ASTVผู้จัดการรายวัน - ตอกย้ำเศรษฐกิจฟื้น โฆษณาสื่อนอกบ้านองศาร้อน "บีลิงค์" เจ้าตลาดหัวหาดในรั้วสถานศึกษา ขยับตัวครั้งใหญ่ ประกาศเข้าตลาดMAI ใน2ปีข้างหน้า หวังระดมทุน ต่อยอดธุรกิจเอาท์ออฟโฮมมีเดีย ล่าสุดตอกย้ำ2ธุรกิจใหม่ พีอาร์-เวดดิ้งแพลนเนอร์ อุดช่องว่างสร้างแกร่ง "วันสต็อปเซอร์วิส" พร้อมเน้นบริหารป้ายโฆษณาในพม่าให้เข้มแข็งขึ้น เชื่อส่งปี59 โตพรวด 30% หลังสิ้นปีรายได้ทะลุ 120ล้านบาท โต5-7%
นายกฤษณะ ถนอมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีลิงค์ มีเดีย จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารงานพื้นที่สื่อ โฆษณาภายในสถานศึกษาและมหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจหลักของบริษัท จะเน้นบริการงานสื่อโฆษณา ตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะในสถานศึกษา อย่าง มหาวิทยาลัย อาคารสถาบันกวดวิชา และศูนย์อาหารในเขต สำนักงานต่างๆ เป็นต้น หรือมีส่วนแบ่งพื้นที่สื่อ โฆษณาภายในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศมากกว่า 85%
จากปัจจุบันมีป้ายโฆษณามากกว่า 600 ป้าย และซุ้มประตูโฆษณาขนาดใหญ่ รวมกว่า 40 ซุ้ม ในมหาวิทยาลัย 33 แห่ง โดยมหาวิทยาลัยที่บริษัท จะเข้าไปให้บริการติดตั้งป้ายบิลบอร์ดได้ จะต้องมีจำนวนนักศึกษาแต่ละแห่ง ไม่ต่ำกว่า 15,000 -20,000 คน
นอกจากนี้ยังมีสื่อโฆษณาสำหรับเจาะกลุ่มเด็กนักเรียนติดตั้งตามอาคารรวมสถาบันกวดวิชาเช่น อาคารวรรณสรณ์ พญาไท และอาคารเอ็มเพลส วงเวียนใหญ่ ที่มีนักเรียนหมุนเวียนมากว่า 1.5 แสนคนต่อภาคการศึกษา ซึ่งถือเป็นจำนวนกลุ่ม เป้าหมายขนาดใหญ่ที่จะช่วยให้การทำตลาดและการสร้างแบรนด์สินค้าของลูกค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนมากขึ้น
ล่าสุดปีนี้ยังได้ใช้งบลงทุนรวมแล้วกว่า 20 ล้านบาท ขยายพื้นที่สื่อโฆษณาในตลาดต่างจังหวัด กว่า 300 ป้ายบิลบอร์ด รวมถึงในส่วนของตลาดต่างประเทศ อย่างในพม่า ที่ได้บริษัทย่อยเข้าไปดำเนินงาน ตั้งแต่2ปีก่อน โดยการรับบริหารสื่อโฆษณา กลุ่มป้ายบิลบอร์ดใน เมืองย่างกุ้ง ด้วยจำนวนป้าย บิลบอร์ด รวมกว่า 20 ป้าย ติดตั้งตามสี่แยกถนน จะมุ่งเน้นบริหารป้ายบิลบอร์ดที่มีอยู่ให้มีอัตราการลงโฆษณา ให้เพิ่มเป็น90 -100% จากปัจจุบันอยู่ ที่ประมาณ 70%
จากความแข็งแกร่งที่มีอยู่ ทางบริษัทพร้อมต่อยอด ธุรกิจเพิ่มบริการใหม่ๆให้ลูกค้าอย่างเนื่อง เพื่อสร้าง ความแตกต่างจากคู่แข่ง ชูความเป็น "วันสต็อปเซอร์วิส" ที่เป็นมากกว่าบริการสื่อป้าย โฆษณาเท่านั้น โดยในปี2559 พร้อมเปิดตัว 2ธุรกิจใหม่อย่างเป็นทางการ คือ 1. พีอาร์เอเยนซี่ ให้บริการจัดอีเวนท์ให้แก่กลุ่มลูกค้าบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เช่น การจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวหุ้นไอพีโอในตลาดหลักทรัพย์ฯ//
2.เวดดิ้งแพลนเนอร์ ให้บริการจัดงานแต่งงาน จัดทำวีดีโอพรีเซนเทชั่น รวมถึงบริการให้เช่าสินค้า หรู สินค้าไอเดียต่างๆ ที่ใช้ประกอบการตกแต่งตาม อีเวนท์ต่างๆ จากเดิมทั้ง 2ธุรกิจนี้ ทำมามากว่า 1- 2 ปี แต่ยังไม่เป็นที่รับรู้ในกลุ่มลูกค้ามากนัก บริษัทจึงต้องการสร้างความชัดเจนของงานและแบ่งแยกการบริหารงานให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น
ปัจจุบันจากความแข็งแกร่งของพื้นที่โฆษณาและป้านโฆษณาที่มีอยู่ทั้งหมดของบีลิงค์พบว่า ลูกค้ายังให้ การตอบรับและลงโฆษณาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มยานยนต์ เนื่องจากบีลิงค์ มีจุดแข็งของทำเลและกลุ่มเป้าหมาย ที่ชัดเจนและตรงกับสินค้านั้นๆ หรือโดยรวมแล้ว พื้นที่ป้ายโฆษณาของบีลิงค์ทั้งหมด แบ่งกลุ่ม เป้าหมาย ออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือ 1.นักศึกษา 50% 2.นักเรียน 30% และ3.พนักงานบริษัท 20%
"จากแนวโน้มการเติบโตของสื่อโฆษณานอกบ้านที่ดีขึ้น บวกกับการขยายตัวของบริษัท มุ่งต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ ส่งผลให้ในอีก 2ปีข้างหน้า หรือในปี 2560 บริษัทพร้อมที่จะเข้สตลาด หลักทรัพย์ MAI เพื่อต้องการระดมทุน ต่อยอดธุรกิจใหม่ๆต่อไป"
จากสิ้นปีนี้ที่มองว่า รายได้รวมจะปิดที่ 120ล้านบาท โตขึ้น 5-7% ส่วนรายได้จากพม่าปีนี้น่าจะทำได้อีก 30 ล้านบาท และจากแผนการเปิดตัว2ธุรกิจใหม่ ในต้นปีหน้า จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ปี2559 บีลิงค์จะมีรายได้ในประเทศโตขึ้นแบบก้าวกระโดด หรือโตขึ้นอีก 30% คิดเป็นเม็ดเงินร่วม 150 ล้านบาท
นายกฤษณะ ถนอมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท บีลิงค์ มีเดีย จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจบริหารงานพื้นที่สื่อ โฆษณาภายในสถานศึกษาและมหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า ภาพรวมธุรกิจหลักของบริษัท จะเน้นบริการงานสื่อโฆษณา ตามสถานที่ต่างๆ โดยเฉพาะในสถานศึกษา อย่าง มหาวิทยาลัย อาคารสถาบันกวดวิชา และศูนย์อาหารในเขต สำนักงานต่างๆ เป็นต้น หรือมีส่วนแบ่งพื้นที่สื่อ โฆษณาภายในมหาวิทยาลัยทั่วประเทศมากกว่า 85%
จากปัจจุบันมีป้ายโฆษณามากกว่า 600 ป้าย และซุ้มประตูโฆษณาขนาดใหญ่ รวมกว่า 40 ซุ้ม ในมหาวิทยาลัย 33 แห่ง โดยมหาวิทยาลัยที่บริษัท จะเข้าไปให้บริการติดตั้งป้ายบิลบอร์ดได้ จะต้องมีจำนวนนักศึกษาแต่ละแห่ง ไม่ต่ำกว่า 15,000 -20,000 คน
นอกจากนี้ยังมีสื่อโฆษณาสำหรับเจาะกลุ่มเด็กนักเรียนติดตั้งตามอาคารรวมสถาบันกวดวิชาเช่น อาคารวรรณสรณ์ พญาไท และอาคารเอ็มเพลส วงเวียนใหญ่ ที่มีนักเรียนหมุนเวียนมากว่า 1.5 แสนคนต่อภาคการศึกษา ซึ่งถือเป็นจำนวนกลุ่ม เป้าหมายขนาดใหญ่ที่จะช่วยให้การทำตลาดและการสร้างแบรนด์สินค้าของลูกค้าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนมากขึ้น
ล่าสุดปีนี้ยังได้ใช้งบลงทุนรวมแล้วกว่า 20 ล้านบาท ขยายพื้นที่สื่อโฆษณาในตลาดต่างจังหวัด กว่า 300 ป้ายบิลบอร์ด รวมถึงในส่วนของตลาดต่างประเทศ อย่างในพม่า ที่ได้บริษัทย่อยเข้าไปดำเนินงาน ตั้งแต่2ปีก่อน โดยการรับบริหารสื่อโฆษณา กลุ่มป้ายบิลบอร์ดใน เมืองย่างกุ้ง ด้วยจำนวนป้าย บิลบอร์ด รวมกว่า 20 ป้าย ติดตั้งตามสี่แยกถนน จะมุ่งเน้นบริหารป้ายบิลบอร์ดที่มีอยู่ให้มีอัตราการลงโฆษณา ให้เพิ่มเป็น90 -100% จากปัจจุบันอยู่ ที่ประมาณ 70%
จากความแข็งแกร่งที่มีอยู่ ทางบริษัทพร้อมต่อยอด ธุรกิจเพิ่มบริการใหม่ๆให้ลูกค้าอย่างเนื่อง เพื่อสร้าง ความแตกต่างจากคู่แข่ง ชูความเป็น "วันสต็อปเซอร์วิส" ที่เป็นมากกว่าบริการสื่อป้าย โฆษณาเท่านั้น โดยในปี2559 พร้อมเปิดตัว 2ธุรกิจใหม่อย่างเป็นทางการ คือ 1. พีอาร์เอเยนซี่ ให้บริการจัดอีเวนท์ให้แก่กลุ่มลูกค้าบริษัทที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ เช่น การจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวหุ้นไอพีโอในตลาดหลักทรัพย์ฯ//
2.เวดดิ้งแพลนเนอร์ ให้บริการจัดงานแต่งงาน จัดทำวีดีโอพรีเซนเทชั่น รวมถึงบริการให้เช่าสินค้า หรู สินค้าไอเดียต่างๆ ที่ใช้ประกอบการตกแต่งตาม อีเวนท์ต่างๆ จากเดิมทั้ง 2ธุรกิจนี้ ทำมามากว่า 1- 2 ปี แต่ยังไม่เป็นที่รับรู้ในกลุ่มลูกค้ามากนัก บริษัทจึงต้องการสร้างความชัดเจนของงานและแบ่งแยกการบริหารงานให้เกิดความคล่องตัวมากขึ้น
ปัจจุบันจากความแข็งแกร่งของพื้นที่โฆษณาและป้านโฆษณาที่มีอยู่ทั้งหมดของบีลิงค์พบว่า ลูกค้ายังให้ การตอบรับและลงโฆษณาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ กลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค และกลุ่มยานยนต์ เนื่องจากบีลิงค์ มีจุดแข็งของทำเลและกลุ่มเป้าหมาย ที่ชัดเจนและตรงกับสินค้านั้นๆ หรือโดยรวมแล้ว พื้นที่ป้ายโฆษณาของบีลิงค์ทั้งหมด แบ่งกลุ่ม เป้าหมาย ออกเป็น 3 ส่วนหลัก คือ 1.นักศึกษา 50% 2.นักเรียน 30% และ3.พนักงานบริษัท 20%
"จากแนวโน้มการเติบโตของสื่อโฆษณานอกบ้านที่ดีขึ้น บวกกับการขยายตัวของบริษัท มุ่งต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ ส่งผลให้ในอีก 2ปีข้างหน้า หรือในปี 2560 บริษัทพร้อมที่จะเข้สตลาด หลักทรัพย์ MAI เพื่อต้องการระดมทุน ต่อยอดธุรกิจใหม่ๆต่อไป"
จากสิ้นปีนี้ที่มองว่า รายได้รวมจะปิดที่ 120ล้านบาท โตขึ้น 5-7% ส่วนรายได้จากพม่าปีนี้น่าจะทำได้อีก 30 ล้านบาท และจากแผนการเปิดตัว2ธุรกิจใหม่ ในต้นปีหน้า จะเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ปี2559 บีลิงค์จะมีรายได้ในประเทศโตขึ้นแบบก้าวกระโดด หรือโตขึ้นอีก 30% คิดเป็นเม็ดเงินร่วม 150 ล้านบาท