ASTVผู้จัดการรายวัน-"ประวุฒิ"เผยได้ประสานสถานทูตตุรกีช่วยตรวจสอบพาสปอร์ตที่ยึดได้ พร้อมช่วยตามตัว "ไมซาเราะห์" และสามี รับยังตามตัว "ไอ้อ๊อด" และต่างชาติต้องสงสัยที่ศาลทหารยังไม่เจอ ส่วนการตรวจเส้นทางเงิน ยังเปิดเผยไม่ได้ แต่คาดสรุปสำนวนคดีบึ้มราชประสงค์และท่าเรือสาทรได้เร็วๆ นี้ ด้านแกนนำกลุ่มอุยกูร์พลัดถิ่นเผยรัฐบาลไทยส่งชาวอุยกูร์กลับจีน อาจเป็นต้นเหตุทำให้ต้องวางระเบิด
พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามตัวผู้ต้องหาคดีเบิดแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ว่า มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยจากการประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ ล่าสุดได้ส่งหนังสือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และประสานต่อไปยังสถานทูตตุรกีประจำประเทศไทย และสถานทูตไทยประจำตุรกีแล้ว เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบเกี่ยวกับการตรวจสอบหนังสือเดินทางจำนวนมาก ที่ตรวจยึดในที่อพาร์ตเมนต์ที่ผู้ต้องหาพักอาศัย รวมถึงการติดตามตัว นายอิซาน น.ส.วรรณา สวนสัน หรือไมซาเราะห์ และสามี ที่มีข้อมูลว่า หลบหนีไปยังประเทศตุรกี ซึ่งคาดว่าภายใน 2-3 วัน จะมีความชัดเจนมากขึ้น
ทั้งนี้ ยอมรับว่าการติดตามตัวผู้ต้องหาในคดีนี้ มีความยาก เพราะส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ไม่มีครอบครัวในไทย เข้าประเทศไทยในระยะเวลาสั้นๆ จึงต้องใช้ช่องทางทางการทูตและตำรวจสากลในการติดตามตัวเท่านั้น ซึ่งได้ดำเนินการไปทั้งหมดแล้ว
ส่วนการติดตามตัว นายอ๊อด พยุงวงศ์ หรือนายยงยุทธ พบแก้ว รวมถึงชายต่างชาติต้องสงสัยบริเวณศาลทหาร ตำรวจยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม ขณะที่การตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่เชื่อว่าจะสามารถสรุปสำนวนคดีได้เร็วๆ นี้
ด้านนางเรบิยา คาเดียร์ แกนนำกลุ่มอุยกูร์พลัดถิ่นให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุ NHK ถึงเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ว่า เป็นเรื่องน่าเสียใจอย่างยิ่ง หากคนอุยกูร์พัวพันเหตุระเบิดครั้งนี้ และยังได้ประณามการโจมตีที่เกิดขึ้น พร้อมชี้ว่า การที่รัฐบาลไทยบังคับส่งชาวอุยกูร์ 109 คนกลับไปจีนเมื่อเดือนก.ค.2558 อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดเหตุระเบิด
ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำกลุ่มอุยกูร์ออกมาแสดงความคิดเห็นหลังเกิดเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งทำให้มีข้อสันนิษฐานต่างๆ มากมายถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ ตั้งแต่การก่อการร้าย ผลประโยชน์ของขบวนการค้ามนุษย์ ไปจนถึงเรื่องการเมืองของไทยเอง
นางเรบิยาระบุว่า ชาวอุยกูร์จำนวนมากเดินทางจากจีนมุ่งหน้าไปยังตุรกีโดยผ่านประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งไทย เพื่อหลบหนีจากมาตรการกดดันอันรุนแรงของรัฐบาลจีน
สำหรับนางเรบิยา เคยเป็นมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยในเขตปกครองตนเองซินเจียงของประเทศจีนจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการค้าขายในพื้นที่ชายแดนตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 และยังเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาและสภาปรึกษาการเมืองประชาชนจีนด้วย
อย่างไรก็ตาม สามีของเธอได้แปรพักตร์เข้าร่วมงานกับกลุ่มเรียกร้องเอกราชของชาวอุยกูร์ในสหรัฐฯ และนางเรบิยาได้ส่งเอกสารลับของราชการให้กับสามี ทำให้เธอถูกทางการจีนดำเนินคดีจนได้รับโทษจำคุก จนกระทั่งได้รับการปล่อยตัวในปี 2005 และได้เดินทางไปลี้ภัยในสหรัฐฯ และเป็นผู้นำกลุ่มอุยกูร์พลัดถิ่นมาจนถึงทุกวันนี้
พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงความคืบหน้าการติดตามตัวผู้ต้องหาคดีเบิดแยกราชประสงค์ และท่าเรือสาทร ว่า มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยจากการประสานกับกระทรวงการต่างประเทศ ล่าสุดได้ส่งหนังสือจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และประสานต่อไปยังสถานทูตตุรกีประจำประเทศไทย และสถานทูตไทยประจำตุรกีแล้ว เพื่อขอให้ช่วยตรวจสอบเกี่ยวกับการตรวจสอบหนังสือเดินทางจำนวนมาก ที่ตรวจยึดในที่อพาร์ตเมนต์ที่ผู้ต้องหาพักอาศัย รวมถึงการติดตามตัว นายอิซาน น.ส.วรรณา สวนสัน หรือไมซาเราะห์ และสามี ที่มีข้อมูลว่า หลบหนีไปยังประเทศตุรกี ซึ่งคาดว่าภายใน 2-3 วัน จะมีความชัดเจนมากขึ้น
ทั้งนี้ ยอมรับว่าการติดตามตัวผู้ต้องหาในคดีนี้ มีความยาก เพราะส่วนใหญ่เป็นชาวต่างชาติ ไม่มีครอบครัวในไทย เข้าประเทศไทยในระยะเวลาสั้นๆ จึงต้องใช้ช่องทางทางการทูตและตำรวจสากลในการติดตามตัวเท่านั้น ซึ่งได้ดำเนินการไปทั้งหมดแล้ว
ส่วนการติดตามตัว นายอ๊อด พยุงวงศ์ หรือนายยงยุทธ พบแก้ว รวมถึงชายต่างชาติต้องสงสัยบริเวณศาลทหาร ตำรวจยังไม่มีข้อมูลเพิ่มเติม ขณะที่การตรวจสอบเส้นทางทางการเงิน ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ แต่เชื่อว่าจะสามารถสรุปสำนวนคดีได้เร็วๆ นี้
ด้านนางเรบิยา คาเดียร์ แกนนำกลุ่มอุยกูร์พลัดถิ่นให้สัมภาษณ์สถานีวิทยุ NHK ถึงเหตุระเบิดที่สี่แยกราชประสงค์ว่า เป็นเรื่องน่าเสียใจอย่างยิ่ง หากคนอุยกูร์พัวพันเหตุระเบิดครั้งนี้ และยังได้ประณามการโจมตีที่เกิดขึ้น พร้อมชี้ว่า การที่รัฐบาลไทยบังคับส่งชาวอุยกูร์ 109 คนกลับไปจีนเมื่อเดือนก.ค.2558 อาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดเหตุระเบิด
ทั้งนี้ ถือเป็นครั้งแรกที่ผู้นำกลุ่มอุยกูร์ออกมาแสดงความคิดเห็นหลังเกิดเหตุระเบิดที่แยกราชประสงค์ ใจกลางกรุงเทพฯ ซึ่งทำให้มีข้อสันนิษฐานต่างๆ มากมายถึงแรงจูงใจในการก่อเหตุ ตั้งแต่การก่อการร้าย ผลประโยชน์ของขบวนการค้ามนุษย์ ไปจนถึงเรื่องการเมืองของไทยเอง
นางเรบิยาระบุว่า ชาวอุยกูร์จำนวนมากเดินทางจากจีนมุ่งหน้าไปยังตุรกีโดยผ่านประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมทั้งไทย เพื่อหลบหนีจากมาตรการกดดันอันรุนแรงของรัฐบาลจีน
สำหรับนางเรบิยา เคยเป็นมหาเศรษฐีผู้ร่ำรวยในเขตปกครองตนเองซินเจียงของประเทศจีนจากธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และการค้าขายในพื้นที่ชายแดนตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1980 และยังเคยดำรงตำแหน่งสมาชิกรัฐสภาและสภาปรึกษาการเมืองประชาชนจีนด้วย
อย่างไรก็ตาม สามีของเธอได้แปรพักตร์เข้าร่วมงานกับกลุ่มเรียกร้องเอกราชของชาวอุยกูร์ในสหรัฐฯ และนางเรบิยาได้ส่งเอกสารลับของราชการให้กับสามี ทำให้เธอถูกทางการจีนดำเนินคดีจนได้รับโทษจำคุก จนกระทั่งได้รับการปล่อยตัวในปี 2005 และได้เดินทางไปลี้ภัยในสหรัฐฯ และเป็นผู้นำกลุ่มอุยกูร์พลัดถิ่นมาจนถึงทุกวันนี้