ASTVผู้จัดการรายวัน-เนปาลประกาศยุติภารกิจกู้ภัยและค้นหา ปรับเข้าสู่โหมดบรรเทาภัยพิบัติ ด้านทีมไทยแลนด์พร้อมปรับภารกิจตาม ยืนยันอยู่เคียงข้างเนปาลจนถึงที่สุด ระทึกเกิดเหตุแผ่นดินไหวใกล้เกาะยาว พังงา รู้สึกสั่นสะเทือนทั้งภูเก็ต พังงา กระบี่ ชาวบ้านอพยพวุ่น แต่ล่าสุดไม่พบความผิดปกติ ด้านท่าอากาศยานภูเก็ต ยันไม่กระทบ ยังให้บริการได้ตามปกติ
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการประชุมทางไกลผ่านดาวเทียม จากศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี ไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำประเทศเนปาล เพื่อติดตามสถานการณ์และปฏิบัติการของชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล ว่า นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ มล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมแทน เนื่องจากนายกฯ ติดการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทย ได้รายงานว่ารัฐบาลเนปาลประกาศยุติการปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย เพราะคาดว่าโอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตคงมีน้อยมาก และได้เริ่มปฏิบัติการบรรเทาภัยพิบัติแทน
ทั้งนี้ รัฐบาลเนปาลได้แจ้งแนวทางการถอนกำลังทหารต่างชาติออกจากเนปาล โดยให้หน่วยแพทย์ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ใน วันที่ 10 พ.ค. หน่วยกำลังทหารต่างชาติ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 15 พ.ค. ยกเว้นหน่วยบินจะยังคงปฏิบัติภารกิจต่อไป
สำหรับตัวเลขความสูญเสียอย่างเป็นทางการที่ประกาศโดยทางการเนปาล ประกอบด้วย ผู้เสียชีวิต 7,276 ราย ผู้บาดเจ็บ 14,362 ราย บ้านเรือนถูกทำลายทั้งหลัง 200,552 หลัง ได้รับความเสียหายบางส่วน 186,285 หลัง
"เมื่อภารกิจในเนปาลเปลี่ยนแปลงจากค้นหาและกู้ภัย เป็นการบรรเทาภับพิบัติ ความช่วยเหลือจากต่างประเทศจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมและเจตนารมย์ของรัฐบาลเนปาล โดยกระทรวงการต่างประเทศจะจัดประชุมทุกส่วนราชการอีกครั้งในวันศุกร์นี้ เพื่อกำหนดแผนปฏิบัติการของทีมไทยแลนด์ รวมทั้งพิจารณาเรื่องการจัดส่งความช่วยเหลือ เพื่อการบรรเทาภัยพิบัติให้แก่เนปาลอย่างเหมาะสมตามสถานการณ์ โดยยังยืนยันว่าประเทศไทยจะยืนหยัดให้การช่วยเหลือตามหลักการแห่งมนุษยธรรมในเนปาลจนถึงที่สุด"
***แย้มร่วมสมทบเงินบูรณะฟื้นฟู
พ.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า การใช้จ่ายงบประมาณเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวเนปาล เป็นการใช้เงินงบประมาณที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติจำนวน 100 ล้านบาทก่อน ซึ่งถูกเบิกจ่ายและสำรองจ่ายไปจำนวนมากพอสมควรแล้ว ในส่วนการใช้จ่ายเงินจากบัญชีบริจาค หัวใจไทย ส่งไปเนปาล ที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดรับจากพี่น้องประชาชนคนไทย และบริษัทห้างร้าน ซึ่งมียอดจนถึงขณะนี้ 100 ล้านเศษนั้น ที่ประชุมมีการวางแนวทางว่า จะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และส่งถึงพี่น้องชาวเนปาลอย่างตรงความต้องการมากที่สุด โดยนอกจากจะใช้เพื่อการช่วยเหลือด้านการดำรงชีวิตและบรรเทาทุกข์แล้ว มีความเป็นได้ที่จะใช้เงินส่วนนี้ ร่วมสมทบในกองทุนบูรณะและฟื้นฟูโบราณสถาน Reconstruction and Rehabilitation Fund (RRF) ซึ่งรัฐบาลเนปาล กำลังดำเนินการจัดตั้งอย่างเป็นทางการ โดยเบื้องต้นทราบว่า ต้องการเงินประมาณ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และรัฐเนปาลได้อนุมัติงบประมาณเป็นทุนจัดตั้งจำนวน 200 ล้านเหรียญ เนื่องจากโบราณสถานในประเทศ รวมทั้งมรดกโลกถูกทำลายเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้จำนวนไม่น้อย
***"ผบ.สส."พอใจผลงานทหารไทย
พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการปฏิบัติภารกิจของทีมปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล ว่า พอใจการทำงานของชุดทหารที่เดินทางไปช่วยเหลือเนปาลเป็นอย่างมาก ถือว่าเราประสบความสำเร็จ สามารถปฏิบัติการได้รวดเร็วและทันเวลา เพราะเราได้ฝึกมาและปฏิบัติตามที่ฝึก รวมถึงเรื่องอพยพคนออกขาดพื้นที่ที่มีปัญหาด้วย เราดูแลอย่างดี ชุดทหารของไทยที่ไปเนปาลทุกชุดปฏิบัติภารกิจได้อย่างสมบูรณ์ และน่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง
***ระทึกแผ่นดินไหวตอนใต้เกาะยาวพังงา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 04.18 น. ของวันที่ 6 พ.ค. ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 4.6 ความลึก 10 กิโลเมตรบริเวณตอนใต้เกาะยาว จ.พังงา ทางทิศตะวันออกของเกาะภูเก็ต ห่างจากภูเก็ตประมาณ 18 กิโลเมตร รู้สึกสั่นไหวหลายพื้นที่ใน จ.ภูเก็ต พังงา และกระบี่ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ประชาชนในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ส่วนใหญ่รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนระยะประมาณ 5-10 วินาที
สำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าว ทำให้ประชาชนจำนวนมากต่างก็ตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนมีการแชร์ข้อความเพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเฟซบุ๊ก ในไลน์ และช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ซึ่งเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ ประชาชนรู้สึกได้ถึงความแรงของการสั่นสะเทือนมากกว่าแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2558 ซึ่งเกิดเหตุแผ่นดินไหวใกล้กับภูเก็ต และยังทำให้ชาวบ้านชาวไทยใหม่ บ้านแหลมตุ๊กแก ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดทะเล และเคยได้รับความเสียหายจากเหตุการสึนามิถล่ม เมื่อปี 2547 ได้ออกมารวมตัวกันที่กลางหมู่บ้าน และอพยพไปหลบภัยที่โรงเรียนบ้านเกาะสิเหร่ ก่อนที่จะอพยพกลับไปพักผ่อนที่บ้านเรือนของตัวเองตามปกติ หลังมีการสอบถามไปยังศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และได้รับการยืนยันว่าไม่มีสึนามิเกิดขึ้น
***ชาวบ้านรีบอพยพเพื่อความปลอดภัย
นายวิรัช ประมงกิจ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า ขณะที่เกิดแผ่นไหว ชาวไทยใหม่บ้านเกาะสิเหร่ ที่นอนอยู่ภายในบ้านทุกหลังรู้สึกได้ โดยในครั้งนี้แรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาวบ้านทุกคนได้อพยพหนีไปอยู่ที่โรงเรียนบ้านเกาะสิเหร่ เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากเกรงจะเกิดสึนามิ หลังจากนั้นตนเองได้โทร.ไปสอบถามที่ศูนย์เตือนภัยฯ ทางศูนย์ฯ บอกว่า ไม่ต้องกลัว เนื่องจากทางศูนย์ฯ ไม่ได้ประกาศให้อพยพ และเตือนภัยสึนามิ หลังจากได้รับการยืนยัน ตนและชาวบ้านก็ได้กลับเข้าหมู่บ้านตามปกติ แต่ยังคงเฝ้าระดับน้ำทะเลอย่างใกล้ชิด ถ้าเกิดระดับน้ำผิดปกติก็จะอพยพชาวบ้านไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยทันที
นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ได้ประสานไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน โดยเฉพาะริมทะเล ให้ตรวจสอบระดับน้ำ และความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด และยังได้สั่งการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยภูเก็ต ให้ติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายเกิดขึ้นแต่อย่างใด และระดับน้ำยังคงปกติ ไม่มีการประกาศเตือนสินามิ
***ท่าอากาศยานภูเก็ตไม่กระทบ
นายธานี ช่วงชู รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้หลายพื้นที่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ ในส่วนของท่าอากาศยานภูเก็ตเองหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวก็ได้ตรวจสอบภายในอาคาร รวมทั้งรันเวย์ และอื่นๆ พบว่า ทุกอยากปกติ เครื่องบินสามารถขึ้นลงได้ตามปกติ และยืนยันได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อทางสนามบินแต่อย่างใด
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการประชุมทางไกลผ่านดาวเทียม จากศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี ไปยังสถานเอกอัครราชทูตไทย ประจำประเทศเนปาล เพื่อติดตามสถานการณ์และปฏิบัติการของชุดช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล ว่า นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้ มล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมแทน เนื่องจากนายกฯ ติดการประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ ซึ่งสถานเอกอัครราชทูตไทย ได้รายงานว่ารัฐบาลเนปาลประกาศยุติการปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย เพราะคาดว่าโอกาสที่จะพบผู้รอดชีวิตคงมีน้อยมาก และได้เริ่มปฏิบัติการบรรเทาภัยพิบัติแทน
ทั้งนี้ รัฐบาลเนปาลได้แจ้งแนวทางการถอนกำลังทหารต่างชาติออกจากเนปาล โดยให้หน่วยแพทย์ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ใน วันที่ 10 พ.ค. หน่วยกำลังทหารต่างชาติ ยุติการปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 15 พ.ค. ยกเว้นหน่วยบินจะยังคงปฏิบัติภารกิจต่อไป
สำหรับตัวเลขความสูญเสียอย่างเป็นทางการที่ประกาศโดยทางการเนปาล ประกอบด้วย ผู้เสียชีวิต 7,276 ราย ผู้บาดเจ็บ 14,362 ราย บ้านเรือนถูกทำลายทั้งหลัง 200,552 หลัง ได้รับความเสียหายบางส่วน 186,285 หลัง
"เมื่อภารกิจในเนปาลเปลี่ยนแปลงจากค้นหาและกู้ภัย เป็นการบรรเทาภับพิบัติ ความช่วยเหลือจากต่างประเทศจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมและเจตนารมย์ของรัฐบาลเนปาล โดยกระทรวงการต่างประเทศจะจัดประชุมทุกส่วนราชการอีกครั้งในวันศุกร์นี้ เพื่อกำหนดแผนปฏิบัติการของทีมไทยแลนด์ รวมทั้งพิจารณาเรื่องการจัดส่งความช่วยเหลือ เพื่อการบรรเทาภัยพิบัติให้แก่เนปาลอย่างเหมาะสมตามสถานการณ์ โดยยังยืนยันว่าประเทศไทยจะยืนหยัดให้การช่วยเหลือตามหลักการแห่งมนุษยธรรมในเนปาลจนถึงที่สุด"
***แย้มร่วมสมทบเงินบูรณะฟื้นฟู
พ.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า การใช้จ่ายงบประมาณเพื่อช่วยเหลือพี่น้องชาวเนปาล เป็นการใช้เงินงบประมาณที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติจำนวน 100 ล้านบาทก่อน ซึ่งถูกเบิกจ่ายและสำรองจ่ายไปจำนวนมากพอสมควรแล้ว ในส่วนการใช้จ่ายเงินจากบัญชีบริจาค หัวใจไทย ส่งไปเนปาล ที่สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดรับจากพี่น้องประชาชนคนไทย และบริษัทห้างร้าน ซึ่งมียอดจนถึงขณะนี้ 100 ล้านเศษนั้น ที่ประชุมมีการวางแนวทางว่า จะต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ และส่งถึงพี่น้องชาวเนปาลอย่างตรงความต้องการมากที่สุด โดยนอกจากจะใช้เพื่อการช่วยเหลือด้านการดำรงชีวิตและบรรเทาทุกข์แล้ว มีความเป็นได้ที่จะใช้เงินส่วนนี้ ร่วมสมทบในกองทุนบูรณะและฟื้นฟูโบราณสถาน Reconstruction and Rehabilitation Fund (RRF) ซึ่งรัฐบาลเนปาล กำลังดำเนินการจัดตั้งอย่างเป็นทางการ โดยเบื้องต้นทราบว่า ต้องการเงินประมาณ 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ และรัฐเนปาลได้อนุมัติงบประมาณเป็นทุนจัดตั้งจำนวน 200 ล้านเหรียญ เนื่องจากโบราณสถานในประเทศ รวมทั้งมรดกโลกถูกทำลายเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนี้จำนวนไม่น้อย
***"ผบ.สส."พอใจผลงานทหารไทย
พล.อ.วรพงษ์ สง่าเนตร ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.สส.) กล่าวถึงความคืบหน้าการปฏิบัติภารกิจของทีมปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล ว่า พอใจการทำงานของชุดทหารที่เดินทางไปช่วยเหลือเนปาลเป็นอย่างมาก ถือว่าเราประสบความสำเร็จ สามารถปฏิบัติการได้รวดเร็วและทันเวลา เพราะเราได้ฝึกมาและปฏิบัติตามที่ฝึก รวมถึงเรื่องอพยพคนออกขาดพื้นที่ที่มีปัญหาด้วย เราดูแลอย่างดี ชุดทหารของไทยที่ไปเนปาลทุกชุดปฏิบัติภารกิจได้อย่างสมบูรณ์ และน่าชื่นชมเป็นอย่างยิ่ง
***ระทึกแผ่นดินไหวตอนใต้เกาะยาวพังงา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 04.18 น. ของวันที่ 6 พ.ค. ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหวในทะเล ขนาด 4.6 ความลึก 10 กิโลเมตรบริเวณตอนใต้เกาะยาว จ.พังงา ทางทิศตะวันออกของเกาะภูเก็ต ห่างจากภูเก็ตประมาณ 18 กิโลเมตร รู้สึกสั่นไหวหลายพื้นที่ใน จ.ภูเก็ต พังงา และกระบี่ ซึ่งเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ประชาชนในพื้นที่ จ.ภูเก็ต ส่วนใหญ่รู้สึกได้ถึงแรงสั่นสะเทือนระยะประมาณ 5-10 วินาที
สำหรับเหตุการณ์แผ่นดินไหวดังกล่าว ทำให้ประชาชนจำนวนมากต่างก็ตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจนมีการแชร์ข้อความเพื่อสอบถามถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งในเฟซบุ๊ก ในไลน์ และช่องทางการสื่อสารอื่นๆ ซึ่งเหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ ประชาชนรู้สึกได้ถึงความแรงของการสั่นสะเทือนมากกว่าแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2558 ซึ่งเกิดเหตุแผ่นดินไหวใกล้กับภูเก็ต และยังทำให้ชาวบ้านชาวไทยใหม่ บ้านแหลมตุ๊กแก ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่อยู่ติดทะเล และเคยได้รับความเสียหายจากเหตุการสึนามิถล่ม เมื่อปี 2547 ได้ออกมารวมตัวกันที่กลางหมู่บ้าน และอพยพไปหลบภัยที่โรงเรียนบ้านเกาะสิเหร่ ก่อนที่จะอพยพกลับไปพักผ่อนที่บ้านเรือนของตัวเองตามปกติ หลังมีการสอบถามไปยังศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ และได้รับการยืนยันว่าไม่มีสึนามิเกิดขึ้น
***ชาวบ้านรีบอพยพเพื่อความปลอดภัย
นายวิรัช ประมงกิจ ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.4 ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต กล่าวว่า ขณะที่เกิดแผ่นไหว ชาวไทยใหม่บ้านเกาะสิเหร่ ที่นอนอยู่ภายในบ้านทุกหลังรู้สึกได้ โดยในครั้งนี้แรงกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา ส่งผลให้ชาวบ้านทุกคนได้อพยพหนีไปอยู่ที่โรงเรียนบ้านเกาะสิเหร่ เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากเกรงจะเกิดสึนามิ หลังจากนั้นตนเองได้โทร.ไปสอบถามที่ศูนย์เตือนภัยฯ ทางศูนย์ฯ บอกว่า ไม่ต้องกลัว เนื่องจากทางศูนย์ฯ ไม่ได้ประกาศให้อพยพ และเตือนภัยสึนามิ หลังจากได้รับการยืนยัน ตนและชาวบ้านก็ได้กลับเข้าหมู่บ้านตามปกติ แต่ยังคงเฝ้าระดับน้ำทะเลอย่างใกล้ชิด ถ้าเกิดระดับน้ำผิดปกติก็จะอพยพชาวบ้านไปอยู่ในที่ที่ปลอดภัยทันที
นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า ได้ประสานไปยังกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านทุกหมู่บ้าน โดยเฉพาะริมทะเล ให้ตรวจสอบระดับน้ำ และความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างใกล้ชิด และยังได้สั่งการสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยภูเก็ต ให้ติดตามเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด ซึ่งจนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานความเสียหายเกิดขึ้นแต่อย่างใด และระดับน้ำยังคงปกติ ไม่มีการประกาศเตือนสินามิ
***ท่าอากาศยานภูเก็ตไม่กระทบ
นายธานี ช่วงชู รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานภูเก็ต กล่าวว่า เหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งนี้ทำให้หลายพื้นที่รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนได้ ในส่วนของท่าอากาศยานภูเก็ตเองหลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวก็ได้ตรวจสอบภายในอาคาร รวมทั้งรันเวย์ และอื่นๆ พบว่า ทุกอยากปกติ เครื่องบินสามารถขึ้นลงได้ตามปกติ และยืนยันได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ส่งผลกระทบต่อทางสนามบินแต่อย่างใด