xs
xsm
sm
md
lg

ผวจ.ประจวบฯ ยันเอาผิดเรือปล่อยคราบน้ำมันทั้งแพ่งและอาญา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


ประจวบคีรีขันธ์ - ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ ประชุมสรุปสถานการณ์คราบน้ำมันชายหาดหัวหิน และวนอุทยานปราณบุรี พบไม่มีคราบน้ำมันเข้ามาเพิ่ม แต่ได้สั่งปูพรมตรวจชายหาดตลอดแนว เก็บคราบน้ำมันไปกว่าสถานการณ์จะปกติ พร้อมสั่งสำรวจความเสียหายของภาคเอกชนจากคราบน้ำมัน ลั่นเอาผิดทั้งทางแพ่ง และอาญา เพื่อเป็นคดีตัวอย่าง

วันนี้ (3 พ.ย.) ที่ห้องประชุมสำนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายทวี นริสสิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยรองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายอำเภอหัวหิน รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน พนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน หัวหน้าวนอุทยานปราณบุรี ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมสถานการณ์คราบน้ำมันชายหาดหัวหิน และวนอุทยานปราณบุรี ตั้งแต่วันที่ 27 ต.ค.ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน

ขณะนี้พบว่าบริเวณชายหาดหัวหินไม่มีคราบน้ำมัน และขยะลอยเข้ามาเพิ่มแล้ว แต่บริเวณชายหาดยังมีร่องรอยของคราบน้ำมันปะปนอยู่ในพื้นทราย ซึ่งในขณะนี้ยังมีการระดมเจ้าหน้าที่เก็บทำความสะอาดชายหาดตลอดแนว ส่วนที่วนอุทยานปราณบุรี ยังมีคราบน้ำมันอยู่บางจุดจะเห็นได้ชัดเวลาน้ำลง ซึ่งได้สั่งการให้เจ้าหน้าเร่งเก็บคราบน้ำมันออกจากชายหาด และติดประกาศงดลงเล่นน้ำ ทั้งนี้ มีการประเมินสถานการณ์ว่า ตลอดช่วง 1-2 วันไม่มีคราบน้ำมันเข้ามาเพิ่มคาดว่าคราบน้ำมันในทะเลน่าจะหมดแล้ว เหลือเพียงขยะบางส่วนเท่านั้น

นายทวี นริสศิริกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า แม้สถานการณ์จะดีขึ้นตามลำดับแต่ก็ขอให้มีการจัดเจ้าหน้าที่สำรวจชายหาดตลอดแนวเพื่อเร่งเก็บคราบน้ำมันไปจนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งจะต้องมีการเตรียมแผนฟื้นฟูชายหาดหัวหิน สร้างความเชื่อมั่นให้นักท่องเที่ยว เนื่องจากเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวแล้ว รวมทั้งจะต้องมีการเตรียมแผนรับมือหากมีเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้นมาอีก จะต้องมีคณะทำงาน และมีการเตรียมพร้อมวัสดุ อุปกรณ์ และสารเคมี ตลอดจนการจัดสรรงบประมาณไว้ด้วย

ในส่วนของการดำเนินคดีต่อเรือที่ปล่อยคราบน้ำมันนั้น ทางเทศบาลเมืองหัวหิน เจ้าท่าภูมิภาคสาขาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และวนอุทยานปราณบุรี ได้เข้าแจ้งความเพื่อดำเนินคดีแล้ว ซึ่งได้มีการเร่งรัดให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน เร่งดำเนินคดี ตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานต่างๆ รวมทั้งขอให้สำรวจความเสียหายจากภาคเอกชนที่ได้รับผลกระทบจากคราบน้ำมัน ทั้งโรงแรม รีสอร์ต ร้านอาหารในพื้นที่ เพื่อดำเนินการเอาผิดทั้งทางแพ่ง และอาญา เนื่องจากเหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความเสียหายต่อภาคการท่องเที่ยวจะต้องดำเนินคดีเพื่อเป็นตัวอย่าง ไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก

อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบตัวอย่างคราบน้ำมันเบื้องต้นอย่างไม่เป็นทางการของกรมควบคุมมลพิษ ระบุว่า คราบน้ำมันที่พบที่ชายหาดหัวหินถึงปราณบุรีไม่เป็นอันตราย เพียงแต่เมื่อสัมผัสจะติดตามร่างกาย และล้างออกค่อนข้างยากเท่านั้น



กำลังโหลดความคิดเห็น