เอพี – อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน เข้ารับการผ่าตัดต่อมลูกหมากที่โรงพยาบาลของรัฐในกรุงเตหะราน วันนี้(8)
สื่อรัฐบาลอิหร่านรายงานว่า คอเมเนอี วัย 75 ปี ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้นำสูงสุดของประเทศมาตั้งแต่ปี 1989 และมีอำนาจตัดสินชี้ขาดในกิจการบ้านเมืองทุกเรื่อง มีอาการดีขึ้นหลังเข้ารับการผ่าตัด
อย่างไรก็ตาม ไม่บ่อยนักที่ปัญหาสุขภาพของผู้นำสูงสุดจะถูกเปิดเผยผ่านสื่อของรัฐบาลเช่นนี้
สำนักข่าวไออาร์เอ็นเอ ระบุว่า การผ่าตัด “ตามปกติ” ลุล่วงไปด้วยดี แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพของ คอเมเนอี รวมไปถึงสาเหตุที่ทำให้เขาต้องพึ่งมีดหมอครั้งนี้
คอเมเนอี ได้ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าห้องผ่าตัดว่า “ไม่มีอะไรน่ากังวล” และเป็นเพียงการรักษาตามปกติเหมือนที่เคยผ่านมาแล้ว ขณะที่สถานีโทรทัศน์อิหร่านได้เผยแพร่คลิปวีดีโอที่ผู้นำสูงสุดออกมากล่าวสั้นๆ ให้ประชาชนชาวอิหร่าน “เอาใจช่วย” เขาด้วย
“ไม่มีอะไรต้องกังวล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่า ประชาชนทั้งหลายไม่จำเป็นต้องสวดภาวนาเอาใจช่วย” คอเมเนอี กล่าว
คอเมเนอี เป็นพันธมิตรคนสำคัญของ อยาตอลเลาะห์ รูฮุลเลาะห์ คอเมเนอี ผู้นำการปฏิวัติอิสลามอิหร่านเมื่อปี 1979 และอดีตผู้นำทางจิตวิญญาณสูงสุด ซึ่งถึงแก่กรรมลงในปี 1989
คอเมเนอี นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีอยู่ 8 ปี ก่อนที่จะก้าวสู่ตำแหน่งผู้นำสูงสุดในปี 1989 เขาได้ค้ำชูระบบการปกครองโดยผู้นำทางศาสนาที่ผู้นำสูงสุดคนก่อนได้สร้างเอาไว้อย่างเหนียวแน่น
คอเมเนอี ใช้อำนาจบารมีของเขาสกัดกั้นการก้าวสู่อำนาจของ มีร์ ฮอสเซน มูซาวี ผู้สมัครประธานาธิบดีนักปฏิรูปเมื่อปี 2009 และเมื่อชาวอิหร่านนับแสนออกมาเดินขบวนประท้วงตามท้องถนนและปรามาสด่าทอเขาอย่างไม่เกรงกลัว คอเมเนอี ก็เข้าแทรกแซงสถานการณ์จนปราบพวกที่กระด้างกระเดื่องลงได้
คอเมเนอี ยึดถือนโยบายต่อต้านสหรัฐฯมาโดยตลอด และผลักดันให้อิหร่านเดินหน้ากิจกรรมนิวเคลียร์ท่ามกลางแรงกดดันและมาตรการคว่ำบาตรจากนานาชาติ ในขณะเดียวกันก็พยายามขยายอิทธิพลในตะวันออกกลางผ่านการช่วยเหลือพันธมิตรอย่างซีเรีย และกลุ่มติดอาวุธมุสลิมชีอะห์
คอเมเนอี สนับสนุนการเจรจาระหว่างเตหะรานกับกลุ่มมหาอำนาจ P5+1 จนทั้ง 2 ฝ่ายสามารถทำข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์ชั่วคราวได้เมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว อย่างไรก็ตาม เขาได้แสดงความลังเลสงสัยอย่างชัดเจนว่า ท้ายที่สุดแล้วการเจรจาคงจะ “ไม่คืบหน้าไปไหน”
ทบวงการปรมาณูระหว่างประเทศ (IAEA) พยายามเข้าไปตรวจสอบว่าอิหร่านลักลอบพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์จริงตามที่ชาติตะวันตกสงสัยหรือไม่ ทว่าเตหะรานก็ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ตลอดมา และยืนยันว่าโครงการนิวเคลียร์ของตนมีจุดประสงค์เชิงสันติ เช่น ผลิตไฟฟ้า และใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง เป็นต้น
