ริมฝั่งเจ้าพระยา
โดย...สุนันท์ ศรีจันทรา
คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)เพิ่งแถลงว่า ภายใน 1 ถึง 2 เดือนนี้ จะสรุปผลการตรวจสอบทรัพย์สินและหนี้สินของ 5 รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำข้าวได้ ซึ่งสังคมคงจะติดตามบทสรุปการตรวจสอบทรัพย์สินกันตาไม่กระพริบ
เพราะอยากรู้ว่า ใครมีบัญชีทรัพย์สินงอกเงยมาอย่างไรหรือไม่ จากการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว และรัฐมนตรีคนใดมีเงินมีทรัพย์สินเหลืออยู่เท่าไหร่ เพียงพอชดเชยความเสียหายจากการโกงข้าวได้ขนาดไหน
รัฐมนตรีที่ ป.ป.ช.ตรวจสอบทรัพย์สินทั้ง 5 คนประกอบด้วย นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายยรรยง พวงราช อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์และนายภูมิ สาระผล อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์
โครงการรับจำนำข้าว ถูกระบุว่า เกิดการทุจริตกันมโหฬาร แม้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทั้ง 5 คน จะไม่ถูกข้อหาโกงกันทั้งหมด แต่ก็ถือว่า เป็นรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับโครงการอภิมหาโกง โกงกันตั้งแต่ระดับล่างสุดยันบนสุด จนเงินงบประมาณย่อยยับมากที่สุดเป็นประวัติศาสตร์จำนวนหลายแสนล้านบาท
ไม่รู้ว่าการตรวจสอบบัญชีทรัพย์สิน 5 รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องการทุจริตโครงการรับจำนำข้าวจะลงลึกขนาดไหน ป.ป.ช.ทำหน้าที่เพียงตรวจสอบรวบรวม หรือลงไปถึงขั้นติดตามเส้นทางการเงินด้วย
เพราะโกงกันสะบั่นหั่นแหลกจนเสียหายหลายแสนล้านบาท ถ้าตามไล่ตรวจสอบเส้นทางการเงิน คงได้เบาะแสมัดรัฐมนตรีหน้าขี้โกง
คดีโกงข้าวงวดเข้ามาทุกที รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เร่งรัดขั้นตอนความรับผิดในการชดใช้ความเสียหาย หมายให้เป็นคดีตัวอย่างและเป็นผลงานชิ้นโบแดง ในการเล่นงานนักการเมืองที่โกงชาติ
ประชาชนส่วนใหญ่ก็สนับสนุนรัฐบาลในการเอาผิดคนโกง ทั้งทางแพ่งและอาญา โดยเสียงเรียกร้องให้ใช้มาตรา 44 อายัดทรัพย์นางสาวยิ่งลักษณ์ก็ยังดังก้องอยู่
ส่วนนางสาวยิ่งลักษณ์ก็เล่นบทนางเอก ร้องขอความเป็นธรรมเป็นรายวัน ขณะที่ลูกสมุน ทั้งแกนนำพรรคเพื่อไทยและแกนนำคนเสื้อแดง เรียงหน้าออกมาบิดเบือน เบี่ยงเบนประเด็น เพื่อปกป้อง “นายหญิง” อย่างไร้ยางอาย
โดยเฉพาะการโยงข่าวการทุจริตการสร้างอุทยานราชภักดิ์เข้ามาเกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว
ลูกสมุนนางสาวยิ่งลักษณ์ตัวหัวโจกบางคนระบุว่า การเร่งรัดความรับผิดชอบชดใช้ความเสียหายจากการโกงข้าว เป็นความพยายามสร้างประเด็น เพื่อกลบกระแสข่าวการทุจริตการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์
และคงมีแต่คนโง่เท่านั้นที่เชื่อการแหกตาคำโตของลูกสมุนนางสาวยิ่งลักษณ์
เพราะคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวเกิดขึ้นมาหลายปี ป.ป.ช.ตัดสินความผิดมาเป็นปี และรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ก็เร่งรัดความรับผิดของนักการเมืองที่โกงมานานแล้ว
แต่ประเด็นการทุจริตการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์เพิ่งถูกเปิดเพียงไม่กี่วัน ปากพล่อยแหกตาไปได้อย่างไรว่า รัฐบาลนำคดีโกงข้าวมากลบกรณีอุทยานราชภักดิ์
รู้กันอยู่ว่า คงมีใบสั่งจากต่างประเทศ ขอให้ช่วยนางสาวยิ่งลักษณ์อย่างสุดตัว ทำอย่างไรก็ได้ให้รอดจากคดีโกงข้าว แต่จะเอาโครงการอุทยานราชภักดิ์มาหักล้าง มักง่ายไปหน่อยไหม
ลูกสมุน “ยิ่งลักษณ์” ที่ดาหนักมาสร้างประเด็นแหกตา ทำเหมือนว่า ชาวบ้านโง่กันหมด ไม่คิดหรือว่า ชาวบ้านรู้ทันพวกขี้ข้านายทักษิณ ชินวัตรกันหมดแล้ว
รู้ว่าขี้ข้าพวกนี้มีหน้าที่สร้างข่าวแหกตาไปวันๆ
คดีโกงข้าว มีทางเดียวที่ลูกสมุนจะช่วยนางสาวยิ่งลักษณ์ให้พ้นผิดและพ้นจากความรับผิดชอบได้คือ พรรคเพื่อไทยต้องกลับมาเป็นรัฐบาล
“ทักษิณ” ต้องกลับมามีอำนาจบงการประเทศไทย
แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ พรรคเพื่อไทยจะได้เกิดหรือ
และเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ยังอยู่ จะปล่อยให้นักการเมืองที่ปล้นชาติ ร่วมกันโกงข้าวลอยนวลหรือ
5 รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตโครงการรับจำนำข้าว อยู่ระหว่างการถูกตามแงะบัญชีทรัพย์สิน ใครมีอะไรเท่าไหร่ ป.ป.ช.จะเป็นผู้เปิดตัวเลข และทำให้รัฐบาลทำงานง่ายขึ้น
รัฐมนตรีคนใดเกี่ยวข้างกับการโกงข้าว มีบัญชีทรัพย์สินที่จะสั่งอายัดไว้ก่อนได้ทันที หรือใครผ่องถ่ายทรัพย์สินหนี ก็แจ้งหาข้อเพิ่มได้อีกคดี
รัฐมนตรีที่ร่วมกันโกงข้าว ตามรูปคดีแล้วรอดยาก จะระดมลูกสมุนออกมาช่วยอย่างไรก็ช่วยไม่ไหว ถูกยึดทรัพย์ก็เรื่องหนึ่ง แต่ต้องนอนคุกซิเรื่องใหญ่กว่า
ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนไหนต้องติดคุกมาก่อนเสียด้วย “ยิ่งลักษณ์”สร้างประวัติศาสตร์ใหม่มาแล้ว เป็นนายกฯหญิงคนแรก
และกำลังจะประวัติศาสตร์บทต่อไป ในฐานะนายกฯ ที่ต้องเข้าคุกคนแรก เตือนแล้วจะเจ๊งเพราะ “ข้าว” ไม่เชื่อกันเองนี่