ผู้จัดการรายวัน360 - โฆษกบัวแก้ว เผยจดหมายอียู เชิญอดีตนายกฯ "ยิ่งลักษณ์" เป็นของจริง แต่เป็นการเชิญในนามส่วนตัว ไม่ใช่รัฐสภายุโรป พร้อมสั่งทูตไทยในบรัสเซลส์ แจงนโยบายรัฐบาลไทย ยันทำตามโรดแม็ป ด้าน "มาร์ค" ย้ำไม่ใช่จม.อียู แนะสอบเบื้องหลัง
วานนี้ (25 พ.ย.) นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่ สมาชิกรัฐสภายุโรปส่งจดหมายเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อไปหารือเรื่องสถานการณ์การเมืองในไทย ว่า ทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม และผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ได้ยืนยันจดหมายดังกล่าวเป็นจดหมายเชิญจากสมาชิกรัฐสภายุโรปจำนวน 2 คนจริง แต่เป็นการเชิญในนามส่วนตัว จึงไม่ได้ลงรายละเอียดตำแหน่งในจดหมายเชิญ และยืนยันว่าไม่ใช่การเชิญในนามรัฐสภายุโรป หรือในนามกลุ่มการเมือง หรือคณะกรรมาธิการในรัฐสภาแต่อย่างใด
นายเสข กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ถือเป็นสิทธิของสมาชิกรัฐสภายุโรปที่สามารถเชิญบุคคลต่างๆ มาหารือได้ ซึ่งฝ่ายบริหารหรือประเทศสมาชิกไม่สามารถควบคุมการทำงานของสมาชิกรัฐสภายุโรปได้ เนื่องจากเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ
อย่างไรก็ตาม สนธิสัญญาลิสบอน ซึ่งเป็นกฎหมายพื้นฐานของสหภาพยุโรป ไม่ได้ให้อำนาจให้แก่รัฐสภายุโรป ในการกำหนดนโยบายต่างประเทศของอียูแต่อย่างใดซึ่งทางฝ่ายไทยได้ให้ เอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ เข้าให้ข้อมูลและชี้แจงถึงนโยบายของรัฐบาล และการดำเนินการตามแผนโรดแม็ปแก่รัฐสภายุโรปมาอย่างต่อเนื่องด้วย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อย่าเรียกจดหมายอียู เพราะเป็นแค่ส.ส.สองคนเชิญคนอื่นมาจะบอกว่าเป็นการเชิญของสภาไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้น่าจะมีการตรวจสอบที่มาเพราะน่าจะมีขบวนการทำให้เกิดขึ้น
วานนี้ (25 พ.ย.) นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีที่ สมาชิกรัฐสภายุโรปส่งจดหมายเชิญ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เพื่อไปหารือเรื่องสถานการณ์การเมืองในไทย ว่า ทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม และผู้แทนสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย ได้ยืนยันจดหมายดังกล่าวเป็นจดหมายเชิญจากสมาชิกรัฐสภายุโรปจำนวน 2 คนจริง แต่เป็นการเชิญในนามส่วนตัว จึงไม่ได้ลงรายละเอียดตำแหน่งในจดหมายเชิญ และยืนยันว่าไม่ใช่การเชิญในนามรัฐสภายุโรป หรือในนามกลุ่มการเมือง หรือคณะกรรมาธิการในรัฐสภาแต่อย่างใด
นายเสข กล่าวอีกว่า ทั้งนี้ถือเป็นสิทธิของสมาชิกรัฐสภายุโรปที่สามารถเชิญบุคคลต่างๆ มาหารือได้ ซึ่งฝ่ายบริหารหรือประเทศสมาชิกไม่สามารถควบคุมการทำงานของสมาชิกรัฐสภายุโรปได้ เนื่องจากเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ
อย่างไรก็ตาม สนธิสัญญาลิสบอน ซึ่งเป็นกฎหมายพื้นฐานของสหภาพยุโรป ไม่ได้ให้อำนาจให้แก่รัฐสภายุโรป ในการกำหนดนโยบายต่างประเทศของอียูแต่อย่างใดซึ่งทางฝ่ายไทยได้ให้ เอกอัครราชทูต ณ กรุงบรัสเซลส์ เข้าให้ข้อมูลและชี้แจงถึงนโยบายของรัฐบาล และการดำเนินการตามแผนโรดแม็ปแก่รัฐสภายุโรปมาอย่างต่อเนื่องด้วย
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า อย่าเรียกจดหมายอียู เพราะเป็นแค่ส.ส.สองคนเชิญคนอื่นมาจะบอกว่าเป็นการเชิญของสภาไม่ได้ ซึ่งเรื่องนี้น่าจะมีการตรวจสอบที่มาเพราะน่าจะมีขบวนการทำให้เกิดขึ้น