ASTVผู้จัดการรายวัน-พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์แก่ผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต จากเหตุระเบิดสี่แยกราชประสงค์ ขณะที่สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ ทรงมอบกระเช้าพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงมอบของเยี่ยม "ประยุทธ์"ยันรัฐบาลดูแลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตเต็มที่ พร้อมมอบ "วิษณุ" ทำบุญ 5 ศาสนาให้แก่ผู้เสียชีวิตในเหตุระเบิดวันนี้
ผู้สี่อข่าวรายงานว่า สำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวัง โดยนายกฤษณ์ กาญจนากุญชร ราชเลขาธิการ ได้มีหนังสือแจ้งไปยังนายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระมหากรุณาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2558 ที่ผ่านมา โดยพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ค่ารักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บในส่วนที่ไม่สามารถเบิกตามสิทธิได้ และค่าใช้จ่ายในการจัดการศพผู้เสียชีวิตรายละ 90,000 บาท
ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีเชิญดอกไม้พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ไปมอบแก่ผู้บาดเจ็บในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย
***"พระบรม"ทรงมอบกระเช้าผู้บาดเจ็บ
วันเดียวกันนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พล.อ.อ.โยธิน ประยูรโภคราช เป็นผู้แทนพระองค์ มอบกระเช้าพระราชทานแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์
***"พระเทพฯ"ทรงมอบของเยี่ยม
ที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นพ.แผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์ นำของเยี่ยมพระราชทานแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ประสบเหตุดังกล่าว
***พระราชทานดอกไม้ครอบครัว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานเงินเยียวยาด้วย โดยรับสั่งผ่านราชเลขาธิการให้รัฐบาลดูแลเรื่องนี้ และพระราชทานเงินให้คนไทยที่ได้รับผลกระทบอีกรายละ 9 หมื่นบาท เหมือนครั้งที่แล้ว เนื่องจากพระองค์ท่านทรงเป็นห่วงว่าเงินเยียวยาอาจจะไม่เพียงพอ
นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานดอกไม้แสดงความเสียใจ และให้เอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศดำเนินการมอบให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ถือเป็นน้ำพระทัยที่พระองค์ทรงมีกับประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชนไทย รวมทั้งชาวต่างชาติ ที่พระองค์ทรงเป็นห่วง ดังนั้น สิ่งดีๆ ก็ให้ระลึกถึงพระองค์ท่านบ้าง และอย่าทำอะไรให้เกิดความเสียหาย
***มอบ"วิษณุ"เป็นประธานทำบุญ5ศาสนา
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับการเยียวยาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินเยียวยา 1 แสนบาท ขณะที่ชาวต่างชาติ ยังมีกองทุนที่ตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลนักท่องเที่ยวในขณะที่บ้านเมืองยังไม่เรียบร้อย เพราะบริษัทประกันไม่รับทำประกัน จึงต้องตั้งกองทุนมาดูแล และเมื่อมีกองทุน ต่างชาติก็เข้ามาจำนวนมาก แต่ตนไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องลักษณะนี้ขึ้นจากคนใจร้ายไม่ใช่คน รัฐบาลไม่อยากใช้เงินกองทุนนี้เลย แต่ก็ต้องใช้ โดยจะจ่ายให้ชาวต่างชาติรายละ 3 แสน ขณะเดียวกันทางบริษัทการบินไทย จะบริการส่งศพผู้เสียชีวิต และค่าเดินทางสำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บ ยืนยันว่ารัฐบาลดูแลทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปร่วมงานพิธีบำเพ็ญกุศล 5 ศาสนาให้แก่ผู้เสียชีวิตในเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ ในวันนี้ (21 ส.ค.) โดยหวังเรียกขวัญและกำลังใจประชาชนกลับคืนมา
***มส.จัดสวดมนต์อุทิศผู้เสียชีวิต
ที่หอประชุมสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม พระพรหมเมธี กรรมการและโฆษกมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวว่า ที่ประชุม มส. ซึ่งมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธาน ได้มีมติให้คณะสงฆ์จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตภาวนาอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์ และสร้างขวัญกำลังใจแก่ประชาชน ผู้ประกอบการต่างๆ ที่อาศัยอยู่โดยรอบพื้นที่ ในวันที่ 24 ส.ค.นี้ โดยมีกรรมการ มส. 4 รูป ประกอบด้วย พระพรหมสิทธิ พระพรหมดิลก พระพรหมเสนาบดี และพระพรหมเมธี เป็นผู้นำคณะสงฆ์ 37 รูป และประชาชนสวดมนต์ ซึ่งพิธีจะเริ่มตั้งแต่เวลา 18.39 น. ที่บริเวณหน้าโรงแรมอัมรินทร์พลาซ่า จากนั้นจะมีพิธีบังสกุลที่บริเวณองค์ศาลพระพรหมต่อไป
*** เปิดบัญชีบริจาคช่วยเหยื่อบึ้ม
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี จากเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์จากประชาชนและองค์กรทั่วไป ผ่านทางบัญชีธนาคาร กรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล เลขที่บัญชี 067-0-06895-0 รวมทั้งยังสามารถร่วมบริจาคสมทบทุนด้วยตนเองได้ที่ทำเนียบรัฐบาล
***รพ.ตร.เปิดเว็บไซต์รวมข้อมูลช่วยเหลือ
ที่โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.อ.ชัยยง กีรติขจร ที่ปรึกษา (สบ.10) พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิฑูรย์ นิติวรางกูร รองนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ พ.ต.อ.วิโรจน์ ลาภไพบูรณ์พงศ์ ผอ.ศูนย์คอมพิวเตอร์ (CTC) รพ.ตำรวจ พ.ต.อ.วิรุฬห์ ศุภสิงห์ศิริปรีชา นายแพทย์ (สบ.5) กลุ่มงานนิติพยาธิ และนายสุริยะ เจริญผล ล่ามภาษาจีน ร่วมแถลงข่าวจัดตั้งศูนย์อำนวยการบริหารข้อมูลการส่งกลับ และรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต จากเหตุระเบิดที่บริเวณศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงเว็บไซต์โรงพยาบาลตำรวจได้เปิดให้ประชาชนตรวจสอบรายชื่อและข้อมูลการดำเนินการ รวมถึงการเยียวยา ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต โดยจะมีทั้ง 3 ภาษา คือ ภาษาไทย ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ ทาง www.pgh.go.th/ratchaprasong_tragedy หรือ เข้าเว็บไซต์ google พิมพ์โรงพยาบาลตำรวจ และคลิกที่แบนเนอร์ "ตรวจสอบรายชื่อผู้ประสบเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์" เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่หน้าเว็บเพจได้ทันที
***ยังไม่ยืนยันอัตลักษณ์อีก2ราย
นพ.พิทักษ์พล บุณยมาลิก ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมทางไกลผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าและช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุการณ์ระเบิดแยกราชประสงค์ ว่า จากการพิสูจน์อัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิตในเหตุระเบิดจำนวน 20 ราย โดยสำนักงานนิติเวชศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ยืนยันว่าในจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นชาวไทย 6 ราย มาเลเซีย 5 ราย จีน 5 ราย ฮ่องกง 2 ราย สิงคโปร์ 1 ราย อินโดนีเซีย 1 ราย และยังมีชิ้นส่วนมนุษย์ที่รอการพิสูจน์ อีก 2 ชิ้น ซึ่งขณะนี้มีญาติมารับศพแล้วจำนวน 10 ศพ
ส่วนผู้บาดเจ็บขณะนี้ ยังมีผู้รักษาตัวอยู่ในรพ.อีก 67 ราย ในจำนวนนี้บาดเจ็บทั่วไป 55 ราย อยู่ในไอ.ซี.ยู. 12 รายเป็นชาวต่างชาติ 7 ราย คนไทย 5 ราย
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในส่วนของผู้ที่เสียชีวิต 20 ราย ได้มีการติดต่อญาติ เพื่อให้มายื่นเอกสารหลักฐานแล้ว 16 ราย โดยมีการจ่ายเงินช่วยเหลือแล้ว 9 ราย ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้ติดต่อมายื่นเอกสารแล้ว 70 ราย และได้มีการจ่ายเงินช่วยเหลือไปบางส่วนแล้ว
สำหรับการรักษาพยาบาล ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข ยอดผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ มีการออกจากโรงพยาบาลแล้ว 56 ราย คงเหลือรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่างๆ 67 ราย โดยผู้ที่เสียชีวิต ได้มีการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้วเป็นส่วนใหญ่ เหลือเพียง 2 ราย ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ จึงขอความร่วมมือให้ผู้ที่สงสัยว่าจะเป็นญาติของตนเอง ให้ติดต่อกับโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม
ผู้สี่อข่าวรายงานว่า สำนักราชเลขาธิการ พระบรมมหาราชวัง โดยนายกฤษณ์ กาญจนากุญชร ราชเลขาธิการ ได้มีหนังสือแจ้งไปยังนายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระมหากรุณาแก่ผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุระเบิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.2558 ที่ผ่านมา โดยพระราชทานพระบรมราชานุเคราะห์ค่ารักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บในส่วนที่ไม่สามารถเบิกตามสิทธิได้ และค่าใช้จ่ายในการจัดการศพผู้เสียชีวิตรายละ 90,000 บาท
ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้องคมนตรีเชิญดอกไม้พระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ไปมอบแก่ผู้บาดเจ็บในเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย
***"พระบรม"ทรงมอบกระเช้าผู้บาดเจ็บ
วันเดียวกันนี้ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฏราชกุมาร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พล.อ.อ.โยธิน ประยูรโภคราช เป็นผู้แทนพระองค์ มอบกระเช้าพระราชทานแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์
***"พระเทพฯ"ทรงมอบของเยี่ยม
ที่ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ นพ.แผน วรรณเมธี เลขาธิการสภากาชาดไทย เป็นผู้แทนพระองค์ นำของเยี่ยมพระราชทานแก่ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุระเบิดบริเวณแยกราชประสงค์ เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้แก่ผู้ประสบเหตุดังกล่าว
***พระราชทานดอกไม้ครอบครัว
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้พระราชทานเงินเยียวยาด้วย โดยรับสั่งผ่านราชเลขาธิการให้รัฐบาลดูแลเรื่องนี้ และพระราชทานเงินให้คนไทยที่ได้รับผลกระทบอีกรายละ 9 หมื่นบาท เหมือนครั้งที่แล้ว เนื่องจากพระองค์ท่านทรงเป็นห่วงว่าเงินเยียวยาอาจจะไม่เพียงพอ
นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานดอกไม้แสดงความเสียใจ และให้เอกอัครราชทูตไทยในต่างประเทศดำเนินการมอบให้แก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต ถือเป็นน้ำพระทัยที่พระองค์ทรงมีกับประเทศชาติบ้านเมืองและประชาชนไทย รวมทั้งชาวต่างชาติ ที่พระองค์ทรงเป็นห่วง ดังนั้น สิ่งดีๆ ก็ให้ระลึกถึงพระองค์ท่านบ้าง และอย่าทำอะไรให้เกิดความเสียหาย
***มอบ"วิษณุ"เป็นประธานทำบุญ5ศาสนา
พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า สำหรับการเยียวยาผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยผู้เสียชีวิตจะได้รับเงินเยียวยา 1 แสนบาท ขณะที่ชาวต่างชาติ ยังมีกองทุนที่ตั้งขึ้นมาเพื่อดูแลนักท่องเที่ยวในขณะที่บ้านเมืองยังไม่เรียบร้อย เพราะบริษัทประกันไม่รับทำประกัน จึงต้องตั้งกองทุนมาดูแล และเมื่อมีกองทุน ต่างชาติก็เข้ามาจำนวนมาก แต่ตนไม่เคยคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องลักษณะนี้ขึ้นจากคนใจร้ายไม่ใช่คน รัฐบาลไม่อยากใช้เงินกองทุนนี้เลย แต่ก็ต้องใช้ โดยจะจ่ายให้ชาวต่างชาติรายละ 3 แสน ขณะเดียวกันทางบริษัทการบินไทย จะบริการส่งศพผู้เสียชีวิต และค่าเดินทางสำหรับผู้ได้รับบาดเจ็บ ยืนยันว่ารัฐบาลดูแลทั้งหมด
ขณะเดียวกัน ได้มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี และ ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ไปร่วมงานพิธีบำเพ็ญกุศล 5 ศาสนาให้แก่ผู้เสียชีวิตในเหตุระเบิดแยกราชประสงค์ ในวันนี้ (21 ส.ค.) โดยหวังเรียกขวัญและกำลังใจประชาชนกลับคืนมา
***มส.จัดสวดมนต์อุทิศผู้เสียชีวิต
ที่หอประชุมสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม พระพรหมเมธี กรรมการและโฆษกมหาเถรสมาคม (มส.) กล่าวว่า ที่ประชุม มส. ซึ่งมีสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช เป็นประธาน ได้มีมติให้คณะสงฆ์จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เจริญจิตภาวนาอุทิศส่วนกุศลให้แก่ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ระเบิดที่บริเวณแยกราชประสงค์ และสร้างขวัญกำลังใจแก่ประชาชน ผู้ประกอบการต่างๆ ที่อาศัยอยู่โดยรอบพื้นที่ ในวันที่ 24 ส.ค.นี้ โดยมีกรรมการ มส. 4 รูป ประกอบด้วย พระพรหมสิทธิ พระพรหมดิลก พระพรหมเสนาบดี และพระพรหมเมธี เป็นผู้นำคณะสงฆ์ 37 รูป และประชาชนสวดมนต์ ซึ่งพิธีจะเริ่มตั้งแต่เวลา 18.39 น. ที่บริเวณหน้าโรงแรมอัมรินทร์พลาซ่า จากนั้นจะมีพิธีบังสกุลที่บริเวณองค์ศาลพระพรหมต่อไป
*** เปิดบัญชีบริจาคช่วยเหยื่อบึ้ม
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สำนักนายกรัฐมนตรี ได้เปิดกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบสาธารณภัยสำนักนายกรัฐมนตรี จากเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์จากประชาชนและองค์กรทั่วไป ผ่านทางบัญชีธนาคาร กรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล เลขที่บัญชี 067-0-06895-0 รวมทั้งยังสามารถร่วมบริจาคสมทบทุนด้วยตนเองได้ที่ทำเนียบรัฐบาล
***รพ.ตร.เปิดเว็บไซต์รวมข้อมูลช่วยเหลือ
ที่โรงพยาบาลตำรวจ พล.ต.อ.ชัยยง กีรติขจร ที่ปรึกษา (สบ.10) พร้อมด้วย พล.ต.ต.วิฑูรย์ นิติวรางกูร รองนายแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจ พ.ต.อ.วิโรจน์ ลาภไพบูรณ์พงศ์ ผอ.ศูนย์คอมพิวเตอร์ (CTC) รพ.ตำรวจ พ.ต.อ.วิรุฬห์ ศุภสิงห์ศิริปรีชา นายแพทย์ (สบ.5) กลุ่มงานนิติพยาธิ และนายสุริยะ เจริญผล ล่ามภาษาจีน ร่วมแถลงข่าวจัดตั้งศูนย์อำนวยการบริหารข้อมูลการส่งกลับ และรักษาพยาบาลผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต จากเหตุระเบิดที่บริเวณศาลท้าวมหาพรหม แยกราชประสงค์ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา รวมถึงเว็บไซต์โรงพยาบาลตำรวจได้เปิดให้ประชาชนตรวจสอบรายชื่อและข้อมูลการดำเนินการ รวมถึงการเยียวยา ผู้บาดเจ็บและผู้เสียชีวิต โดยจะมีทั้ง 3 ภาษา คือ ภาษาไทย ภาษาจีน และภาษาอังกฤษ ทาง www.pgh.go.th/ratchaprasong_tragedy หรือ เข้าเว็บไซต์ google พิมพ์โรงพยาบาลตำรวจ และคลิกที่แบนเนอร์ "ตรวจสอบรายชื่อผู้ประสบเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์" เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่หน้าเว็บเพจได้ทันที
***ยังไม่ยืนยันอัตลักษณ์อีก2ราย
นพ.พิทักษ์พล บุณยมาลิก ผู้ช่วยปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวภายหลังการประชุมทางไกลผ่านระบบวีดิโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วมกับศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามความคืบหน้าและช่วยเหลือผู้ประสบภัยเหตุการณ์ระเบิดแยกราชประสงค์ ว่า จากการพิสูจน์อัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิตในเหตุระเบิดจำนวน 20 ราย โดยสำนักงานนิติเวชศาสตร์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ยืนยันว่าในจำนวนผู้เสียชีวิตเป็นชาวไทย 6 ราย มาเลเซีย 5 ราย จีน 5 ราย ฮ่องกง 2 ราย สิงคโปร์ 1 ราย อินโดนีเซีย 1 ราย และยังมีชิ้นส่วนมนุษย์ที่รอการพิสูจน์ อีก 2 ชิ้น ซึ่งขณะนี้มีญาติมารับศพแล้วจำนวน 10 ศพ
ส่วนผู้บาดเจ็บขณะนี้ ยังมีผู้รักษาตัวอยู่ในรพ.อีก 67 ราย ในจำนวนนี้บาดเจ็บทั่วไป 55 ราย อยู่ในไอ.ซี.ยู. 12 รายเป็นชาวต่างชาติ 7 ราย คนไทย 5 ราย
พ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวว่า การช่วยเหลือผู้ที่ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในส่วนของผู้ที่เสียชีวิต 20 ราย ได้มีการติดต่อญาติ เพื่อให้มายื่นเอกสารหลักฐานแล้ว 16 ราย โดยมีการจ่ายเงินช่วยเหลือแล้ว 9 ราย ส่วนผู้ที่ได้รับบาดเจ็บได้ติดต่อมายื่นเอกสารแล้ว 70 ราย และได้มีการจ่ายเงินช่วยเหลือไปบางส่วนแล้ว
สำหรับการรักษาพยาบาล ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาสาธารณภัยด้านการแพทย์และสาธารณสุข ยอดผู้ที่ได้รับบาดเจ็บ มีการออกจากโรงพยาบาลแล้ว 56 ราย คงเหลือรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่างๆ 67 ราย โดยผู้ที่เสียชีวิต ได้มีการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้วเป็นส่วนใหญ่ เหลือเพียง 2 ราย ที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ จึงขอความร่วมมือให้ผู้ที่สงสัยว่าจะเป็นญาติของตนเอง ให้ติดต่อกับโรงพยาบาลตำรวจ เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติม