เอเจนซีส์ - เครื่องบินขับไล่ซูคอย Su-24 ของรัสเซียถูกกองทัพอากาศตุรกียิงตกใกล้ๆ พรมแดนซีเรีย เมื่อวานนี้ (24 พ.ย.) ขณะที่ทางการหมีขาวยืนยันว่าอากาศยานลำดังกล่าวไม่ได้รุกล้ำน่านฟ้าตุรกี ส่วนนักบินทั้งสองคนที่มีข่าวว่าดีดตัวออกจากเครื่องได้ทัน พบนักบินรัสเซียหนึ่งรายเสียชีวิตแล้ว ศพอยู่ในเงื้อมมือของนักรบชาวเติร์กฝ่ายกบฏซีเรีย “ปูติน” กอดคอผู้นำสูงสุดอิหร่านค้าน “คนนอก” ปลดอัสซาด โดยที่ “คาเมเนอี” แฉอเมริกามี "แผนระยะยาว” ในการครอบครองซีเรียและตะวันออกกลาง
สำนักข่าวอนาโดลูของตุรกีเผยแพร่ภาพขณะเครื่องบินขับไล่รัสเซียเกิดเพลิงลุกไหม้ และร่วงลงสู่ภูเขาลูกหนึ่งในเขตแดนของซีเรีย วานนี้ (24 พ.ย. )ทั้งนี้สื่อรัสเซียอ้างถ้อยแถลงจากกระทรวงกลาโหม ซึ่งระบุว่า “ผลของการยิงทำให้เครื่องบินขับไล่ซูคอย Su-24 ลำหนึ่งของเราตกในเขตสาธารณรัฐอาหรับซีเรีย”
ทำเนียบประธานาธิบดีตุรกีระบุในคำแถลงว่า เครื่องบินลำดังกล่าวเป็นรุ่น Su-24 ของกองทัพอากาศรัสเซีย ขณะที่สื่อตุรกีรายงานว่า นักบินคนหนึ่งถูกพวกกบฏในซีเรียจับกุมไว้ได้
รัฐบาลหมีขาวยืนยันว่ามีเครื่องบินของตนถูกยิงตกจริง แต่ยังไม่ทราบชะตากรรมของนักบินทั้งสอง
กองทัพตุรกีอ้างว่า อากาศยานขับไล่ลำนี้ละเมิดน่านฟ้าตุรกีถึง 10 ครั้งในระยะเวลา 5 นาที จนถูกฝูงบินขับไล่ F-16 ยิงตก แต่รัสเซียยืนยันว่า Su-24 ลำดังกล่าวปฏิบัติภารกิจอยู่ในเขตน่านฟ้าซีเรียตลอดเวลา
สถานีโทรทัศน์ ซีเอ็นเอ็น-เติร์ก และเอ็นทีวีของตุรกี รายงานว่า เครื่องบินขับไล่ลำดังกล่าวระเบิดกลางอากาศและร่วงลงสู่ภูเขาลูกหนึ่งในฝั่งซีเรีย ขณะที่สำนักข่าวอนาโตเลียก็ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอกลุ่มควันที่ลอยขึ้นมาจากภูเขาลูกหนึ่ง ห่างชายแดนตุรกีไปแค่ไม่กี่กิโลเมตร
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างที่รัสเซียและซีเรียส่งเครื่องบินเข้าไปถล่มฐานที่มั่นกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ทางตอนเหนือของซีเรีย
เจ้าหน้าที่รัฐบาลตุรกียังไม่เปิดเผยรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ระบุว่าจะแจ้งเรื่องนี้ต่อองค์การสหประชาชาติและนาโต
เครื่องบินขับไล่แดนหมีขาวเคยล่วงล้ำน่านฟ้าตุรกีมาแล้ว 2 ครั้งเมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งทำให้อังการาเรียกทูตรัสเซียมาประท้วงการละเมิดอธิปไตย
ตุรกีและรัสเซียมีจุดยืนที่ขัดแย้งกันมานานในเรื่องปัญหาซีเรีย โดยอังการานั้นต้องการเห็นประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด สละอำนาจ แต่มอสโกกลับทำทุกอย่างเพื่อช่วย อัสซาด ยื้ออำนาจต่อไป
เมื่อเดือน ต.ค. กองทัพตุรกีอ้างว่าสามารถยิงอากาศยานไร้คนขับของรัสเซียตกหลังถูกรุกล้ำน่านฟ้า แต่ครั้งนั้นมอสโกปฏิเสธว่าไม่ใช่โดรนของตน
เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย มีกำหนดเดินทางเยือนตุรกีในวันนี้ (25) เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และแสวงหาแนวทางร่วมกันในการสร้างสันติภาพขึ้นในซีเรีย
จากการรายงานของซีเอ็นเอ็นเติร์กที่เยลาดากี เมืองใกล้ชายแดนตุรกี-ซีเรีย มีการระบุว่า หนึ่งในนักบินรัสเซียของเครื่องบินรบ SU-24 ลำที่ตกบริเวณชายแดนตุรกี-ซีเรีย ได้ถูกควบคุมตัวไว้โดยกลุ่มนักรบชาวเติร์กของฝ่ายต่อต้านอัสซาด พวกเขายังได้ออกตามหาตัวนักบินคนที่สองด้วย
สื่อท้องถิ่นระบุด้วยว่า มีเฮลิคอปเตอร์ของรัสเซียที่ออกตามหานักบินทั้งสอง แต่ถูกกองกำลังนักรบชาวเติร์กขัดขวางไม่ให้ลงจอด
ต่อมาซีเอ็นเอ็นเติร์กได้รายงานการพบศพของนักบินรัสเซีย โดยมีภาพที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบ แสดงให้เห็นถึงศพของนักบิน โดยที่นักวิเคราะห์บอกว่าได้รับรายงานศพนักบินที่เสียชีวิตนั้นอยู่ในมือของกลุ่ม อัลวิยา อัล-อาชาร์ ซึ่งเป็นกลุ่มกบฏต่อต้านรัฐบาลซีเรีย
จาฮีด อาหมัด โฆษกของกลุ่มกบฏซีเรีย ที่อ้างว่าได้ตัวนักบินรัสเซีย ระบุว่า นักบินรัสเซีย 2 คนพยายามจะลงสู่บริเวณพื้นที่ซึ่งอยู่ในการควบคุมของรัฐบาลซีเรียด้วยร่มชูชีพ แต่ถูกยิงโดยสมาชิกในกลุ่มของเขา ทำให้มีหนึ่งรายเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ไม่มีการระบุถึงนักบินอีกราย
สงครามกลางเมืองในซีเรียหวนกลับมาเป็น “สงครามตัวแทน” ระหว่างมหาอำนาจโลกสองค่าย ฝ่ายแรกรัสเซียและอิหร่านร่วมกันสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย และอีกฝ่ายคือมหาอำนาจตะวันตกนำโดยสหรัฐฯ ตุรกี และประเทศในอ่าวเปอร์เซีย ที่ต้องการโค่นล้มอัสซาด โดยที่ภายหลังเหตุระเบิดที่ปารีส ขณะที่ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ของฝรั่งเศส เผชิญแรงกดดันให้ต้องปฏิบัติการตอบโต้เล่นงานไอเอสอย่างจริงจังยิ่งขึ้น ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ก็รีบยื่นเสนอพร้อมจับมือเป็นพันธมิตรกับแดนน้ำหอม ขณะที่ผู้นำชาติตะวันตกอื่นๆ เช่น ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ ดูจะพยายามดึงรั้งออลลองด์เอาไว้
“อเมริกามีแผนการระยะยาวและกำลังพยายามครอบครองซีเรียก่อนครอบงำทั้งตะวันออกกลาง ซึ่งจะกระทบกระเทือนทุกประเทศ โดยเฉพาะเตหะรานและมอสโก” อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านกล่าวระหว่างการหารือกับปูติน โดยผู้นำทั้งสองได้พบปะหารือกันข้างเคียง ระหว่างที่มีการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกก๊าซ (จีอีซีเอฟ) ที่กรุงเตหะรานเมื่อวันจันทร์ (23) คาเมเนอียังสำทับว่า วอชิงตันกำลังพยายามบรรลุเป้าหมายทางทหารที่ล้มเหลวในซีเรีย ด้วยวิธีการทางการเมือง ซึ่งเขาหมายถึงการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามกลางเมืองในซีเรีย
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์รายงานโดยอ้างการให้สัมภาษณ์ของโฆษกวังเครมลินว่า ปูติน และคาเมเนอีเห็นพ้องว่า คนนอกไม่ควรเข้าไปบงการกระบวนการทางการเมืองของซีเรีย
ผู้นำสูงสุดของอิหร่านยกย่องปูตินว่า "สกัดแผนการของวอชิงตัน” และเสริมว่า ควรขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างเตหะรานและมอสโกจากระดับปัจจุบัน
สำนักข่าวอนาโดลูของตุรกีเผยแพร่ภาพขณะเครื่องบินขับไล่รัสเซียเกิดเพลิงลุกไหม้ และร่วงลงสู่ภูเขาลูกหนึ่งในเขตแดนของซีเรีย วานนี้ (24 พ.ย. )ทั้งนี้สื่อรัสเซียอ้างถ้อยแถลงจากกระทรวงกลาโหม ซึ่งระบุว่า “ผลของการยิงทำให้เครื่องบินขับไล่ซูคอย Su-24 ลำหนึ่งของเราตกในเขตสาธารณรัฐอาหรับซีเรีย”
ทำเนียบประธานาธิบดีตุรกีระบุในคำแถลงว่า เครื่องบินลำดังกล่าวเป็นรุ่น Su-24 ของกองทัพอากาศรัสเซีย ขณะที่สื่อตุรกีรายงานว่า นักบินคนหนึ่งถูกพวกกบฏในซีเรียจับกุมไว้ได้
รัฐบาลหมีขาวยืนยันว่ามีเครื่องบินของตนถูกยิงตกจริง แต่ยังไม่ทราบชะตากรรมของนักบินทั้งสอง
กองทัพตุรกีอ้างว่า อากาศยานขับไล่ลำนี้ละเมิดน่านฟ้าตุรกีถึง 10 ครั้งในระยะเวลา 5 นาที จนถูกฝูงบินขับไล่ F-16 ยิงตก แต่รัสเซียยืนยันว่า Su-24 ลำดังกล่าวปฏิบัติภารกิจอยู่ในเขตน่านฟ้าซีเรียตลอดเวลา
สถานีโทรทัศน์ ซีเอ็นเอ็น-เติร์ก และเอ็นทีวีของตุรกี รายงานว่า เครื่องบินขับไล่ลำดังกล่าวระเบิดกลางอากาศและร่วงลงสู่ภูเขาลูกหนึ่งในฝั่งซีเรีย ขณะที่สำนักข่าวอนาโตเลียก็ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอกลุ่มควันที่ลอยขึ้นมาจากภูเขาลูกหนึ่ง ห่างชายแดนตุรกีไปแค่ไม่กี่กิโลเมตร
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นระหว่างที่รัสเซียและซีเรียส่งเครื่องบินเข้าไปถล่มฐานที่มั่นกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ทางตอนเหนือของซีเรีย
เจ้าหน้าที่รัฐบาลตุรกียังไม่เปิดเผยรายละเอียดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ระบุว่าจะแจ้งเรื่องนี้ต่อองค์การสหประชาชาติและนาโต
เครื่องบินขับไล่แดนหมีขาวเคยล่วงล้ำน่านฟ้าตุรกีมาแล้ว 2 ครั้งเมื่อเดือนตุลาคม ซึ่งทำให้อังการาเรียกทูตรัสเซียมาประท้วงการละเมิดอธิปไตย
ตุรกีและรัสเซียมีจุดยืนที่ขัดแย้งกันมานานในเรื่องปัญหาซีเรีย โดยอังการานั้นต้องการเห็นประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด สละอำนาจ แต่มอสโกกลับทำทุกอย่างเพื่อช่วย อัสซาด ยื้ออำนาจต่อไป
เมื่อเดือน ต.ค. กองทัพตุรกีอ้างว่าสามารถยิงอากาศยานไร้คนขับของรัสเซียตกหลังถูกรุกล้ำน่านฟ้า แต่ครั้งนั้นมอสโกปฏิเสธว่าไม่ใช่โดรนของตน
เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย มีกำหนดเดินทางเยือนตุรกีในวันนี้ (25) เพื่อกระชับความสัมพันธ์ และแสวงหาแนวทางร่วมกันในการสร้างสันติภาพขึ้นในซีเรีย
จากการรายงานของซีเอ็นเอ็นเติร์กที่เยลาดากี เมืองใกล้ชายแดนตุรกี-ซีเรีย มีการระบุว่า หนึ่งในนักบินรัสเซียของเครื่องบินรบ SU-24 ลำที่ตกบริเวณชายแดนตุรกี-ซีเรีย ได้ถูกควบคุมตัวไว้โดยกลุ่มนักรบชาวเติร์กของฝ่ายต่อต้านอัสซาด พวกเขายังได้ออกตามหาตัวนักบินคนที่สองด้วย
สื่อท้องถิ่นระบุด้วยว่า มีเฮลิคอปเตอร์ของรัสเซียที่ออกตามหานักบินทั้งสอง แต่ถูกกองกำลังนักรบชาวเติร์กขัดขวางไม่ให้ลงจอด
ต่อมาซีเอ็นเอ็นเติร์กได้รายงานการพบศพของนักบินรัสเซีย โดยมีภาพที่ยังไม่ได้รับการตรวจสอบ แสดงให้เห็นถึงศพของนักบิน โดยที่นักวิเคราะห์บอกว่าได้รับรายงานศพนักบินที่เสียชีวิตนั้นอยู่ในมือของกลุ่ม อัลวิยา อัล-อาชาร์ ซึ่งเป็นกลุ่มกบฏต่อต้านรัฐบาลซีเรีย
จาฮีด อาหมัด โฆษกของกลุ่มกบฏซีเรีย ที่อ้างว่าได้ตัวนักบินรัสเซีย ระบุว่า นักบินรัสเซีย 2 คนพยายามจะลงสู่บริเวณพื้นที่ซึ่งอยู่ในการควบคุมของรัฐบาลซีเรียด้วยร่มชูชีพ แต่ถูกยิงโดยสมาชิกในกลุ่มของเขา ทำให้มีหนึ่งรายเสียชีวิต อย่างไรก็ตาม ไม่มีการระบุถึงนักบินอีกราย
สงครามกลางเมืองในซีเรียหวนกลับมาเป็น “สงครามตัวแทน” ระหว่างมหาอำนาจโลกสองค่าย ฝ่ายแรกรัสเซียและอิหร่านร่วมกันสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาดของซีเรีย และอีกฝ่ายคือมหาอำนาจตะวันตกนำโดยสหรัฐฯ ตุรกี และประเทศในอ่าวเปอร์เซีย ที่ต้องการโค่นล้มอัสซาด โดยที่ภายหลังเหตุระเบิดที่ปารีส ขณะที่ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ ออลลองด์ ของฝรั่งเศส เผชิญแรงกดดันให้ต้องปฏิบัติการตอบโต้เล่นงานไอเอสอย่างจริงจังยิ่งขึ้น ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ก็รีบยื่นเสนอพร้อมจับมือเป็นพันธมิตรกับแดนน้ำหอม ขณะที่ผู้นำชาติตะวันตกอื่นๆ เช่น ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ของสหรัฐฯ และนายกรัฐมนตรี เดวิด คาเมรอน ของอังกฤษ ดูจะพยายามดึงรั้งออลลองด์เอาไว้
“อเมริกามีแผนการระยะยาวและกำลังพยายามครอบครองซีเรียก่อนครอบงำทั้งตะวันออกกลาง ซึ่งจะกระทบกระเทือนทุกประเทศ โดยเฉพาะเตหะรานและมอสโก” อยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมเนอี ผู้นำสูงสุดของอิหร่านกล่าวระหว่างการหารือกับปูติน โดยผู้นำทั้งสองได้พบปะหารือกันข้างเคียง ระหว่างที่มีการประชุมกลุ่มประเทศผู้ส่งออกก๊าซ (จีอีซีเอฟ) ที่กรุงเตหะรานเมื่อวันจันทร์ (23) คาเมเนอียังสำทับว่า วอชิงตันกำลังพยายามบรรลุเป้าหมายทางทหารที่ล้มเหลวในซีเรีย ด้วยวิธีการทางการเมือง ซึ่งเขาหมายถึงการเจรจาสันติภาพเพื่อยุติสงครามกลางเมืองในซีเรีย
ขณะเดียวกัน สำนักข่าวอินเตอร์แฟกซ์รายงานโดยอ้างการให้สัมภาษณ์ของโฆษกวังเครมลินว่า ปูติน และคาเมเนอีเห็นพ้องว่า คนนอกไม่ควรเข้าไปบงการกระบวนการทางการเมืองของซีเรีย
ผู้นำสูงสุดของอิหร่านยกย่องปูตินว่า "สกัดแผนการของวอชิงตัน” และเสริมว่า ควรขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างเตหะรานและมอสโกจากระดับปัจจุบัน