“ไอซีที”ไม่เอาเรื่องมือป่วนเว็บ ถอยซิงเกิลเกตเวย์ “ประวุฒิ”สั่งสอบเอาคนผิดติดคุก

ASTV ผู้จัดการรายวัน - “อุตตม” เผยยังไม่เอาผิดคนป่วนเว็บรัฐ แม้จะผิดพ.ร.บ.คอมพ์ วอนอย่าทำอีก-คนอื่นเดือดร้อน อ้างเข้าใจผิด Single Gateway เผยนายกฯแค่สั่งให้ศึกษาหาทางป้องกันเด็ก-เยาวชน ไม่ได้เป็นมติ ครม.ด้วยซ้ำ ยันไม่มีข้อสรุปจะไปทิศทางไหน สื่อฯเซ็งรัฐมนตรีแจงไม่เคลียร์ก่อนชิ่งหน้าเครียด “ประวุฒิ” สั่ง ปอท.ตรวจสอบความเสียหาย เผยคนผิดโทษคุก 5 ปี/ปรับ 1 แสน “ปนัดดา” บอกนายกฯไม่เคยพูดว่าจะใช้ระบบนี้ ยกผลศึกษามีข้อเสียเพียบ ด้านเอกชนพร้อมรับฟังแนวทางรัฐ แต่ห่วงละเมิดสิทธิ์คนใช้เน็ต

นายอุตตม สาวนายน รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) แถลงข่าวถึงเหตุการณ์ที่เว็บไซต์หน่วยงานราชการหลายแห่ง รวมไปถึงเว็บไซต์ของกระทรวงไอซีทีไม่สามารถใช้งานได้เมื่อช่วงค่ำวันที่ 30 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังถูกกลุ่มบุคคลนัดหมายกันเข้าเว็บไซต์ต่างๆพร้อมกันเป็นจำนวนมาก เพื่อแสดงสัญลักษณ์ต่อต้านนโยบาย Single Gateway ว่า ในสถานการณ์ปกติเว็บของกระทรวงไอซีทีสามารถรองรับคนเข้ามาเยี่ยมชมได้ประมาณวันละ 6 พันคน แต่การแสดงเชิงสัญลักษณ์ของกลุ่มที่คัดค้านนโยบาย Single Gateway เข้ามาในช่วงเวลาดังกล่าวถึง 1 แสนราย ดังนั้น จึงทำให้การเข้าเว็บล่าช้า ซึ่งเป็นเรื่องปกติ และกระทรวงได้ให้หน่วยงานสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) (EGA) ขยายทราฟฟิกเพื่อให้รองรับได้

“แม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ก็ตาม แต่กระทรวงยืนยันว่าจะไม่ดำเนินการเพื่อเอาผิดต่อผู้กระทำการเชิงสัญลักษณ์แต่อย่างใด และขอความกรุณาไปยังผู้ที่ต่อต้านอย่าทำแบบนี้อีก เพราะจะกระทบต่อผู้เข้ามาใช้บริการเว็บของราชการ” นายอุตตม กล่าว

** แจงแค่ศึกษา-ยังไม่มีข้อยุติ

นายอุตตม ยังได้ชี้แจงแนวนโยบายเรื่อง Single Gateway ด้วยว่า เรื่องนี้ไม่มีเป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่อย่างใด เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน เพราะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการถึงความห่วงใยเด็ก และเยาวชนในการเข้าถึงข้อมูลเท่านั้น จึงได้ให้กระทรวงไอซีทีศึกษาแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคมตามนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล เพื่อให้สร้างปลอดภัยต่อการใช้อินเทอร์เน็ตของเด็กและเยาวชน ทั้งนี้ยังไม่มีการกำหนดกรอบระยะเวลาการศึกษาชัดเจน และยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นแนวทางไหน เพราะยังไม่มีข้อยุติ ซึ่งเราก็พร้อมจะรับฟังความคิดเห็น ดังนั้น ซึ่งต่อไปเราจะต้องมีการเปิดเวทีสร้างความเข้าใจอีก

“ขอย้ำอีกครั้งว่า เป็นเพียงการศึกษาแนวทาง ยังไม่มีอะไรชัดเจน และไม่ได้ทำเป็น Single Gateway อย่างที่เข้าใจ และขอให้เลิกใช้คำว่า Single Gateway ที่สำคัญคือ เรื่องที่ห่วงเกี่ยวกับการลิดรอนข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน” นายอุตตม ระบุ

** นักข่าวบ่น “อุตตม” ตอบไม่เคลียร์

นางทรงพร โกมลสุรเดช ปลัดกระทรวงไอซีที กล่าวว่า กระทรวงไม่สามารถเอาผิดต่อผู้กระทำการเชิงสัญลักษณ์ได้ เพราะการกระทำเช่นนี้ก็เปรียบเสมือนการก่อม็อบปกติ แต่เปลี่ยนรูปแบบมาทำบนเว็บไซต์แทน ซึ่งตราบใดที่ยังไม่มีผู้ได้รับความเสียหายในการเข้าถึงเว็บ และร้องเรียนให้กระทรวงดำเนินการ กระทรวงก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆได้ แต่หากมีผู้ร้องเรียนเข้ามากระทรวงก็ต้องหาข้อมูล หลักฐาน และขอหมายศาล ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะขอ หากข้อมูลความเสียหายไม่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน เช่น เข้าเว็บไม่ได้แล้วมีผลต่อการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือการประมูลออนไลน์ เป็นต้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การแถลงข่าวครั้งนี้มีสื่อมวลชนให้ความสนใจจำนวนมาก และมีหลายคำถามที่รัฐมนตรีไอซีทีตอบคำถามไม่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหากมีการกระทำผิดซ้ำอีกกระทรวงจะมีมาตรการป้องกันอย่างไร หากผู้คัดค้านไม่เข้าใจที่รัฐมนตรีแถลงทั้งๆที่แถลงมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอีก รวมถึงจะมีการสร้างความเข้าใจอย่างไรให้ชัดเจน เป็นต้น โดยหลังงานแถลงข่าวจบ นายอุตตมได้รีบลงจากเวทีพร้อมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ซึ่ง พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้มาร่วมสังเกตการณ์ด้วย

** ตร.ขู่เอาผิดพวกมือป่วนเวบ

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ รักษาราชการแทนที่ปรึกษา (สบ 10) ด้านสืบสวนทางเทคโนโลยีและนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวยอมรับว่า เว็บไซต์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ถูกก่อกวน แต่ได้มีการเตรียมพร้อมป้องกันไว้แล้ว และขณะนี้ทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) กำลังตรวจสอบความเสียหาย เพื่อเตรียมดำเนินการเอาผิดผู้ที่เข้ามาก่อกวนเว็บไซต์ของหน่วยงานราชการทั้งหมด ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินห้าปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท เนื่องจากเป็นการกระทำให้เกิดความเสียหายและส่งผลกระทบต่อการทำงานของภาครัฐ

“ตำรวจสามารถตรวจสอบย้อนกลับไปที่ผู้ก่อกวนได้ และรู้ตัวผู้กระทำ จึงฝากเตือนให้หยุดพฤติกรรมลักษณะดังกล่าว เพราะเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์” พล.ต.ท.ประวุฒิ ระบุ

** “ปนัดดา” ชี้มีข้อเสียเยอะ

ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯเพียงให้ศึกษาข้อเท็จจริง เรื่อง Single Gateway ตามที่มีผู้นำเสนอในบริบทของความมั่นคง โดยไม่เคยพูดว่าจะใช้ระบบดังกล่าว แต่ก็มีการนำไปขยายผลจนเกิดความเข้าใจผิด เราทุกคนทราบกันอยู่ว่าการให้ความรู้ความเข้าใจมีความสำคัญเป็นอันดับแรกในสังคมโลกออนไลน์ปัจจุบัน ดังนั้นการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อไม่ให้เกิดการหลอกลวงกันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะปัญหาสังคมวันนี้เกิดขึ้นจากการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่เป็นเท็จ การสร้างข่าวลือ การให้ร้ายป้ายสี และการสร้างศัตรูทางการเมือง ที่ถือเป็นภยันตรายต่ออุดมการณ์ประชาธิปไตย เราจึงควรมองไปที่ต้นเหตุของปัญหา ที่มาของข่าวลวงโลกทั้งหลายที่ผลิตขึ้นโดยกลุ่มคนที่เห็นแก่ตัว ต้องแก้ที่บุคคลผู้เกี่ยวข้องมากกว่า โดยการเพิ่มพูนความศักดิ์สิทธิ์ของกฎหมายกับอีกความร่วมมือระหว่างประเทศผ่านช่องทางทางการทูตที่เหมาะสม

“มีการศึกษาว่าระบบ Single Gateway มีปัญหาในเรื่องความไม่เสถียร หากติดไวรัส มัลแวร์หรือถูกแฮกจุดเดียว โอกาสที่จะกระจายไปทั่วประเทศย่อมมีสูง ปัญหาทั้งหมดเหล่านี้จะทำให้ระบบอินเทอร์เน็ตโดยรวมของประเทศขาดความมั่นคงปลอดภัยและน่าเชื่อถือ และเป็นไปได้ว่า ผู้ประกอบการและบรรดานักลงทุนที่ต้องการความปลอดภัยและความมีประสิทธิภาพของระบบอินเทอร์เน็ต อาจตัดสินใจย้ายไปใช้บริการนอกประเทศ ซึ่งจะกระทบกับเรื่องเศรษฐกิจที่ประเทศไทยกำลังมุ่งมั่นพัฒนาอย่างเต็มกำลังความสามารถ” ม.ล.ปนัดดา ระบุ

** “เพื่อไทย” แจมค้านโยงขัด ปชต.

น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีต รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ได้ร่วมกับ นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย ออกแถลงการณ์ในนามพรรคเพื่อไทยแสดงความไม่เห็นด้วยกับแนวนโยบาย Single Gateway โดยระบุว่า เพราะหากปล่อยให้มีการดำเนินการโครงการต่อไป เชื่อว่าจะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี โดยเฉพาะการควบคุมข้อมูลต่างๆของรัฐ มีความสุ่มเสี่ยงที่จะละเมิดสิทธิส่วนบุคคล อันเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชนที่พึงมีและควรได้รับการคุ้มครองโดยปราศจากเงื่อนไขตามหลักการของระบอบประชาธิปไตยอันเป็นสากล แม้ว่าภาครัฐจะอ้างว่า จะสามารถควบคุมดูแลการใช้อินเทอร์เน็ตของประชาชนได้อย่างเบ็ดเสร็จ คัดกรองข้อมูลที่เป็นประโยชน์ และปิดกั้นข้อมูลที่ไม่เป็นประโยชน์ให้แก่ประชาชนได้อย่างสะดวก แต่เชื่อได้ว่าจะส่งผลกระทบด้านลบอื่นๆตามมาหลายประการ โดยเฉพาะเรื่องความเร็วในการให้บริการอินเทอร์เน็ต และอาจเกิดปัญหาวงกว้างหาก Gateway ล่มใช้งานไม่ได้

** เอกชนห่วงละเมิดสิทธิ์

ด้าน นายศุภชัย เจียรวนนท์ นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ส่วนตัวไม่มั่นใจว่าความหมายของ Single Gateway คืออะไร ถ้าพูดว่าเป็นการสตรีมมิ่ง (Streaming) ข้อมูลเข้าออก ระดับความเข้มข้นในการตรวจสอบจะเป็นเหมือนประเทศสิงคโปร์ มาเลเชีย สามารถทำได้ แต่หากเป็นแบบประเทศจีนที่เป็นการปิดกั้น หรือบล็อกทุกช่องทาง ก็จะมีหลายฝ่ายออกมาต่อต้านเป็นอย่างมาก เนื่องจากประเทศไทยไม่มีลักษณะการปกครองเหมือนจีน ดังนั้นขึ้นอยู่ที่การตั้งระดับความเข้มข้นของการตรวจสอบด้วย หากเป็นในเรื่องของความมั่นคงก็คงต้องหาวิธีทางได้ อาจจะไม่จำเป็นต้องเป็น Single Gateway แต่ในเวลาเดียวกันจะต้องดูในเรื่องของความเป็นส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นการประกอบธุรกิจ หรือบุคคล ด้วย

“สมาคมฯ ไม่เห็นด้วย หากนโยบาย Single Gateway เป็นการละเมิดสิทธิการเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต แต่จะต้องมาศึกษารายละเอียดร่วมกัน ซึ่งสมาคมฯจะนำเรื่องดังกล่าวไปหารือกับสมาชิกและแสดงจุดยืนต่อไป” นายศุภชัย ระบุ