ดุสิตโพลเผยผลสำรวจ "5 เหตุการณ์บ้านเมือง"ที่ประชาชนสนใจเป็นพิเศษ พบเหตุการณ์บึ้มราชประสงค์ คนให้ความสนใจสุงสุดว่าใครเป็นผู้บงการ กลัวจะเกิดเหตุซ้ำ ด้านคดี ตร.ยังคงประสานขอข้อมูลมาเลเซีย ขณะที่ศาลออกหมายจับอีก “4 นายทหาร” คดีค้ามนุษย์โรฮีนจาใต้
วานนี้ (20 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุระเบิดที่ราชประสงค์และท่าเรือสาทร ว่า หลังจากที่เผยแพร่ภาพสเก็ตซ์ชายเสื้อฟ้า ผู้ต้องหาลอบวางระเบิดที่ท่าเรือสาทร ไปเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านนั้น ขณะนี้ยังคงไม่ทราบชื่อผู้ต้องหา ส่วนการประสานงานกับทางประเทศมาเลเซียนั้น ถึงจะมีการยกเลิกการเดินทางขอข้อมูลเพิ่มเติมที่ประเทศมาเลเซีย แต่ก็ยังมีการประสานข้อมูลกันตลอดเวลา ขณะที่หมายจับเพิ่มเติมยังไม่มี ถ้าหากพบว่ามีผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีระเบิด ก็ให้เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนออกหมายจับเพิ่มเติม
ขณะที่สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวสารต่างๆ ที่เป็นประเด็นสำคัญและอยู่ในความสนใจของประชาชนหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษาหรืออาชญากรรม เนื่องจากข่าวสารเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการตัดสินใจและนำไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิตของประชาชน เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,154 คน ระหว่างวันที่ 14-19 ก.ย.58 สรุป "5 เหตุการณ์บ้านเมือง" ที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นพิเศษ ดังต่อไปนี้
อันดับ 1 การติดตามคนร้ายวางระเบิดแยกราชประสงค์ 86.34% เพราะ อยากรู้ความจริงว่าใครเป็นผู้บงการ เป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและภาพลักษณ์ของประเทศ กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ไม่มั่นใจในความปลอดภัย เป็นการพิสูจน์ความสามารถและประสิทธิภาพของตำรวจไทย ฯลฯ
อันดับ 2 ดินฟ้าอากาศ พายุฝน น้ำท่วม ดินถล่ม 85.82% เพราะ เป็นภัยธรรมชาติที่มีความรุนแรงมากขึ้น ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและสร้างความเสียหายอย่างมาก เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเดินทาง หลีกเลี่ยงเส้นทางที่เป็นจุดเสี่ยงหรืออันตราย ฯลฯ
อันดับ 3 รายชื่อผู้ที่จะเข้ามาเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 83.40% เพราะ เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดทิศทางการเมืองไทย อยากเห็นกฎหมายไทยเข้มแข็ง ยุติธรรม เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ ประชาชนส่วนใหญ่ให้การยอมรับ ฯลฯ
อันดับ 4 การทำงานของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ 82.18% เพราะ ชื่นชอบในตัวท่าน เป็นคนพูดตรง รอดูผลงานว่าจะเป็นไปตามที่พูดหรือทำตามโรดแมปได้หรือไม่ มีปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขหลายเรื่อง ในฐานะผู้นำประเทศย่อมเป็นที่สนใจของประชาชนและถูกจับตามองจากหลายฝ่าย ฯลฯ
อันดับ 5 การปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ 80.66% เพราะ เป็นเรื่องสำคัญที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง บ้านเมืองจะพัฒนาได้ต้องมีพื้นฐานที่มั่นคง มีปัญหาถกเถียงกันมาก เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคนไทยทุกคน ควรรับรู้และมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ฯลฯ
***ศาลออกหมายจับอีก “4 นายทหาร”
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ซึ่งจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังคงเดินหน้าสืบสวนและออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดศาลจังหวัดนาทวีได้ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 4 ราย เป็นทหารบก 3 นาย และทหารเรือ 1 นาย ประกอบด้วย 1. พ.อ.ณัฐสิทธิ์ มากสุวรรณ สังกัด กอ.รมน.จ.สตูล 2. ร.อ.วิสูตร บุนนาค สังกัด กอ.รมน.จ.ชุมพร 3. ร.อ.สันทัด เพชรน้อย สังกัด กอ.รมน.จ.ชุมพร และ 4. น.ท.กัมปนาท สังข์ทองจีน สังกัดทัพเรือภาคที่ 3
ทั้งนี้ รวมหมายจับทั้งหมดขณะนี้อยู่ที่ 150 หมายจับในจำนวนนี้จับกุมตัวได้แล้ว 89 คน และยังหลบหนีอีก 61 คน ซึ่งเชื่อว่าส่วนที่จับจับกุมตัวไม่ได้เพราะหลบหนีอยู่ในต่างประเทศราว 20 คน นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกเพิ่มเติมด้วยว่า เจ้าหน้าที่ยังเตรียมออกหมายจับทหารและตำรวจเพิ่มเติมอีกหลายราย โดยอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน
ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ มีอาทิ นายบรรจอง ปองผล หรือโกจง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์, นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง อดีตนายก อบจ.สตูล, นายสุวรรณ แสงทอง หรือโกหนุ่ย เจ้าของแพปลาใน จ.ระนอง และ พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก รวมทั้งผู้ต้องหาคนอื่นๆ ซึ่งมีทั้งตำรวจ นักการเมืองท้องถิ่นและชาวบ้านอีกหลายคน ทั้งใน จ.สงขลา จ.สตูล และ จ.ระนอง ขณะนี้ทั้งหมดถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำจังหวัดนาทวี และอยู่ระหว่างสืบพยานในชั้นศาล
วันเดียวกัน ที่หอประชุมกองทัพเรือ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีมีรายงานข่าวว่า ศาลจังหวัดนาทวี อนุมัติออกหมายจับนายทหารยศพันเอก 1 คน และ ยศร้อยเอก 2 คน เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ชาวโรฮีนจา ว่า ตอนนี้ตนไม่ทราบรายละเอียด ซึ่งจะต้องติดตามรายละเอียดก่อน
เรื่องใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับทหาร ตนในฐานะผบ.ทบ. ยังรับผิดชอบอยู่ ถ้าพบว่าเกี่ยวข้องกับกองทัพบก หากมีความผิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติด แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการค้ามนุษย์ ถ้ามีความเกี่ยวพัน เราจะดำเนินการอย่างเข้มงวด ซึ่ง 2 เดือนที่ผ่านมา เราก็เข้มงวดกวดขัน ดำเนินการสอบสวนคนที่มีความเกี่ยวข้อง
"แต่ต้องยอมรับว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้เราต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาด้วย ถ้าผิดจริง เราจะไม่ให้ความช่วยเหลือ และจะดำเนินการเฉียบขาด เพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่าง และทำให้ประชาคมโลกเห็นว่า ประเทศไทย มีความตั้งใจที่จะดูแลการทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยเฉพาะการค้ามนุษย์" พล.อ.อุดมเดชกล่าว.
วานนี้ (20 ก.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าเหตุระเบิดที่ราชประสงค์และท่าเรือสาทร ว่า หลังจากที่เผยแพร่ภาพสเก็ตซ์ชายเสื้อฟ้า ผู้ต้องหาลอบวางระเบิดที่ท่าเรือสาทร ไปเมื่อวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านนั้น ขณะนี้ยังคงไม่ทราบชื่อผู้ต้องหา ส่วนการประสานงานกับทางประเทศมาเลเซียนั้น ถึงจะมีการยกเลิกการเดินทางขอข้อมูลเพิ่มเติมที่ประเทศมาเลเซีย แต่ก็ยังมีการประสานข้อมูลกันตลอดเวลา ขณะที่หมายจับเพิ่มเติมยังไม่มี ถ้าหากพบว่ามีผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีระเบิด ก็ให้เจ้าหน้าที่พนักงานสอบสวนออกหมายจับเพิ่มเติม
ขณะที่สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่าในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา มีข่าวสารต่างๆ ที่เป็นประเด็นสำคัญและอยู่ในความสนใจของประชาชนหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นการเมือง เศรษฐกิจ สังคม การศึกษาหรืออาชญากรรม เนื่องจากข่าวสารเป็นข้อมูลพื้นฐานสำหรับการตัดสินใจและนำไปใช้ประโยชน์ในการดำเนินชีวิตของประชาชน เพื่อเป็นการสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,154 คน ระหว่างวันที่ 14-19 ก.ย.58 สรุป "5 เหตุการณ์บ้านเมือง" ที่ประชาชนให้ความสนใจเป็นพิเศษ ดังต่อไปนี้
อันดับ 1 การติดตามคนร้ายวางระเบิดแยกราชประสงค์ 86.34% เพราะ อยากรู้ความจริงว่าใครเป็นผู้บงการ เป็นเหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและภาพลักษณ์ของประเทศ กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นอีก ไม่มั่นใจในความปลอดภัย เป็นการพิสูจน์ความสามารถและประสิทธิภาพของตำรวจไทย ฯลฯ
อันดับ 2 ดินฟ้าอากาศ พายุฝน น้ำท่วม ดินถล่ม 85.82% เพราะ เป็นภัยธรรมชาติที่มีความรุนแรงมากขึ้น ประชาชนได้รับความเดือดร้อนและสร้างความเสียหายอย่างมาก เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการเดินทาง หลีกเลี่ยงเส้นทางที่เป็นจุดเสี่ยงหรืออันตราย ฯลฯ
อันดับ 3 รายชื่อผู้ที่จะเข้ามาเป็นกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ 83.40% เพราะ เป็นผู้ที่มีบทบาทสำคัญต่อการกำหนดทิศทางการเมืองไทย อยากเห็นกฎหมายไทยเข้มแข็ง ยุติธรรม เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบ ประชาชนส่วนใหญ่ให้การยอมรับ ฯลฯ
อันดับ 4 การทำงานของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ 82.18% เพราะ ชื่นชอบในตัวท่าน เป็นคนพูดตรง รอดูผลงานว่าจะเป็นไปตามที่พูดหรือทำตามโรดแมปได้หรือไม่ มีปัญหาที่ต้องเร่งแก้ไขหลายเรื่อง ในฐานะผู้นำประเทศย่อมเป็นที่สนใจของประชาชนและถูกจับตามองจากหลายฝ่าย ฯลฯ
อันดับ 5 การปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ 80.66% เพราะ เป็นเรื่องสำคัญที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง บ้านเมืองจะพัฒนาได้ต้องมีพื้นฐานที่มั่นคง มีปัญหาถกเถียงกันมาก เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับคนไทยทุกคน ควรรับรู้และมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น ฯลฯ
***ศาลออกหมายจับอีก “4 นายทหาร”
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีค้ามนุษย์โรฮิงญา ซึ่งจนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ภายใต้การนำของ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังคงเดินหน้าสืบสวนและออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้อย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดศาลจังหวัดนาทวีได้ออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มเติมอีก 4 ราย เป็นทหารบก 3 นาย และทหารเรือ 1 นาย ประกอบด้วย 1. พ.อ.ณัฐสิทธิ์ มากสุวรรณ สังกัด กอ.รมน.จ.สตูล 2. ร.อ.วิสูตร บุนนาค สังกัด กอ.รมน.จ.ชุมพร 3. ร.อ.สันทัด เพชรน้อย สังกัด กอ.รมน.จ.ชุมพร และ 4. น.ท.กัมปนาท สังข์ทองจีน สังกัดทัพเรือภาคที่ 3
ทั้งนี้ รวมหมายจับทั้งหมดขณะนี้อยู่ที่ 150 หมายจับในจำนวนนี้จับกุมตัวได้แล้ว 89 คน และยังหลบหนีอีก 61 คน ซึ่งเชื่อว่าส่วนที่จับจับกุมตัวไม่ได้เพราะหลบหนีอยู่ในต่างประเทศราว 20 คน นอกจากนี้ยังมีรายงานอีกเพิ่มเติมด้วยว่า เจ้าหน้าที่ยังเตรียมออกหมายจับทหารและตำรวจเพิ่มเติมอีกหลายราย โดยอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน
ส่วนผู้ต้องหาที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้ มีอาทิ นายบรรจอง ปองผล หรือโกจง อดีตนายกเทศมนตรีเมืองปาดังเบซาร์, นายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง อดีตนายก อบจ.สตูล, นายสุวรรณ แสงทอง หรือโกหนุ่ย เจ้าของแพปลาใน จ.ระนอง และ พล.ท.มนัส คงแป้น อดีตผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก รวมทั้งผู้ต้องหาคนอื่นๆ ซึ่งมีทั้งตำรวจ นักการเมืองท้องถิ่นและชาวบ้านอีกหลายคน ทั้งใน จ.สงขลา จ.สตูล และ จ.ระนอง ขณะนี้ทั้งหมดถูกควบคุมตัวอยู่ที่เรือนจำจังหวัดนาทวี และอยู่ระหว่างสืบพยานในชั้นศาล
วันเดียวกัน ที่หอประชุมกองทัพเรือ พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวถึงกรณีมีรายงานข่าวว่า ศาลจังหวัดนาทวี อนุมัติออกหมายจับนายทหารยศพันเอก 1 คน และ ยศร้อยเอก 2 คน เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ ชาวโรฮีนจา ว่า ตอนนี้ตนไม่ทราบรายละเอียด ซึ่งจะต้องติดตามรายละเอียดก่อน
เรื่องใดก็ตามที่เกี่ยวข้องกับทหาร ตนในฐานะผบ.ทบ. ยังรับผิดชอบอยู่ ถ้าพบว่าเกี่ยวข้องกับกองทัพบก หากมีความผิด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยาเสพติด แรงงานต่างด้าวผิดกฎหมาย โดยเฉพาะการค้ามนุษย์ ถ้ามีความเกี่ยวพัน เราจะดำเนินการอย่างเข้มงวด ซึ่ง 2 เดือนที่ผ่านมา เราก็เข้มงวดกวดขัน ดำเนินการสอบสวนคนที่มีความเกี่ยวข้อง
"แต่ต้องยอมรับว่าสิ่งต่างๆ เหล่านี้เราต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหาด้วย ถ้าผิดจริง เราจะไม่ให้ความช่วยเหลือ และจะดำเนินการเฉียบขาด เพื่อไม่ให้เป็นตัวอย่าง และทำให้ประชาคมโลกเห็นว่า ประเทศไทย มีความตั้งใจที่จะดูแลการทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยเฉพาะการค้ามนุษย์" พล.อ.อุดมเดชกล่าว.