xs
xsm
sm
md
lg

“ตัวเวร” ปล้นชาติของป๋าเปรม

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

“พวกเราต้องไม่ยอมให้คนไม่ดีมานั่งปล้นชาติเราทุกวันๆ ฉะนั้น ต้องหาทางกำจัดตัวเวรและตัวน่ารังเกียจให้หมดไปจากประเทศเราให้ได้ สิ่งที่เราจะต้องทำคือ ตัวเราเอง ต้องเข้าใจว่า คอร์รัปชันคืออะไรกันแน่ การปล้นชาติคืออะไรกันแน่ เมื่อเราเข้าใจดีแล้ว เราก็บอกคนอื่นๆ ที่ใกล้ชิดว่า ไอ้การปล้นชาติทำให้ชาติเสียหายอย่างไรบ้าง แล้วก็พยายามหาทางปราบปรามให้หมดสิ้นไปให้ได้ การที่จะทำให้ประเทศของเราโปร่งใสนั้นไม่ง่ายเลย ค่อนข้างยาก แต่เรายังมีเวลาและโอกาสมากพอที่จะทำให้การปล้นชาติเล็กลง น้อยลง เพียงแต่ขอให้คนไทยผู้รักชาติทั้งหมดร่วมมือกันอย่างจริงจังและจริงใจ เมื่อใดประเทศของเรา ประกอบด้วยผู้บริหาร หน่วยงานภาครัฐ องค์กรทุกภาคส่วน มีการแสดงออกชัดเจน ตรงไปตรงมา มีการเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะ มีการประพฤติปฏิบัติตั้งอยู่บนความสุจริต มีจิตสำนึกหน้าที่ สามารถตรวจสอบและชี้แจงได้ เมื่อนั้นเราจะประสบผลสำเร็จ”

คำพูดของพล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรี พูดในขณะที่บ้านเมืองกำลังโจษจันกันเรื่องทุจริตราชภักดิ์ โครงการที่รัฐบาลมอบหมายให้กองทัพบกจัดสร้างขึ้นมาเพื่อเทิดทูนองค์บูรพกษัตริย์

ในขณะที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิ กปปส.บอกว่า ประชาชนทั้งประเทศเข้าใจสถานการณ์ดีว่า ฝ่ายที่ต้องการบ่อนทำลายความมั่นคง ทำลายความศรัทธาที่มีต่อรัฐบาล หยิบยกเอาประเด็นเรื่องอุทยานราชภักดิ์มาขยายให้ดูเป็นเรื่องใหญ่ ความจริงแล้วการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ไม่ทราบว่าใช้งบประมาณไปเท่าไหร่ ที่ทราบมาประมาณ 60 ล้านบาท ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ใหญ่โตเหมือนโครงการรับจำนำข้าว โครงการรถยนต์คันแรก โครงการบ้านเอื้ออาทร

สะท้อนถึงตรรกะอันวิปริตที่กำลังบอกประชาชนว่า โกงน้อยไม่เป็นไร ทั้งๆ ที่ขึ้นชื่อว่าการทุจริตแล้วไม่ว่ามากหรือน้อยก็เหมือนกับการปล้นชาติที่พล.อ.เปรมนิยาม เป็นตรรกะของอดีตนักการเมืองที่กระโดดเข้ามาสวมบทบาทผู้นำประชาชนและประกาศบนเวทีว่า ตอนที่เล่นการเมืองไม่เคยทุจริตแม้แต่บาทเดียว

ที่สำคัญการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์นั้น ก่อสร้างขึ้นภายใต้พระบรมราชานุญาต แรงศรัทธาของประชาชนที่เข้าร่วมบริจาคเพราะมีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณต่อชาติบ้านเมืองขององค์บูรพกษัตริย์ที่ได้รับอัญเชิญมาประดิษฐานภายในอุทยาน บวกเข้ากับสถานะของทหารที่กำลังมีอำนาจบริหารชาติบ้านเมืองอยู่ในปัจจุบัน

ต้องไม่ลืมว่าความไม่โปร่งใสถูกเปิดเผยขึ้นจากปากของพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ซึ่งเป็นประธานในการก่อสร้างเอง ว่ามีการรีดไถแอบอ้างแต่นำเงินมาคืนแล้ว จนกระทั่งถูกขุดคุ้ยถึงเงินที่ไปที่มาที่ใช้ในการก่อสร้างและการบริจาคจนเรื่องราวของความไม่ตรงไปตรงมาค่อยๆ เปิดเผยให้เห็นมากขึ้นเรื่อยๆ จากที่อ้างว่าเป็นเงินบริจาคไม่เกี่ยวกับรัฐบาลเพื่อปัดความรับผิดชอบ กลายเป็นเรื่องที่คณะรัฐมนตรีรับทราบมาโดยตลอด และเงินส่วนหนึ่งมาจากเงินแผ่นดิน

แม้จะอธิบายว่าเป็นเรื่องของเอกชนกับเอกชน หรือพยายามให้เป็นเรื่องของนายทหารระดับผู้ใต้บังคับบัญชา 2 คนที่หลบหนีหายไป หรือพยายามให้จบแค่ภายในกองทัพด้วยการคำรามเปรี้ยงใส่สังคมว่าไม่มีการทุจริต แต่ก็ไม่อาจดับความระแวงสงสัยของสังคมได้ เพราะนี่เท่ากับการนำเอาพระนามขององค์บูรพกษัตริย์เข้ามาหาผลประโยชน์ เหมือนเอามีดกรีดบนดวงใจของคนไทยทั้งประเทศ

จากบาดแผลเล็กๆ ค่อยลุกลามจนเปื่อยเน่า

ผมเห็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กำลังอารมณ์เสียในช่วงนี้ พล.อ.ประวิตรถึงกับบอกว่า ถ้ายังเคลื่อนไหวขัดแย้งกันในกรณีราชภักดิ์ก็จะไม่มีการเลือกตั้ง อ้าวมันเกี่ยวอะไรกันด้วยครับ

จริงอยู่ครับว่า การเลือกตั้งไม่ใช่ทั้งหมดของระบอบประชาธิปไตย เข้าใจว่าเราควรจะทำให้เกิดกติกาที่สอดคล้องกับสังคมเราก่อนจะกลับไปสู่การเลือกตั้งไม่ใช่ยึดแบบอย่างมาจากตะวันตก แต่มันตลกนะครับถ้าจะขู่ว่า หากยังเคลื่อนไหวเรื่องราชภักดิ์อยู่จะไม่มีการเลือกตั้ง แทนที่จะตอบคำถามที่สังคมเขาสงสัยเรื่องการทุจริตก็ควรทำเรื่องนี้ให้กระจ่างเสียกลับเอาการเลือกตั้งมาแบล็กเมล์ประชาชน

เอาการเลือกตั้งมาข่มขู่ประชาชน

พล.อ.ประยุทธ์บอกว่า ทีมข่าวการเมืองมันเก่งอะไรนักหนา มาเป็นนายกฯ สิ มาเลยไอ้พวกคอลัมนิสต์ต่างๆ สมัครเข้ามาเป็นรัฐมนตรี สมัครคราวหน้าผมจะเลือกให้ ปัดโธ่ คิดเป็นแต่ปัญหา คิดแต่ต้องการอะไร มีอยู่แค่นี้ แล้วก็ด่าคนอื่นเขาไปทั่วหมด แล้วมันใช่หรือไม่ แล้วประเทศจะเดินหน้ากันได้อย่างไร

ผมอยากบอก พล.อ.ประยุทธ์นะครับว่า การสมัครเข้ามาเล่นการเมืองแล้วให้ประชาชนเลือก บอกว่าท่านจะช่วยเลือกมันไม่ง่ายเหมือนกับการยึดอำนาจมา เพราะคนทำสื่อไม่มีอาวุธอะไรจะเข้ามายึดอำนาจแล้วบริหารบ้านเมืองได้แบบทหาร แต่ไม่มีใครแสวงหาอำนาจหรอก สิ่งที่เขาทำคือสะท้อนความเป็นไปของสังคม สังคมเป็นอย่างไรก็บอกเล่าไปอย่างนั้น ต่างคนต่างก็ทำหน้าที่ แล้วทุกคนก็รักชาติบ้านเมืองเหมือนที่ พล.อ.ประยุทธ์รัก

แน่นอนว่ามีสื่อมวลชนจำนวนหนึ่งที่ทักษิณใช้เงินจ้างให้โม่แป้ง แต่ผมยังเชื่อว่า สื่อมวลชนส่วนใหญ่ยังรักชาติบ้านเมืองมากกว่าเงินของทักษิณ

สิ่งที่รัฐบาลในฐานะผู้บังคับบัญชาของกองทัพควรทำก็คือ การเอารายรับรายจ่าย เงินบริจาคจากไหนบ้างมาเปิดเผยพร้อมรายชื่อผู้บริจาคจะได้รู้ว่าใครตกหล่นบ้าง จากนั้นก็เอาตัวเลขเงินคงเหลือมาดูว่าเหลือเท่าไหร่ เป็นคณิตศาสตร์พื้นฐานง่ายๆ จะไปเสียเวลาตั้งกรรมการสอบทำไม เพราะสังคมเขาไม่เชื่อแล้วตั้งแต่ผู้บัญชาการทหารบกตั้งกรรมการสอบแล้วออกมาการันตีความโปร่งใส ป่วยการที่จะตั้งทหารสอบทหารด้วยกันเองอีก แถมเป็นการตั้งผู้ใต้บังคับบัญชามาสอบผู้บังคับบัญชาซึ่งไม่มีใครเขาทำกัน

ที่ต้องไม่ลืมก็คือ ประชาชนจำนวนมากสนับสนุนให้ทหารเข้ามาปัดกวาดบ้านเมือง เพราะเขาทนกับความฉ้อฉลของนักการเมืองไม่ได้ ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำให้ประชาชนเห็นก็คือ เมื่อทหารมีอำนาจแม้จะเข้ามาอย่างไม่ถูกต้องแต่ก็ยังดีกว่านักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งแล้วทุจริตปล้นชาติกินเมืองจนประชาชนต้องออกมาขับไล่

อย่าให้เขาพูดได้ว่าไม่ว่านักการเมืองมีอำนาจหรือทหารมีอำนาจก็ไม่แตกต่างกัน

พล.อ.ประยุทธ์ต้องตระหนักว่า การตรวจสอบการทุจริตไม่ใช่ความขัดแย้งทางการเมือง แต่เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายควรจะช่วยกันกำจัดให้หมดไปจากประเทศของเราอย่างที่พล.อ.เปรมเรียกร้อง จริงอยู่คนเสื้อแดงจำนวนหนึ่งได้หยิบฉวยเรื่องนี้ขึ้นมาสร้างสถานการณ์ทางการเมือง แต่สิ่งที่เราสามารถตอบโต้กลับได้ก็คือ การทำเรื่องนี้อย่างตรงไปตรงมาไม่ปกป้องพวกเดียวกันเอง

ไม่นั้นคนเขาก็จะพูดได้ว่า ไม่ว่าใครมีอำนาจก็เป็น “ตัวเวร” ปล้นชาติเหมือนกัน
กำลังโหลดความคิดเห็น