xs
xsm
sm
md
lg

ใครทุจริตอุทยานราชภักดิ์

เผยแพร่:   โดย: สุรวิชช์ วีรวรรณ

ห้วงเวลาร่วมสิบปีที่ประชาชนออกมาขับไล่นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งที่คดโกง ประชาชนจำนวนมากตื่นตัวลุกขึ้นใช้สิทธิ์ของตัวเองในระบอบประชาธิปไตยที่มีมากกว่าการเข้าคูหาไปกาบัตรแล้วจบกัน อย่างที่นักประชาธิปไตยนิยมทักษิณเชื่อกัน

สูญเสียความเชื่อมั่นในนักการเมืองที่เข้ามามีอำนาจแล้วทุจริตคอร์รัปชัน ทำให้เรายอมสูญเสียอิสรเสรีภาพชั่วคราวเพื่อให้จัดสรรบ้านเมืองกันใหม่ แม้ผมคิดว่าไม่มีใครชอบเผด็จการ แต่ประชาชนก็มองไม่เห็นทางออกอื่นนอกจากอำนาจของกองทัพนี่แหละที่จะเข้ามาจัดสรรกติกาบ้านเมืองกันใหม่ เพราะเมื่อประชาชนลงมือทำด้วยตัวเองก็ถูกผู้มีอำนาจรัฐปล่อยให้กองกำลังติดอาวุธเข้ามาทำร้ายจนเสียชีวิตจำนวนมาก

รัฐบาลที่ฉ้อโกงปกป้องตัวเองด้วยข้ออ้างว่ามาจากการเลือกตั้ง แต่ทำร้ายประชาชนที่ใช้สิทธิ์ในระบอบประชาธิปไตยออกมาขับไล่ด้วยความตายจากกองกำลังติดอาวุธที่รัฐบาลหนุนหลัง

ประชาชนจึงฝากความหวังไว้กับทหาร โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.

เราพูดกันว่า นักการเมืองเมื่อเข้ามามีอำนาจแล้วโกงไม่ว่าพรรคการเมืองไหน ไม่ว่าทุจริตจำนำข้าวหรือทุจริตโรงพัก

แต่เมื่อไม่กี่วันมานี้เกิดสิ่งที่เราไม่อยากจะเชื่อก็คือ เรื่องอื้อฉาวที่เกิดขึ้นกับการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้กองทัพบกจัดสร้าง “พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระบูรพกษัตริย์แห่งสยาม” พร้อมจัดสร้างอุทยานประวัติศาสตร์

โดยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานชื่อว่า “อุทยานราชภักดิ์” ซึ่งเป็นอุทยานที่สร้างขึ้นด้วยความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ และเพื่อเป็นการเทิดทูนและประกาศเกียรติคุณสมเด็จพระมหากษัตริย์แห่งสยาม 7 พระองค์

โครงการนี้ดำเนินการก่อสร้างในยุคที่พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมและสมาชิก คสช.เป็นผู้บัญชาการทหารบก

เสียงร่ำลือถึงความอื้อฉาวนั้นต่อมาได้รับการยอมรับจากพล.อ.อุดมเดชว่า มีการแอบอ้างและรีดไถจริงแต่ได้นำเงินไปบริจาคแล้ว คำพูดนี้สร้างความกังขาให้กับคนในสังคมทันทีว่า ถ้ารู้ว่ามีคนแอบอ้างไปรีดไถเท่ากับความผิดสำเร็จแล้ว มันจบลงง่ายๆ แค่การนำเงินมาบริจาคหรือ จนกระทั่งพูดเปรียบเปรยกันว่า เหมือนกับโจรไปปล้นเงินแล้วเอาเงินมาคืนไม่มีความผิด

กล่าวกันว่ามีการอ้างใช้งบประมาณในการก่อสร้างพระรูปขององค์บูรพกษัตริย์แพงกว่าราคาสร้างจริงมาก และมีนายทหารอย่างน้อย 2 คนที่เกี่ยวข้องคนหนึ่งหลบหนีไป คนหนึ่งยื่นลาออกจากกองทัพ

ในช่วงแรกผู้สื่อข่าวเอาเรื่องนี้ไปถามพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รมว.กลาโหม และสมาชิก คสช.กลับได้รับคำตอบว่า ไม่มีเจ้าทุกข์จึงดำเนินการอะไรไม่ได้ ทั้งๆ ที่จริงแล้ว กองทัพบกนั่นแหละเป็นเจ้าทุกข์และพล.อ.ประวิตร ก็เป็นผู้บังคับบัญชาของกองทัพบกอีกทีควรจะสั่งการเรื่องนี้ให้ดำเนินการตั้งแต่ต้น

โชคดีที่เมื่อพล.อ.ประวิตรพูดว่า ไม่มีเจ้าทุกข์ในช่วงเช้า ช่วงบ่ายก็มีข่าวจากกองทัพบกว่า พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผู้บัญชาการทหารบก ได้มีคำสั่งให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนขึ้น พร้อมกับประกาศว่า หากใครกระทำผิดจะต้องถูกลงโทษทั้งทางวินัยและอาญา จึงค่อยกู้เกียรติภูมิของกองทัพกลับมาได้ ว่าไม่ได้ปกป้องกันเอง หากกระทำความผิดอย่างที่มีการกล่าวหากันจริง

เวลาต่อมาเมื่อมีใครไปถามเรื่องนี้กับพล.อ.ประวิตร ท่านก็มีคำพูดใหม่ว่า รัฐบาลไม่ได้เกี่ยวข้อง การก่อสร้างไม่ได้ใช้งบประมาณของรัฐ แต่เป็นเงินบริจาค เหมือนกับพยายามจะบอกว่า กรณีไม่ได้มีการคอร์รัปชันงบประมาณของรัฐในการก่อสร้าง เป็นเรื่องที่รัฐบาลไม่เกี่ยว

เหมือนกับไม่รับรู้ว่า การดำเนินการดังกล่าวนั้นกระทำในนามของกองทัพบก ซึ่งเป็นองคาพยพของรัฐบาลและเป็นมือไม้ของ คสช.ในการเข้ามาบริหารประเทศเพื่อจัดสรรกติกาใหม่ของบ้านเมืองที่ประชาชนเบื่อหน่ายกับการทุจริตคอร์รัปชันของนักการเมือง และผู้รับผิดชอบก็เป็นรัฐมนตรีในรัฐบาลและเป็นสมาชิก คสช.

แล้วถามจริงๆ เถอะว่า ถ้าไม่ได้ใช้สถานะของกองทัพ ไม่เพราะกองทัพมีอำนาจอยู่ในปัจจุบัน โครงการนี้จะสามารถดำเนินการได้อย่างง่ายดายและรวดเร็วเช่นนี้หรือไม่

แน่นอนว่า ตอนนี้เรายังไม่สามารถกล่าวหาว่า ใครกระทำผิดบ้าง ยกเว้น “เซียนพระ” คนหนึ่ง ที่พล.อ.อุดมเดชอ้างว่า ไปแอบอ้างรีดไถ ดังนั้นเราควรจะต้องรอการสอบสวนจากกองทัพบกที่เดิมบอกว่าจะสอบสวนให้เสร็จใน 1 สัปดาห์

แต่ก็ต้องตั้งคำถามว่า เราปล่อยให้มีเรื่องอื้อฉาวเกิดขึ้นได้อย่างไร ในวันที่ทหารเข้ามามีอำนาจ และโครงการนี้เป็นโครงการของทหารที่ได้รับพระบรมราชานุญาตให้ดำเนินการ

ถ้าผลสอบสวนออกมาไม่มีคนของกองทัพเข้าไปเกี่ยวข้องกับการแอบอ้างเลยก็เป็นเรื่องที่น่ายินดีครับ ประชาชนจะได้มีความหวังว่า นอกจากเขาไม่สามารถพึ่งพิงนักการเมืองที่ถูกตราหน้าว่าทุจริตคอร์รัปชันในวันที่มีอำนาจแล้ว เขายังจะมีความหวังต่อไปว่า ทหารเป็นที่พึ่งพาของประชาชนได้ แต่ไม่ใช่เอาแต่พูดว่า ไม่มีเจ้าทุกข์ รัฐบาลไม่เกี่ยวข้อง

โครงการนี้มีการให้ข่าวผ่านสื่อมวลชนว่า มีการใช้งบประมาณ 1,000 ล้านบาท ถ้าเป็นไปตามที่มีข่าวว่า งบประมาณที่ใช้ทั้งหมดมาจากการบริจาคก็น่าจะต้องมีตัวเลขที่ชัดเจนออกมาว่า มีใครบริจาคบ้าง เพราะเป็นการบริจาคเข้าบัญชี “กองทุนสวัสดิการกองทัพบก” ภายใต้กองกิจการพลเรือน สำนักกิจการพลเรือน กรมกิจการพลเรือนทหารบก และยังสามารถนำใบเสร็จไปลดหย่อนภาษีได้

ความจริงรายชื่อผู้บริจาคก็มีการนำไปลงไว้ในเว็บไซต์ของสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 เหมือนกัน โดยมีการบริจาคของบุคคลและบริษัทห้างร้านจำนวน 1,288 รายการ แต่มีผู้รวมยอดเงินที่แสดงไว้ได้ในยอดบริจาคนี้เพียง 56 ล้านบาทเท่านั้นยังห่างไกลจากยอดที่อ้างว่าใช้เงินในการก่อสร้างจำนวน 1,000 ล้านบาท แต่อาจจะเป็นเพราะยังลงบัญชีไม่หมด ดังนั้นจึงควรจะนำบัญชีบริจาคทั้งหมดมาแสดง

ถามว่า ในเมื่อเงินทั้งหมดเป็นเงินบริจาค ดังนั้นหากมีการยักยอกเงินบริจาคเกิดขึ้นไม่ถือว่า เป็นการทุจริตเงินของแผ่นดินใช่หรือไม่ ผมคิดว่าเราคงต้องดูนะครับว่า โครงการดังกล่าวดำเนินการโดยหน่วยงานของรัฐใช่หรือไม่ ถ้าใช่เงินที่เขาบริจาคเข้าร่วมโครงการส่วนหนึ่งก็เป็นเงินที่เขาบริจาคให้กับแผ่นดินซึ่งหมายถึงรัฐนั่นเอง ดังนั้นถ้ามีการฉ้อฉลเงินดังกล่าวก็เปรียบเหมือนกับการฉ้อฉลเงินของรัฐนั่นแหละ

อย่างไรก็ตาม ผมดีใจที่พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่า ความเท่าเทียมคือกฎหมายที่ละเว้นไม่ได้แม้แต่รัฐมนตรี ซึ่งเราคงต้องรอดูว่าสุดท้ายจะจบลงอย่างไร
กำลังโหลดความคิดเห็น