ไอซีทีลั่นไม่เอาผิดคนป่วนเว็บ ย้ำเลิกใช้คำ Single Gateway

“อุตตม” เผยยังไม่เอาผิดคนป่วนเว็บ แม้จะผิดพ.ร.บ.คอมพ์ ตราบใดที่ยังไม่มีการร้องเรียน ย้ำทุกฝ่ายเลิกใช้คำว่า Single Gateway เพราะเป็นเพียงการศึกษาตามนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล ไม่มีข้อสรุปว่าจะไปในทิศทางใด หรือจะต้องเสร็จเมื่อไหร่

นายอุตตม สาวนายน (ที่ 2 จากขวา) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร หรือไอซีที กล่าวถึงเหตุการเว็บราชการหลายเว็บ รวมถึงเว็บไอซีทีที่ใช้งานไม่ได้เนื่องจากถูกกลุ่มต่อต้านนโยบาย Single Gateway ระดมเข้าเว็บในเวลาพร้อมกัน ว่า ในสถานการณ์ปกติเว็บของกระทรวงไอซีทีสามารถรองรับคนเข้ามาเยี่ยมชมได้ประมาณวันละ 6,000 คน แต่การแสดงเชิงสัญลักษณ์ของกลุ่มที่คัดค้านนโยบาย Single Gateway เข้ามาในช่วงเวลาดังกล่าวถึง 1 แสนราย ดังนั้น จึงทำให้การเข้าเว็บล่าช้า ซึ่งเป็นเรื่องปกติ และกระทรวงได้ให้หน่วยงานสำนักงานรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ (องค์การมหาชน) หรือ EGA ขยายทราฟฟิกเพื่อให้รองรับได้

ทั้งนี้ แม้ว่าการกระทำดังกล่าวจะเข้าข่ายการกระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 ก็ตาม แต่กระทรวงยืนยันว่าจะไม่ดำเนินการเพื่อเอาผิดต่อผู้กระทำการเชิงสัญลักษณ์แต่อย่างใด

สำหรับความเข้าใจผิดเรื่องคำว่า Single Gateway นั้น ขอย้ำอีกทีว่า เป็นเพียงข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่แสดงความห่วงใยเด็ก และเยาวชนในการเข้าถึงข้อมูลเท่านั้น ไม่มีเป็นมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) แต่อย่างใด ซึ่งได้สั่งการให้กระทรวงไอซีทีศึกษาแนวทางการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านโทรคมนาคม ตามนโยบายเศรษฐกิจดิจิตอล เพื่อให้สร้างปลอดภัยต่อการใช้อินเทอร์เน็ตของเด็กและเยาวชน และขอย้ำอีกครั้งว่า เป็นเพียงการศึกษาแนวทาง ยังไม่มีอะไรชัดเจน และไม่ได้ทำเป็น Single Gateway อย่างที่เข้าใจ ที่สำคัญคือ เรื่องที่ห่วงเกี่ยวกับการลิดรอนข้อมูลส่วนบุคคลจะไม่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน

“การศึกษาเป็นการศึกษาอย่างไม่มีกรอบระยะเวลาชัดเจน และยังบอกไม่ได้ว่าจะเป็นแนวทางไหน ยังไม่มีข้อยุติ ซึ่งเราก็พร้อมจะรับฟังความคิดเห็น ดังนั้น ขอความกรุณาไปยังผู้ที่ต่อต้าน อย่าทำแบบนี้อีก เพราะจะกระทบต่อผู้เข้ามาใช้บริการเว็บของราชการ ซึ่งต่อไปเราจะต้องมีการเปิดเวทีสร้างความเข้าใจอีก แต่หวังว่าการแถลงข่าวครั้งนี้จะช่วยทำให้คนที่ไม่เข้าใจ เข้าใจมากขึ้น และขอให้เลิกใช้คำว่า Single Gateway”

ขณะที่ นางทรงพร โกมลสุรเดช (ที่ 2 จากซ้าย) ปลัดกระทรวงไอซีที กล่าวว่า กระทรวงไม่สามารถเอาผิดต่อผู้กระทำการเชิงสัญลักษณ์ได้ เพราะการกระทำเช่นนี้ก็เปรียบเสมือนการก่อม็อบปกติ แต่เปลี่ยนรูปแบบมาทำบนเว็บไซต์แทน ซึ่งตราบใดที่ยังไม่มีผู้ได้รับความเสียหายในการเข้าถึงเว็บ และร้องเรียนให้กระทรวงดำเนินการ กระทรวงก็ไม่สามารถดำเนินการใดๆ ได้ แต่หากมีผู้ร้องเรียนเข้ามากระทรวงก็ต้องหาข้อมูล หลักฐาน และขอหมายศาลซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะขอ หากข้อมูลความเสียหายไม่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน เช่น เข้าเว็บไม่ได้แล้วมีผลต่อการทำธุรกรรมทางการเงิน หรือการประมูลออนไลน์ เป็นต้น

ด้านนายศักดิ์ เสกขุนทด (คนขวาสุด) ผู้อำนวยการ EGA กล่าวว่า กระทรวงไอซีทีมีความพร้อมในการขยายทราฟฟิกแบบไดนามิกอยู่แล้ว การเข้าถึงเว็บล่าช้าครั้งนี้เป็นภาวะที่เข้าเว็บพร้อมกันจำนวนมากกว่าปกติ เหมือนตอนที่เปิดให้คนเข้ามาลงทะเบียนโครงการ Bike for Mom หรือการจองตั๋วผ่านหน้าเว็บที่เอกชนบางรายก็เคยเจอ ดังนั้น จึงเป็นเรื่องปกติที่สามารถแก้ไขได้

สำหรับบรรยากาศในการแถลงข่าว มีสื่อมวลชนให้ความสนใจจำนวนมาก และมีหลายคำถามที่รัฐมนตรีไอซีทีตอบคำถามไม่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง หากมีการกระทำผิดซ้ำอีกกระทรวงจะมีมาตรการป้องกันอย่างไร หากผู้คัดค้านไม่เข้าใจที่รัฐมนตรีแถลงทั้งๆ ที่แถลงมาหลายครั้งแล้วแต่ก็ยังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวอีก รวมถึงจะมีการสร้างความเข้าใจอย่างไรให้ชัดเจน เป็นต้น โดยหลังงานแถลงข่าวจบ รมว.ไอซีที ก็รีบลงจากเวทีพร้อมด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ซึ่งในงานแถลงข่าวมี พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีมาร่วมสังเกตการณ์ด้วย

ด้านนายศุภชัย เจียรวนนท์ นายกสมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า จุดยืนของสมาคมฯ ต่อประเด็น Single Gateway นั้นหากเป็นการละเมิดสิทธิการเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต สมาคมฯ ไม่เห็นด้วย แต่จะต้องมาศึกษารายละเอียดกัน ซึ่งสมาคมฯ จะนำเรื่องดังกล่าวไปหารือกับสมาชิกและแสดงจุดยืนต่อไป

ทั้งนี้ตนเองไม่มั่นใจว่าความหมายของ Single Gateway คืออะไร ถ้าพูดว่าเป็นการสตรีมมิ่ง (streaming) ข้อมูลเข้าออก ระดับความเข้มข้นในการตรวจสอบ (degree) จะเป็นเหมือนประเทศสิงคโปร์ มาเลเชีย สามารถทำได้ แต่หากเป็นแบบจีน ที่เป็นการปิดกั้น (บล็อก) ทุกช่องทาง ซึ่งหากทำแบบจีนก็จะมีหลายฝ่ายออกมาต่อต้านเป็นอย่างมากเนื่องจากประเทศไทย ไม่มีอำนาจเหมือนจีน ดังนั้นขึ้นอยู่ที่ดีกรี ถ้าเป็นในเรื่องของความมั่นคง สิ่งที่จะนำไปสู่ความมั่นคงของประเทศก็คงต้องหาวิธีทางได้ แต่ไม่จำเป็นต้องเป็น Single Gateway แต่ในเวลาเดียวกันจะต้องดูในเรื่องของความเป็นส่วนตัว ไม่ว่าจะเป็นการประกอบธุรกิจ หรือบุคคล ด้วย

สำหรับในประเทศไทย กรณีเหตุการณ์ระเบิดที่ราชประสงค์ หากจำเป็นต้องมีการตรวจสอบ ระดับความเข้มข้นในการตรวจสอบ หากใช้รูปแบบอย่างประเทศสิงคโปร์ มาเลเซีย ที่มีการรักษาความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ต ก็จะทำให้เกิดการสมดุลกัน

นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กล่าวว่า สำนักงาน กสทช. ได้เสนอให้ สมาคมฯ เป็นผู้ประสานงานไปยัง กระทรวงไอซีที เพื่อให้ผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ ที่เป็นผู้ประกอบการเอกชน หารือเรื่องการให้บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตระหว่างประเทศของแต่ละรายที่จะนำมาใช้ร่วมกันในเรื่องของโครงสร้างพื้นฐาน

Company Related Link :
ไอซีที