หน่วยความมั่นคงเผยราชทัณฑ์ใช้กองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 เป็นเรือนจำชั่วคราวนักโทษคดีความมั่นคงจริง ประเดิมฝากขังสองผู้ต้องหาบึ้มราชประสงค์ ให้ทหารคุมรอบนอก ส่วนเจ้าหน้าที่เรือนจำดูแลภายใน ใช้เหมือนหลักสี่ ด้านทหารเพิ่มลวดหนามสูง 3 ชั้น พร้อมไม่อนุญาตสื่อบันทึกภาพข้างใน
วันนี้ (14 ก.ย.) แหล่งข่าวจากหน่วยงานความมั่นคง เปิดเผยถึงกรณีที่ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ได้ออกคำสั่งที่ 314/2558 ให้กองพันทหารราบมณฑลทหารบกที่ 11 (พัน.ร.มทบ.11) แขวงถนนนครไชยศรี เขตดุสิต กทม. เป็นเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนไชยศรี เพื่อประโยชน์ในด้านการรักษาความปลอดภัย และความเหมาะสมในการคุมขังและการปฏิบัติต่อผู้ต้องขังในคดีความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงของรัฐ และคดีอื่นที่เกี่ยวเนื่องซึ่งเป็นผู้ต้องขังประเภทมีเหตุพิเศษ ที่ไม่ควรจะรวมคุมขังอยู่กับผู้ต้องขังอื่นนั้นว่า ล่าสุดทางเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์จะใช้สถานที่ดังกล่าวควบคุมผู้ต้องหาในคดีลอบวางระเบิดแยกราชประสงค์และท่าเรือสาทร โดยในวันนี้ (14 ก.ย.) ทางเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์จะนำตัวนายอาเดม คาราดัก อายุ 24 ปี และนายไมไรลี ยูซูฟู อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดมีนบุรีมาฝากขัง โดยเบื้องต้นการดูแลรักษาความปลอดภัยโดยรอบจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทหารซึ่งถือว่าเป็นเจ้าของพื้นที่ แต่ในส่วนการดูแลผู้ต้องหาและพื้นที่ภายในเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนไชยศรีจะเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนไชยศรีร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหาร ภายหลังจากที่กรมราชทัณฑ์ได้ส่งเจ้าหน้าที่มาอบรมให้กับทหาร เพื่อเป็นผู้ช่วยเจ้าพนักงานในการดูแลพื้นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเหมือนกับที่เรือนจำชั่วคราวหลักสี่
ด้านแหล่งข่าวนายทหารพัน.ร.มทบ.11 กล่าวว่า สำหรับการรักษาความปลอดภัยเรือนจำชั่วคราวแขวงถนนไชยศรีนั้น บริเวณรอบนอกจะมีเจ้าหน้าที่ทหารของพัน.ร.มทบ.11 ทำหน้าที่ดูแลตามมาตรการปกติ ส่วนด้านในรอบพื้นที่ตัวเรือนจำชั่วคราว ทางเจ้าหน้าที่ทหารและเจ้าหน้าที่เรือนจำทำงานร่วมกันดูแลรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้นำรั้วลวดหนามเสริมความสูงต่อจากกำแพงขึ้นอีก 3 ชั้น ทำให้รั้วสูงขึ้นจากรั้วปกติ เพื่อเพิ่มความเข้มงวด
สำหรับมาตรการรักษาความปลอดภัยบริเวณด้านหน้าพัน.ร.มทบ.11 ได้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยตามปกติ โดยมีจุดบริการประชาชนประจำจุด และมีเจ้าหน้าที่ทหารประจำการ ประมาณ 8-10 นายต่อผลัด เช่นเดียวกับป้อมดูแลความปลอดภัย หน้าทางเข้าพัน.ร.มทบ.11 ยังมีเจ้าหน้าที่ประจำการประมาณ 3-5 นายต่อผลัด และได้เพิ่มมาตรการตรวจตราบุคคลเข้าออกอย่างละเอียด ขณะที่ในส่วนของพื้นที่ภายในบริเวณพัน.ร.มทบ.11 มีมาตรการดูแลความปลอดภัยที่เข้มข้นมากขึ้น โดยมีการเพิ่มกำลังของเจ้าหน้าที่ทหารเป็นเท่าตัว เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยและเพิ่มความรอบคอบในการตรวจตราให้มากขึ้น ทั้งนี้ยังพบว่ามีเจ้าหน้าที่เรือนจำชั่วคราวแขวงถนนไชยศรี มาประจำการอยู่ที่พัน.ร.มทบ.11 จำนวนหนึ่งด้วย อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่ทหารไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปทำข่าวหรือบันทึกภาพภายในพัน.ร.มทบ.11 อย่างเด็ดขาด โดยสามารถบันทึกภาพบริเวณด้านหน้าได้เท่านั้น