“เซีย” หรือ "ศักดา" การ์ตูนนิสต์ไทยรัฐ พบ คสช. ขอโทษที่ทำทุกฝ่ายเดือดร้อน เผยพร้อมปรับปรุง น้อมรับโดนฟ้องรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ ขณะที่ทหารปล่อยตัวเพียงเรียกมาแค่ชี้แจงเท่านั้น
เมื่อเวลา 11.30 น. นายศักดา เอียว การ์ตูนนิสต์ประจำหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เปิดเผยภายหลังพูดคุยกับตัวแทนจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า บรรยากาศในการพูดคุยนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีการข่มขู่หรือคุกคามแม้แต่อย่างใด และยังเปิดโอกาสให้ตนได้ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวที่ได้นำเสนอไป ทั้งนี้ ตามที่ คสช.ได้เรียกตัวมาพูดคุยนั้นก็เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับการเสนอหรือเขียนการ์ตูน เพราะสืบเนื่องจากคณะกรรมการที่ดูแลงานด้านสื่อมวลชนของ คสช. เห็นว่ามีเนื้อหาบางภาพที่ไม่ตรงต่อข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ จาก คสช.ก็ไม่ได้มีการห้ามไม่ให้แสดงความคิดเห็น แต่หลังจากนี้หากพบว่าการวาดการ์ตูนที่ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงนั้นก็จะมีการดำเนินฟ้องร้องโดยจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ได้นำเสนอไป และการทำงานหลังจากนี้ไปตนก็ต้องปรับเปลี่ยนท่าทีการทำงานเพื่อให้รัดกุมรอบคอบมากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ได้อึดอัดอะไรมากในการทำหน้าที่ เพราะสื่อก็นำเสนอข้อมูลตามข้อเท็จจริงอยู่แล้ว
ตัวแทนของ คสช.ได้มีการพูดกับตนว่าการที่จะเปลี่ยนความคิดของคนนั้นไม่สามารถเปลี่ยนได้ แต่อยู่ที่ว่าเราจะร่วมมือการทำงานกันอย่างไร และต่อไปนี้หากการทำงานทำให้เกิดความเสียหายก็ให้รับผิดชอบในการฟ้องร้องเอง ตนจึงอาจจะลดบทบาทลงไปบ้างเพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อองค์กร หากแต่ส่งผลกระทบต่อตัวเองคนเดียวนั้นไม่เป็นไร เนื้อหาส่วนใหญ่ที่ได้ยกประเด็นจากหน้าหนังสือพิมพ์เอามาขยายต่อเป็นการ์ตูนนั้น เช่น ภาพวาดล้อเลียนการซื้อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ของไทย ที่แพงกว่าประเทศมาเลเซีย ได้ชี้แจงว่าภาพดังกล่าวได้เขียนไปตามเนื้อหาจากหนังสือพิมพ์ และการวาดภาพการ์ตูนของตนนั้นนำเสนอด้วยความหวังดีและรักษาผลประโยชน์ประเทศชาติ
อย่างไรก็ตาม การเรียกไปพูดคุยในวันนี้ไม่ได้มีการเซ็นชื่อเพื่อรับทราบ หรือมีการคาดโทษอะไรทั้งนั้น มีแต่เพียงการพูดคุยและชี้แจงถึงประเด็นที่ผ่านมา และทาง คสช.ไม่ได้มีการสั่งกำชับเป็นเป็นกรณีพิเศษ แต่ถ้าทำผิดซ้ำก็จะดำเนินการไปตามลำดับ
โดยวันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) หรือก่อนเข้าพบ คสช. นายศักดาเดินทางมา พร้อม พ.ต.ท.อำนาจ หาญชนะ รอง ผกก.ป.สน.บางซื่อ นายศักดากล่าวว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้เชิญตัวมาพูดคุยในวันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะพูดถึงเรื่องอะไร แต่ก็พร้อมที่จะรับฟัง ที่ผ่านมาการทำงานอาจเกินเลยไปบ้างก็ต้องขออภัย โดยทำให้เดือดร้อนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน จนไปถึงหัวหน้างาน บก. ไม่ว่าวันนี้จะพูดคุยเรื่องอะไรตนก็พร้อมที่จะรับฟังเพื่อให้บ้านเมืองเดินไปได้ตามที่ผู้นำต้องการ ที่สำคัญไม่อยากให้กระทบกระเทือนต่อคนทำงานรอบข้าง เพราะที่ผ่านมาภายหลังที่มีการรัฐประหาร 2 สัปดาห์ก็ได้ถูกเชิญมาพูดคุยแล้วครั้งหนึ่ง โดยในครั้งนั้นได้มีการพูดคุยในประเด็นเรื่องการปรองดอง และให้ลดท่าทีการโจมตีซึ่งกันและกันซึ่งก็ยินดีรับฟังและปรับท่าทีการเขียนลงไปเยอะ
ต้องขอโทษด้วยเพราะเวลาผ่านไปนาน ข่าวสารมากมันก็สนุกสนาน ตื่นเต้นก็อดไม่ได้ที่จะนำมาเขียนซึ่งมันก็กระทบไปยังหลายฝ่าย ในวันนี้อาจพิจารณาในการนำเสนอๆ สำหรับประเด็นที่ทำให้ถูกเชิญตัวมาก็อาจจะเป็นเรื่องที่แชร์กันในสื่อที่เกี่ยวกับข่าวที่นายกฯ กลับมาจากเวทียูเอ็น แต่ไม่แน่ใจขอไปดูอีกครั้งก่อน ในส่วนของท่าทีจากนี้ก็จะนำเสนอตามข้อเท็จจริง โดยในการยกประเด็นมาเขียนการ์ตูนนั้นเราก็นำมาจากข่าวสารในแต่ละวัน ไม่มีเรื่องไหนที่เรามโนหรือคิดขึ้นมาเอง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องจากเหตุการณ์ข่าวประจำวันซึ่งเราก็หยิบเอาแง่มุมประเด็นบางอย่างขึ้นมาเขียนโดยใส่ความคิดตัวเองไปบ้าง เรียกได้ว่าเป็นการประมวลข่าวที่ผ่านมาใส่ลงไป แน่นอนมันเป็นเรื่องของการเสนอแนวคิดการ์ตูน ข้อคิดของเรา เรื่องของข่าวเป็นมันก็เป็นเรื่องของการรายงานข้อเท็จจริง อะไรเกิดก็รายงานไปตามนั้น แต่นักเขียนการ์ตูนก็เหมือนกับคอลัมนิสต์ที่เวลาเราอ่านข่าวเรามีแง่มุมหรือแง่คิดอะไรเราก็เสนอไป อาจไปกระทบคนที่เกี่ยวข้องบ้าง ไม่ว่าวันนี้จะเป็นอย่างไรก็ยอมรับ เพราะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เราเป็นคนทำตรงนั้น ขึ้นอยู่กับความกรุณาของผู้ที่เกี่ยวข้อง เราไม่มีเจตนาที่จะทำลายกัน เป็นเรื่องของการแสดงความคิดเห็นเท่านั้นเอง
นายศักดากล่าวอีกว่า จริงๆ แล้วนักเขียนการ์ตูนก็จะเสนออะไรที่รุนแรงไปบ้างแต่มันไม่ใช่อาชญากรรม เป็นถ่ายทอดความคิดของเรา เพียงแต่ถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นภาพเท่านั้นซึ่งอาจจะกระทบไปบ้าง ก็พร้อมที่จะปรับปรุง ไม่ได้ต้องการปะทะกับใครหรือทำให้เรื่องนี้เป็นประเด็นใหญ่โต เรื่องนี้เป็นการเสนอความเห็นของเราคนเดียว แต่เมื่อไปกระทบต่อคนหมู่มากตนก็ไม่สบายใจ แต่พร้อมทำทุกอย่างให้กลับมาสู่เหตุการณ์ปกติ
"ก่อนหน้านี้ก็มีการโทร.มาเตือนที่กอง บก.ซึ่งตนก็ปฏิบัติตามตลอด แต่พอสักพักเมื่อถึงจุดไคลแมกซ์เราก็สนุกสนาน อดไม่ได้ที่จะเขียนเพราะมันก็เกี่ยวข้องกับหน้าที่ บางทีถ้าเราไม่ทันสถานการณ์ก็ตามไม่ทันข่าวก็ถูกมองว่าล้าหลังอีก" นายศักดาอ้าง.
เมื่อเวลา 11.30 น. นายศักดา เอียว การ์ตูนนิสต์ประจำหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ เปิดเผยภายหลังพูดคุยกับตัวแทนจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า บรรยากาศในการพูดคุยนั้นเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่มีการข่มขู่หรือคุกคามแม้แต่อย่างใด และยังเปิดโอกาสให้ตนได้ชี้แจงถึงประเด็นดังกล่าวที่ได้นำเสนอไป ทั้งนี้ ตามที่ คสช.ได้เรียกตัวมาพูดคุยนั้นก็เพื่อชี้แจงเกี่ยวกับการเสนอหรือเขียนการ์ตูน เพราะสืบเนื่องจากคณะกรรมการที่ดูแลงานด้านสื่อมวลชนของ คสช. เห็นว่ามีเนื้อหาบางภาพที่ไม่ตรงต่อข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทางเจ้าหน้าที่ จาก คสช.ก็ไม่ได้มีการห้ามไม่ให้แสดงความคิดเห็น แต่หลังจากนี้หากพบว่าการวาดการ์ตูนที่ไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงนั้นก็จะมีการดำเนินฟ้องร้องโดยจะต้องรับผิดชอบกับสิ่งที่ได้นำเสนอไป และการทำงานหลังจากนี้ไปตนก็ต้องปรับเปลี่ยนท่าทีการทำงานเพื่อให้รัดกุมรอบคอบมากยิ่งขึ้น แต่ก็ไม่ได้อึดอัดอะไรมากในการทำหน้าที่ เพราะสื่อก็นำเสนอข้อมูลตามข้อเท็จจริงอยู่แล้ว
ตัวแทนของ คสช.ได้มีการพูดกับตนว่าการที่จะเปลี่ยนความคิดของคนนั้นไม่สามารถเปลี่ยนได้ แต่อยู่ที่ว่าเราจะร่วมมือการทำงานกันอย่างไร และต่อไปนี้หากการทำงานทำให้เกิดความเสียหายก็ให้รับผิดชอบในการฟ้องร้องเอง ตนจึงอาจจะลดบทบาทลงไปบ้างเพราะอาจจะส่งผลกระทบต่อองค์กร หากแต่ส่งผลกระทบต่อตัวเองคนเดียวนั้นไม่เป็นไร เนื้อหาส่วนใหญ่ที่ได้ยกประเด็นจากหน้าหนังสือพิมพ์เอามาขยายต่อเป็นการ์ตูนนั้น เช่น ภาพวาดล้อเลียนการซื้อรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิงก์ของไทย ที่แพงกว่าประเทศมาเลเซีย ได้ชี้แจงว่าภาพดังกล่าวได้เขียนไปตามเนื้อหาจากหนังสือพิมพ์ และการวาดภาพการ์ตูนของตนนั้นนำเสนอด้วยความหวังดีและรักษาผลประโยชน์ประเทศชาติ
อย่างไรก็ตาม การเรียกไปพูดคุยในวันนี้ไม่ได้มีการเซ็นชื่อเพื่อรับทราบ หรือมีการคาดโทษอะไรทั้งนั้น มีแต่เพียงการพูดคุยและชี้แจงถึงประเด็นที่ผ่านมา และทาง คสช.ไม่ได้มีการสั่งกำชับเป็นเป็นกรณีพิเศษ แต่ถ้าทำผิดซ้ำก็จะดำเนินการไปตามลำดับ
โดยวันเดียวกัน เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) หรือก่อนเข้าพบ คสช. นายศักดาเดินทางมา พร้อม พ.ต.ท.อำนาจ หาญชนะ รอง ผกก.ป.สน.บางซื่อ นายศักดากล่าวว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ ได้เชิญตัวมาพูดคุยในวันนี้ก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะพูดถึงเรื่องอะไร แต่ก็พร้อมที่จะรับฟัง ที่ผ่านมาการทำงานอาจเกินเลยไปบ้างก็ต้องขออภัย โดยทำให้เดือดร้อนกันหมด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนร่วมงาน จนไปถึงหัวหน้างาน บก. ไม่ว่าวันนี้จะพูดคุยเรื่องอะไรตนก็พร้อมที่จะรับฟังเพื่อให้บ้านเมืองเดินไปได้ตามที่ผู้นำต้องการ ที่สำคัญไม่อยากให้กระทบกระเทือนต่อคนทำงานรอบข้าง เพราะที่ผ่านมาภายหลังที่มีการรัฐประหาร 2 สัปดาห์ก็ได้ถูกเชิญมาพูดคุยแล้วครั้งหนึ่ง โดยในครั้งนั้นได้มีการพูดคุยในประเด็นเรื่องการปรองดอง และให้ลดท่าทีการโจมตีซึ่งกันและกันซึ่งก็ยินดีรับฟังและปรับท่าทีการเขียนลงไปเยอะ
ต้องขอโทษด้วยเพราะเวลาผ่านไปนาน ข่าวสารมากมันก็สนุกสนาน ตื่นเต้นก็อดไม่ได้ที่จะนำมาเขียนซึ่งมันก็กระทบไปยังหลายฝ่าย ในวันนี้อาจพิจารณาในการนำเสนอๆ สำหรับประเด็นที่ทำให้ถูกเชิญตัวมาก็อาจจะเป็นเรื่องที่แชร์กันในสื่อที่เกี่ยวกับข่าวที่นายกฯ กลับมาจากเวทียูเอ็น แต่ไม่แน่ใจขอไปดูอีกครั้งก่อน ในส่วนของท่าทีจากนี้ก็จะนำเสนอตามข้อเท็จจริง โดยในการยกประเด็นมาเขียนการ์ตูนนั้นเราก็นำมาจากข่าวสารในแต่ละวัน ไม่มีเรื่องไหนที่เรามโนหรือคิดขึ้นมาเอง ส่วนใหญ่เป็นเรื่องจากเหตุการณ์ข่าวประจำวันซึ่งเราก็หยิบเอาแง่มุมประเด็นบางอย่างขึ้นมาเขียนโดยใส่ความคิดตัวเองไปบ้าง เรียกได้ว่าเป็นการประมวลข่าวที่ผ่านมาใส่ลงไป แน่นอนมันเป็นเรื่องของการเสนอแนวคิดการ์ตูน ข้อคิดของเรา เรื่องของข่าวเป็นมันก็เป็นเรื่องของการรายงานข้อเท็จจริง อะไรเกิดก็รายงานไปตามนั้น แต่นักเขียนการ์ตูนก็เหมือนกับคอลัมนิสต์ที่เวลาเราอ่านข่าวเรามีแง่มุมหรือแง่คิดอะไรเราก็เสนอไป อาจไปกระทบคนที่เกี่ยวข้องบ้าง ไม่ว่าวันนี้จะเป็นอย่างไรก็ยอมรับ เพราะอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เราเป็นคนทำตรงนั้น ขึ้นอยู่กับความกรุณาของผู้ที่เกี่ยวข้อง เราไม่มีเจตนาที่จะทำลายกัน เป็นเรื่องของการแสดงความคิดเห็นเท่านั้นเอง
นายศักดากล่าวอีกว่า จริงๆ แล้วนักเขียนการ์ตูนก็จะเสนออะไรที่รุนแรงไปบ้างแต่มันไม่ใช่อาชญากรรม เป็นถ่ายทอดความคิดของเรา เพียงแต่ถ่ายทอดความคิดออกมาเป็นภาพเท่านั้นซึ่งอาจจะกระทบไปบ้าง ก็พร้อมที่จะปรับปรุง ไม่ได้ต้องการปะทะกับใครหรือทำให้เรื่องนี้เป็นประเด็นใหญ่โต เรื่องนี้เป็นการเสนอความเห็นของเราคนเดียว แต่เมื่อไปกระทบต่อคนหมู่มากตนก็ไม่สบายใจ แต่พร้อมทำทุกอย่างให้กลับมาสู่เหตุการณ์ปกติ
"ก่อนหน้านี้ก็มีการโทร.มาเตือนที่กอง บก.ซึ่งตนก็ปฏิบัติตามตลอด แต่พอสักพักเมื่อถึงจุดไคลแมกซ์เราก็สนุกสนาน อดไม่ได้ที่จะเขียนเพราะมันก็เกี่ยวข้องกับหน้าที่ บางทีถ้าเราไม่ทันสถานการณ์ก็ตามไม่ทันข่าวก็ถูกมองว่าล้าหลังอีก" นายศักดาอ้าง.
