“บิ๊กตู่” เซ็นเพิ่มเงินรางวัลนำจับคดียาเสพติด หากสั่งฟ้องผู้เสพส่งฟื้นฟูได้คดีละ 360 บาท หากจับได้ทั้งผู้ต้องหาและของกลาง และสั่งฟ้องได้คดีละไม่เกิน 1,000 บาท ยกเว้นจับผู้เสพสารระเหย ส่วนหากเจ้าหน้าที่เสียชีวิต หรือบาดเจ็บทุพพลภาพจนต้องออกจากราชการ จ่ายไม่เกินคนละ 3 แสนบาท บาดเจ็บสาหัสจ่ายไม่เกินคนละ 2 แสน
วันนี้ (23 ก.ย.) มีรายงานว่า เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาได้เผยแพร่ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด (ฉบับที่ 5) พ.ศ. 2558 ดังนี้
“โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๗ เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์การจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติดให้มีความเหมาะสมอาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๑๑ (๘) แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ นายกรัฐมนตรีโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี จึงวางระเบียบไว้ดังนี้
ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด (ฉบับที่ ๕) พ.ศ. ๒๕๕๘”
ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกําหนดหกสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
ข้อ ๓ ให้ยกเลิกความใน (๓) ของข้อ ๑๒ แห่งระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๗ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “(๓) เจ้าหน้าที่ศุลกากรที่มีหน้าที่ในการป้องกันและปราบปรามและการตรวจสินค้าตําแหน่ง ดังนี้ (ก) ประเภททั่วไปตั้งแต่ระดับชํานาญงานขึ้นไป (ข) ประเภทวิชาการตั้งแต่ระดับปฏิบัติการขึ้นไป (ค) ประเภทอํานวยการ (ง) ประเภทบริหาร”
ข้อ ๔ ให้ยกเลิกความในข้อ ๑๓ แห่งระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๗ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ ๑๓ การแจ้งความนําจับให้แจ้งต่อเจ้าพนักงานตามข้อ ๑๒ และให้ผู้รับแจ้งความจัดทําใบรับแจ้งความนําจับตามแบบที่สํานักงาน ป.ป.ส. กําหนด เป็นจํานวนสองฉบับโดยมีข้อความถูกต้องตรงกัน และมอบให้แก่ผู้แจ้งความนําจับ ๑ ฉบับ เพื่อเป็นหลักฐานก่อนการจับกุม เว้นแต่ในกรณีจําเป็นรีบด่วน จะแจ้งความนําจับด้วยวาจาต่อเจ้าพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตํารวจก่อนและจัดทําหลักฐานการแจ้งความภายหลังการจับกุมได้กรณีที่ผู้แจ้งความนําจับประสงค์จะปกปิดข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง ผู้รับแจ้งความนําจับมีหน้าที่ต้องทําหลักฐานข้อมูลส่วนบุคคลของผู้แจ้งความนําจับ และให้หน่วยงานจัดเก็บไว้เพื่อเป็นหลักฐานยืนยันการแจ้งความนําจับดังกล่าว”
ข้อ ๕ ให้ยกเลิกความใน (๑) และ (๒) ของข้อ ๑๘ แห่งระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๙ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน“(๑) คดีที่จับผู้ต้องหาได้ตามกฎหมายว่าด้วยการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด เมื่อหัวหน้าพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องข้อหาเสพหรือรับรองว่าผู้ต้องหาได้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดตามพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๔๕ ให้จ่ายคดีละ ๓๖๐ บาท (๒) คดีที่จับได้ทั้งผู้ต้องหาและยาเสพติดของกลางซึ่งคํานวณตามปริมาณยาเสพติด เป็นเงินไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท เมื่อหัวหน้าพนักงานสอบสวนมีความเห็นควรสั่งฟ้องในข้อหาครอบครองให้จ่ายคดีละไม่เกิน ๑,๐๐๐ บาท ยกเว้น (ก) กรณีตามมาตรา ๙๒ แห่งพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ (ข) กรณีตามมาตรา ๑๗ แห่งพระราชกําหนดป้องกันการใช้สารระเหย พ.ศ. ๒๕๓๓”
ข้อ ๖ ให้ยกเลิกความในข้อ ๒๕ แห่งระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๙ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน“ข้อ ๒๕ ให้จ่ายเงินช่วยเหลือเฉพาะตัวแก่เจ้าพนักงาน หรือเจ้าหน้าที่ผู้ซึ่งได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติงานปราบปรามยาเสพติดที่ได้รับอันตรายในระหว่างการสืบสวน หรือจับกุมผู้กระทําผิดกฎหมายเกี่ยวกับยาเสพติดตามหลักเกณฑ์ ดังนี้ (๑) ผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บทุพพลภาพจนต้องออกจากราชการ ไม่เกินคนละ ๓๐๐,๐๐๐ บาท (๒) ผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนต้องเสียอวัยวะส่วนหนึ่งส่วนใด ไม่เกินคนละ ๒๐๐,๐๐๐ บาท (๓) ผู้ได้รับบาดเจ็บแก่ร่างกายเป็นบาดแผลฉกรรจ์ หรือบาดเจ็บสาหัส และต้องได้รับการรักษาเกินกว่า ๒๐ วัน ไม่เกินคนละ ๖๐,๐๐๐ บาท (๔) กรณีได้รับบาดเจ็บไม่ถึงแก่บาดเจ็บสาหัสและรักษาตัวไม่เกิน ๒๐ วัน ไม่เกินคนละ ๑๐,๐๐๐ บาท
“กรณีเจ้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ และหากต่อมาปรากฏว่าถึงแก่ชีวิต หรือบาดเจ็บทุพพลภาพจนต้องออกจากราชการ ให้จ่ายเงินเพิ่มได้ในอัตราที่กําหนดไว้ใน (๑) ผู้มีสิทธิได้รับเงินช่วยเหลือตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง และมีสิทธิได้รับเงินทําขวัญตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยเงินทําขวัญข้าราชการและลูกจ้าง เมื่อได้รับเงินช่วยเหลือทางใดทางหนึ่งแล้วไม่มีสิทธิขอรับหรือได้รับเงินอีกทางหนึ่ง”
ข้อ ๗ ให้ยกเลิกความในข้อ ๒๖ แห่งระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๙ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “ข้อ ๒๖ การขอรับเงินสินบนตามข้อ ๑๘ (๑) และ (๒) ให้ยื่นคําขอพร้อมกับคําขอรับเงินรางวัลตามแบบที่สํานักงาน ป.ป.ส. กําหนด พร้อมเอกสารหลักฐานดังต่อไปนี้”
(๑) หนังสือรับรองของหัวหน้าพนักงานสอบสวน ในกรณีที่พนักงานสอบสวนมีความเห็นสั่งฟ้องข้อหาเสพหรือรับรองการที่ผู้ต้องหาได้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดตามกฎหมายว่าด้วยการฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด หรือมีความเห็นสั่งฟ้องข้อหาครอบครอง
(๒) สําเนาหลักฐานการตรวจวิเคราะห์และพิสูจน์ยาเสพติดของสถานตรวจพิสูจน์ภาครัฐแล้วแต่กรณี
ข้อ ๘ ให้ยกเลิกความใน (๔) ของข้อ ๒๗ แห่งระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๙ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน “(๔) สําเนาหลักฐานการตรวจวิเคราะห์และพิสูจน์ยาเสพติดของสถานตรวจพิสูจน์ภาครัฐหรืออุปกรณ์การผลิตของสถานตรวจพิสูจน์ภาครัฐ”
ข้อ ๙ ให้ยกเลิกความใน (๘) ของข้อ ๒๗ แห่งระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๙
ข้อ ๑๐ ให้ยกเลิกความในข้อ ๓๐ แห่งระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพตดิ (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๙ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ข้อ ๓๐ การยื่นคําขอรับเงินสินบนหรือเงินรางวัลให้ยื่นภายในหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่หัวหน้าพนักงานสอบสวนมีคําสั่ง หรือรับรองตามข้อ ๑๘ (๑) และ (๒) หรือพนักงานอัยการมีคําสั่งหรือศาลชั้นต้นมีคําพิพากษาแล้วแต่กรณี เว้นแต่การขอรับเงินสินบนหรือเงินรางวัลครึ่งแรกตามข้อ ๑๘ (๓)ให้ยื่นภายในเก้าสิบวันนับแต่วันจับกุมการขอรับเงินช่วยเหลือเฉพาะตัวตามข้อ ๒๕ ให้ยื่นภายในกําหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันที่เจ้าพนักงานหรือเจ้าหน้าที่เสียชีวิตหรือได้รับอันตรายการขอรับเงินรางวัลเพิ่มตามข้อ ๒๕/๑ ให้ยื่นภายในกําหนดหนึ่งร้อยแปดสิบวันนับแต่วันจับกุมหรือยึดได้ยาเสพติด”
ข้อ ๑๑ ให้ยกเลิกความในวรรคสาม ของข้อ ๓๓ แห่งระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๙และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“คณะอนุกรรมการภาค ประกอบด้วย ผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาค หรือตําแหน่งที่เรียกชื่ออย่างอื่นเทียบเท่าผู้บัญชาการตํารวจภูธรภาคหรือผู้แทน เป็นประธาน ผู้แทนส่วนราชการที่เกี่ยวข้องไม่เกินห้าคน เป็นอนุกรรมการ และข้าราชการตํารวจในสังกัดจํานวนสองคน เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ และเป็นอนุกรรมการ และผู้ช่วยเลขานุการ”
ข้อ ๑๒ ให้ยกเลิกความในวรรคสาม วรรคสี่ และวรรคห้า ของข้อ ๓๕ แห่งระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๙ และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน
“ในกรณีจําเป็นเร่งด่วน ให้ประธานอนุกรรมการมีอํานาจกระทําการตามวรรคหนึ่ง และให้รายงานคณะอนุกรรมการทราบในโอกาสแรกของการประชุมคณะอนุกรรมการในกรณีที่ได้มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการภาค ให้คณะอนุกรรมการภาคมีอํานาจหน้าที่พิจารณาจ่ายเงินสินบนตามข้อ ๑๘ เงินรางวัลตามข้อ ๑๙ เงินสินบนเพิ่มตามข้อ ๒๑ และเงินรางวัลเพิ่มตามข้อ ๒๔ ในพื้นที่ที่รับผิดชอบ โดยให้ ป.ป.ส. ประกาศกําหนดชนิดและปริมาณของของกลางในการพิจารณาจ่าย ให้นําความใน (๖) ถึง (๙) ของวรรคหนึ่ง มาใช้บังคับแก่คณะอนุกรรมการภาคโดยอนุโลม”
ข้อ ๑๓ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นวรรคหก ของข้อ ๓๕ แห่งระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด พ.ศ. ๒๕๓๗ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการจ่ายเงินสินบนและเงินรางวัลคดียาเสพติด (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๔๙
“มติคณะอนุกรรมการและคณะอนุกรรมการภาคให้เป็นที่สุด”
บทเฉพาะกาล
ข้อ ๑๔ บรรดาสิทธิในการขอรับเงินสินบนหรือเงินรางวัล รวมทั้งการดําเนินการใด ๆ เกี่ยวกับการจ่ายเงินสินบน หรือเงินรางวัลสําหรับคดียาเสพติดที่จับหรือยึดของกลางได้ก่อนวันที่ใช้ระเบียบนี้ ให้ใช้บังคับตามระเบียบและประกาศที่ใช้อยู่ก่อนวันที่ระเบียบนี้ใช้บังคับ
ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๘
พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา
นายกรัฐมนตรี”