ายดำที่ผิดกฎหมายวิ่งให้บริการประชาชนหลายคันจนเคยชิน จากนั้นทางคณะทำงานได้ทำการสำรวจพบว่า มีรถตู้โดยสารสาธารณะป้ายดำ จำนวน 6,078 คัน จึงได้มีการตรวจสภาพรถ หากอายุรถเกิน 10 ปี จะนำมาให้บริการประชาชนไม่ได้ โดยได้รับความร่วมมือหยุดวิ่งให้บริการไปกว่า 3,000 คัน ส่วนที่เหลือได้รับความเยียวยา กลับมาวิ่งให้บริการได้ 3,075 คัน แบ่งเป็น รถตู้ของ บขส.1,812 คัน และ รถตู้ขสมก. 1,263 คัน แต่ถ้าอายุการใช้งานของรถเกิน 10 ปี ก็ต้องหาอาชีพใหม่ทำได้เลย
ทั้งนี้ สิ่งที่ยังเป็นปัญหาคือ ผู้ประกอบการควรเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในลักษณะเป็นนิติบุคคล เพราะเจ้าของรถตู้รายคันจากที่พบ จะรับผู้โดยสารเกิน และไม่ยอมออกรถถ้าคนน้อย ขับเร็วเพราะต้องทำรอบ โดยเจ้าหน้าที่พยายามทำความเข้าใจ เนื่องจากเจ้าของรถควรดำเนินการเป็นแบบบริษัทให้มีมาตรฐาน อีกทั้งสถานที่การขนส่งโดยสารทั้งต้นทางและปลายทาง ต้องอยู่ในสถานีขนส่ง เช่น หมอชิต เอกมัย และสายใต้ แต่ยังไม่เพียงพอ ในแผนงานรถตู้โดยสารสาธารณะ ที่อยู่รอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ต้องกลับไปอยู่ในสถานีขนส่งให้หมด
สำหรับการปราบปรามผู้มีอิทธิพลนั้นได้ใช้การเลือกตั้งคณะกรรมการเส้นทาง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานกรรมการขนส่งจังหวัด เป็นประธานดูแลเรื่องสถานที่ กำหนดจุดจอดรถที่แน่ชัด
ด้านนายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร ผอ.สำนักการขนส่งผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า การดำเนินการจัดระเบียบรถตู้โดยสารได้ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว ในส่วนของรถตู้โดยสารสาธารณะที่เข้าสู่ระบบและจดทะเบียนเป็นป้ายเหลือง อีกทั้งขณะนี้อยู่ระหว่างการบังคับใช้กฎหมายเพื่อจัดระเบียบอย่างยั่งยืน ที่ผ่านมาการดำเนินการเรียบร้อยดี แต่ยังมีบางส่วนค้างระบบและไม่ได้รับการผ่อนผันให้เดินรถ
พล.ต.เฉลิมพล กล่าวว่า ในการประชุมนอกจากทำความเข้าใจในแผนงานการดำเนินการที่ผ่านมาแล้ว ก็ได้กำชับการดูแลให้มีระเบียบและเรื่องการเตรียมการเพื่อรองรับวันหยุดยาวช่วงเทศกาล เพื่อให้การบริการประชาชนมีความสะดวกและปลอดภัย ที่ผ่านมา คสช. มีนโยบายหลักในการจัดระเบียบ 4 ข้อ ได้แก่ เรื่องความปลอดภัย การจอดไม่ขวางทางจราจร ผู้มีอิทธิพล และเรื่องราคาโดยสารที่เป็นธรรม
ก่อนหน้านั้น มีรถตู้โดยสารป้ายดำที่ผิดกฎหมายวิ่งให้บริการประชาชนหลายคันจนเคยชิน จากนั้นทางคณะทำงานได้ทำการสำรวจพบว่า มีรถตู้โดยสารสาธารณะป้ายดำ จำนวน 6,078 คัน จึงได้มีการตรวจสภาพรถ หากอายุรถเกิน 10 ปี จะนำมาให้บริการประชาชนไม่ได้ โดยได้รับความร่วมมือหยุดวิ่งให้บริการไปกว่า 3,000 คัน ส่วนที่เหลือได้รับความเยียวยา กลับมาวิ่งให้บริการได้ 3,075 คัน แบ่งเป็น รถตู้ของ บขส.1,812 คัน และ รถตู้ขสมก. 1,263 คัน แต่ถ้าอายุการใช้งานของรถเกิน 10 ปี ก็ต้องหาอาชีพใหม่ทำได้เลย
ทั้งนี้ สิ่งที่ยังเป็นปัญหาคือ ผู้ประกอบการควรเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ในลักษณะเป็นนิติบุคคล เพราะเจ้าของรถตู้รายคันจากที่พบ จะรับผู้โดยสารเกิน และไม่ยอมออกรถถ้าคนน้อย ขับเร็วเพราะต้องทำรอบ โดยเจ้าหน้าที่พยายามทำความเข้าใจ เนื่องจากเจ้าของรถควรดำเนินการเป็นแบบบริษัทให้มีมาตรฐาน อีกทั้งสถานที่การขนส่งโดยสารทั้งต้นทางและปลายทาง ต้องอยู่ในสถานีขนส่ง เช่น หมอชิต เอกมัย และสายใต้ แต่ยังไม่เพียงพอ ในแผนงานรถตู้โดยสารสาธารณะ ที่อยู่รอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ต้องกลับไปอยู่ในสถานีขนส่งให้หมด
สำหรับการปราบปรามผู้มีอิทธิพลนั้นได้ใช้การเลือกตั้งคณะกรรมการเส้นทาง โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานกรรมการขนส่งจังหวัด เป็นประธานดูแลเรื่องสถานที่ กำหนดจุดจอดรถที่แน่ชัด
ด้านนายเชิดชัย สนั่นศรีสาคร ผอ.สำนักการขนส่งผู้โดยสาร กรมการขนส่งทางบก กล่าวว่า การดำเนินการจัดระเบียบรถตู้โดยสารได้ดำเนินการมาระยะหนึ่งแล้ว ในส่วนของรถตู้โดยสารสาธารณะที่เข้าสู่ระบบและจดทะเบียนเป็นป้ายเหลือง อีกทั้งขณะนี้อยู่ระหว่างการบังคับใช้กฎหมายเพื่อจัดระเบียบอย่างยั่งยืน ที่ผ่านมาการดำเนินการเรียบร้อยดี แต่ยังมีบางส่วนค้างระบบและไม่ได้รับการผ่อนผันให้เดินรถ
