นายกฯ เปิดกองทุนการออมแห่งชาติ ชูผลสำเร็จได้ในรัฐบาลนี้ หวังประชาชนได้ประโยชน์ มีบำนาญคนจน ส่งเสริมการออมตามแนวทางพระราชดำริ ยันรัฐพยายามสร้างความเข้มแข็ง ไม่ใช่โยนเงินทั้งก้อนแล้วก็หมด รับภาระหนักต้องจ่ายเงินสมทบเยอะ แต่ก็ยังดีที่ได้เอาเงินกลับมาให้สังคม ทำเศรษฐกิจขับเคลื่อน หยันหลายรัฐบาลไม่เคยทำได้เป็นสิบปี บ่นหนังสือพิมพ์ คอลัมนิสต์ ค้านทุกเรื่อง น่ารำคาญ ประท้วงไม่ซื้อสักพักดีไหม เป็นอะไรชอบกระทุ้งอยู่นั่น
วันนี้ (20 ส.ค.) ที่ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 09.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) โดยนายรัฐมนตรีกล่าวตอนหนึ่งว่า เมื่อลงทุนใน กอช. แล้วรัฐบาลก็จะสมทบไปตามสัดส่วนและนำไปบริหารโดยผู้บริหารกองทุนมืออาชีพ โดยจะมีกฎหมายที่ควบคุมชัดเจนไม่เสียหาย ซึ่งรัฐบาลจะต้องค้ำประกันผลตอบแทนของสมาชิกไม่ใช่ทำแล้วเจ๊งแล้วคืนเงินไม่ได้ ต้องไม่ทำให้เงินของประชาชนเสียหาย ซึ่งเราต้องจ่ายผลตอบแทนให้กับสมาชิกทุกคนให้สามารถดำรงชีวิตอยู่ได้อย่างมีคุณภาพ โดยกองทุนนี้จะให้กับคนมีรายได้น้อยที่อยู่กับบ้าน สามีไม่ดูแล ภรรยาไม่ดูแล ลูกไม่ดูแลก็จะกลายเป็นสังคมสูงอายุที่ไม่มีคุณภาพ มีความเสี่ยงตลอดเวลา รัฐบาลต้องคิดเพื่อลดความเสี่ยง ซึ่งวันหน้าจะมีกองทุนสาธารณูปโภคพื้นฐาน กองทุนทางด้านการสื่อสารซึ่งประชาชนจะมีส่วนร่วมทั้งหมด ทั้งนี้เราควรทำตามที่พระราชดำรัสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ พระราชทานไว้ในเรื่องการออม การประหยัด ซึ่งเป็นการทำบัญชีรายจ่ายครัวเรือนมีการเก็บออมเผื่อเอาไว้ใช้ในยามเจ็บป่วย รัฐบาลมีหน้าที่ดูแลทุกเรื่อง แต่ประเทศเราไม่ได้เข้มแข็ง แต่เรากำลังแก้ปัญหาทั้งระบบที่มีมายาวนานหลายสิบปี ทุกอย่างต้องอาศัยเวลา งบประมาณ ต้องแก้ไขเรื่องกฎหมายที่กำลังเดินหน้าอยู่ บางกฎหมายค้างอยู่ที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เพราะโต้แย้งกันอยู่ ซึ่งเป็นการมีส่วนร่วมของทุกคนอยู่แล้ว ไม่ใช่รัฐบาลใช้มาตรา 44 อย่างเดียวเป็นไปไม่ได้ เราต้องใช้อำนาจในการสร้างสรรค์และด้วยความเมตราเพื่อให้เกิดสิ่งที่ดีที่ตนยึดถือมาตลอด
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตรงนี้จะเป็นทางเลือกหนึ่งให้กับคนที่มีรายได้น้อย แต่ประเทศไทยก็แปลกพอมีทางเลือกก็ไม่เลือกเลยซักทาง แต่จะเลือกให้รัฐบาลดูแลก็ง่ายดี ซึ่งเป็นหน้าที่ของรัฐบาลปฏิเสธไม่ได้ ทุกอย่างโยนกลับมารัฐบาลหมดเลยเกิดความแตกแยกเป็นผลประโยชน์ทางการเมือง ทำให้เกิดการแบ่งแยกเป็นกลุ่มเป็นฝ่าย เพราะเงินน้อยเงินไม่พอไม่เท่าเทียมดูแลเฉพาะกลุ่มทำให้มีผลทางการเมืองกลับมา ตรงนี้อันตรายสำหรับประเทศเราในอนาคต วันนี้เห็นบอกว่ารัฐบาลคะแนนตก ตนบอกว่าตนไม่มีคะแนนเสียง ไม่มีคะแนนนิยมคนก็ตกใจ แต่ตนไม่เคยตกใจมันจะขึ้นหรือจะตกตนไม่กลัวอะไร แต่ตนหวั่นว่าในอนาคตจะเป็นอย่างนี้ต่อไปอีกหรือ ทุกอย่างหวังคะแนนนิยมคะแนนเสียง แต่ตนไม่หวังคะแนนเสียงตนต้องการความร่วมมือความสุขและรอยยิ้มของคนไทยทุกคน
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เรื่องกอช. เป็นผลงานของกระทรวงการคลัง ที่รัฐบาลคิดมาตั้งแต่ ประยุทธ์ 1 และประยุทธ์ 2 แล้ว แต่เพิ่งมาเกิดในประยุทธ์ 3 ต้องให้เครดิตรัฐมนตรีชุดแรกที่ทำมาถึงวันนี้ ตอนนี้กำลังมีประยุทธ์ 3 ที่ต้องทำงานหนักหน่อย เพราะต้องขับเคลื่อนงานทั้งหมด แต่ประยุทธ์ 1 และประยุทธ์ 2 ต้องรับแรงกดดันทั้งในเรื่องต่างๆ เพราะเริ่มทำงาน ทำเรื่องกฎหมาย เอาของเก่ามารื้อ มาแก้ ถ้าจะมาเรียกร้องอันนี้ไม่ดีให้มีการปรับครม. มองครม.ตอนนี้ก็ไม่มีให้ปรับแล้วคนอาสามาทำงานเยอะแต่เราจะไว้ใจได้ไหม ตอนนี้ประยุทธ์ 1 กับประยุทธ์ 2 ก็ต้องไปเป็นที่ปรึกษา ตนก็จะฟังท่านแล้วมากำหนดนโยบาย ตนจำเป็นต้องฟังทุกคน รัฐบาลใหม่ก็ถือว่าเป็น ประยุทธ์ 1, 2, 3 หรือจะเป็นประยุทธ์ 4 ,5 ก็บอกให้ปรับกันอีกๆ งั้นปรับตนออกง่ายกว่า พอปรับอีกรัฐบาลก็ไม่ดีขึ้น มันจะดีขึ้นได้อย่างไร เพราะเป็นอย่างนี้มาตั้งนานแล้ว เพียงแต่ว่าไม่มีปัจจัยภายนอกมาเพิ่ม พอมีปัจจัยภายนอกเข้ามาก็มีปัญหาแก้กันทุกวัน ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว หากจะบอกว่าประชาชนต้องเข้ามามีส่วนร่วมตั้งแต่ต้น มันมีขั้นตอนอยู่แล้ว ว่าจะเข้ามาอย่างไร การตรวจสอบความโปร่งใส อย่างไร ที่มีคนบอกว่าให้ตั้งประชาชนเข้ามานั่งใน ครม. กับตน มันเป็นไปไม่ได้ เพราะเราเป็นประชาธิปไตยเพราะมันเป็นระบบ รัฐบาลนี้จะทำให้เกิดชัดเจนเพื่อลดปัญหาในวันข้างหน้า อะไรที่สร้างไม่ได้ก็สร้างได้ในวันหน้า
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า หนังสือพิมพ์บางฉบับบอกว่าตั้งกอช. มาก็เท่านั้น เพราะบางคนเงิน 100 บาทยังหาไม่ได้ เขาค้านทุกเรื่องไม่รู้มันเป็นอะไร สมองมันสวนทาง ตนไม่ได้ว่าทั้งหมด บางคอลัมนิตส์ก็เขียนอยู่นั้นไม่ว่าจะทำอะไรก็ว่า คนที่ทำผิดกฎหมายไม่เห็นว่าไอ้ที่ยังไม่ได้ทำผิดไปแล้ว ตนไม่เข้าใจว่าอยู่ข้างไหน อยู่ข้างประเทศไทยหรือเปล่าก็ฝากไว้ด้วยล่ะกัน ตนมีชื่อทั้งหดมอยู่แล้ว หลายคอลัมนิสต์ หลายสื่อน่ารำคาญ ประท้วงไม่ซื้อหนังสือพิมพ์กันสักพักดีไหม ปลอดหนังสือพิมพ์ปลอดสื่อ เพราะท่านควรให้สิ่งดี ให้ประชาชนเรียนรู้ มันเสียหายอะไรหรือกลัวว่าจะขายไม่ออกหรือยังไง เดี๋ยวพออกไปข้างนอกสื่อก็ไม่ถามตนเรื่องนี้หรอก ไปถามเรื่องระเบิดขยายความไปเรื่อย ระเบิดไปทีหนึ่งแล้ว แต่เหมือนระเบิดทุกวันเพราะสื่อถามแต่เรื่องเดิมๆ ครอบครัวผู้ที่เสียชีวิตเขาเสียใจอยู่นึกถึงเขาบ้าง ก็กระทุ้งอยู่นั้นเหละ เป็นอะไร ชอบเขียนให้ขัดแย้งตลอด เพราะเขามีสิทธิพิเศษที่เรียกว่า ฐานันดรที่ 5 ที่ทำอะไรก็ได้มันไม่ใช่ เดี๋ยวก็รอสับตนอยู่ข้างนอก บอกไว้เลยไม่กลัวอยู่แล้ว เพราะตนทำเพื่อประเทศชาติ
“เอาใจช่วยละกันขอให้จับได้ จะได้รู้สักทีว่าเป็นใคร ถ้าเป็นเรื่องของต่างประเทศก็อย่าไปขยายความขัดแย้งเพราะเราไม่ใช่คู่ขัดแย้งของใครในโลกใบนี้ ไม่ได้ทะเลาะกับใคร ทะเลาะกันเอง แต่การทะเลาะกันเองก็ไม่น่ารุนแรงขนาดนี้หรือเปล่า หรือมีใครที่ทำให้มันแรงขึ้น เอาคนมาร่วมด้วยช่วยกัน ผมยังไม่รู้เหมือนกันยังไม่ลงความเห็น ผมอยากจะฝากอย่างหนึ่งคำหนึ่งที่อยากให้จดจำไว้ และนำไปปฏิบัติเราจะต้องเจริญเติบโตและแข็งแกร่งไปด้วยกัน เพราะที่นี่คือประเทศของเรา บ้านของเรา เราจะเติบโตไปด้วยกัน “our home our country stronger together” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 10.15 น. พล.อ.ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ภายหลังเป็นประธานเปิดกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) ว่า กองทุนการออมแห่งชาติได้เป็นผลสำเร็จและเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้ ซึ่งได้รับความสนใจจากประชาชนมาก จึงอยากจะฝากในเรื่องนี้เพราะถือเป็นเรื่องของความมั่นคงของภาคประชาชน โดยเฉพาะประชาชนที่อยู่นอกระบบการใช้แรงงานต่างๆ ที่ไม่มีกองทุนประกันสังคม ทั้งนี้เป็นกองทุนที่มีมานานแล้วแต่ไม่ได้ทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์แบบนี้ เมื่อเกิดขึ้นมาชาวบ้านก็ดีใจ อย่างนี้ก็มีเงินบำนาญ เขาบอกว่าเป็นบำนาญคนจน เขาก็ดีใจกับกองทุนนี้และเป็นการส่งเสริมการออมตามแนวทางพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ใครที่ยังไม่มีกองทุนบำนาญก็ให้มาเข้าโครงการ โครงการนี้รัฐบาลพยายามสร้างความเข้มแข็ง ไม่ใช่เอาเงินทั้งก้อนโยนลงไปแล้วก็หมด แต่อันนี้เป็นการช่วยออม นี่คือสิ่งที่ควรจะเกิด โดยต้องไปสร้างการรับรู้ว่ารัฐบาลดูแลดี หากถามว่าภาระหนักไหมก็หนัก เพราะต้องจ่ายเงินสมทบเยอะ และก็จะเยอะเป็นแสนตามจำนวนที่มากขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ยังดีที่เราเอาเงินมางอกเงยแล้วกลับมาให้สังคม ให้แก่ตัวเอง และทำให้เศรษฐกิจขับเคลื่อนไปด้วย นั่นหล่ะคือประเด็นของตน ทั้งนี้ พ.ร.บ.นี้มีมานานแล้ว รอมาหลายปี หลายรัฐบาลไม่เคยทำได้เป็นสิบปี