ดีเดย์ไทยใช้วัคซันโปลิโอชนิดฉีด 1 ธันวาคมนี้ ฉีดให้เด็กไทยอายุ 4 เดือน ก่อนเปลี่ยนวัคซีนชนิดกิน 3 สายพันธุ์เหลือ 2 สายพันธุ์ ใน เมษายน 2559 ตามแนวทาง WHO กวาดล้างเชื้อโปลิโอให้หมดไป ด้าน สปสช. เด้งรับบรรจุวัคซีนชนิดฉีดลงเป็นสิทธิพื้นฐานที่เด็กไทยได้รับ พร้อมเตรียมงบ 170 ล้านบาทจัดหา ด้าน บอร์ดวัคซีนเห็นชอบแก้ระเบียบใหม่ เสนอนายกฯ เป็นประธาน แทน รมว.สธ. ดัน ผอ.สถาบันวัคซีนฯ นั่งเลขานุการแทนอธิบดี คร. พร้อมไฟเขียวแผนพัฒนาบุคลากรด้านวัคซีน เผยแผนยุทธศาสตร์วัคซีน 5 ปีฉบับใหม่ เตรียมบรรจุวัคซีนพื้นฐานเพิ่ม 6-7 ตัว
นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า แผนยุทธศาสตร์กวาดล้างเชื้อโปลิโอให้หมดไปจากโลกในปี 2563 นั้น องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ทุกประเทศเริ่มใช้วัคซีนโปลิโอชนิดฉีด (IPV) ภายในปี 2558 เพื่อปูพื้นให้เด็กมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโปลิโอทั้ง 3 สายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่ 2 จากนั้นเดือนเมษายน 2559 ให้ทุกประเทศเปลี่ยนไปใช้วัคซีนชนิดกิน (OPV) 2 สายพันธุ์คือ สายพันธุ์ที่ 1 และ 3 แทนวัคซีน OPV รวม 3 สายพันธุ์ เพื่อกำจัดเชื้อโปลิโอสายพันธุ์ที่ 2 ให้หมดไปเป็นอันดับแรก เนื่องจากเชื้อโปลิโอสายพันธุ์ 2 ตามธรรมชาตินั้นหมดไปตั้งแต่ปี 2542 จึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้วัคซีนที่มีสายพันธุ์ที่ 2 อีก จากนั้นจึงกำจัดโปลิโอสายพันธุ์ที่ 1 และ 3 ให้หมดไปตามลำดับภายในปี 2563
นพ.โสภณ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยเด็กไทยจะได้รับวัคซีน OPV อยู่แล้ว 5 ครั้งคือ 2 เดือน 4 เดือน 6 เดือน 18 เดือน และ 4 ปี โดย สธ.จะนำวัคซีน IPV มาใช้เสริมด้วย 1 เข็ม เมื่อเด็กอายุ 4 เดือน โดยจะเริ่มให้วัคซีน IPV ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมนี้ เป็นต้นไป พร้อมกันนี้ในเดือนเมษายน ประเทศไทยจะเปลี่ยนจากการใช้วัคซีน OPV 3 สายพันธุ์ เป็นวัคซีน OPV 2 สายพันธุ์แทน
ด้าน นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รักษาการเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สำหรับแผนการกวาดล้างโปลิโอในฉากสุดท้าย คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้เห็นชอบให้บรรจุวัคซีนโปลิโอชนิดฉีด (IPV) เป็นสิทธิที่เด็กไทยจะได้รับ และมอบหมายให้ สปสช.ดำเนินการจัดหาวัคซีน เพื่อสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าว ทั้งนี้ จะใช้งบประมาณในการจัดหาวัคซีน จำนวน 170 ล้านบาท
นพ.จรุง เมืองชนะ ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า แผนยุทธศาสตร์ที่นำเสนอนั้น ที่ประชุมเห็นชอบเพียง 2 เรื่องคือ แผนพัฒนาบุคลากรด้านวัคซีน และการแก้ระเบียบคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ โดยเสนอให้นายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน แทน รมว.สาธารณสุข โดยมี ผอ.สถาบันวัคซีนฯ เป็นเลขานุการ แทนอธิบดีกรมควบคุมโรค เนื่องจากเรื่องของวัคซีนไม่ใช่แค่เรื่องภายในกระทรวงสาธารณสุข แต่เป็นเรื่องระดับชาติที่มีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น
"สำหรับวัคซีนที่จะบรรจุเป็นวัคซีนพื้นฐานตามแผนยุทธศาสตร์วัคซีนฉบับใหม่มีประมาณ 6-7 ตัว อาทิ วัคซีนไอกรนชนิดไร้เซลล์ วัคซีนรวมคอตีบ/บาดทะยักสำหรับผู้ใหญ่ วัคซีนรวมคอตีบ บาดทะยัก และไอกรน (DTP) วัคซีนรวมคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน และตับอักเสบบี (DTP-HB) ป้องกัน 4 โรค และวัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบเจอี เป็นต้น ซึ่งน่าจะได้รับการบรรจุภายใน 5 ปีนี้" นพ.จรุง กล่าว
นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า แผนยุทธศาสตร์กวาดล้างเชื้อโปลิโอให้หมดไปจากโลกในปี 2563 นั้น องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำให้ทุกประเทศเริ่มใช้วัคซีนโปลิโอชนิดฉีด (IPV) ภายในปี 2558 เพื่อปูพื้นให้เด็กมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อโปลิโอทั้ง 3 สายพันธุ์ โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่ 2 จากนั้นเดือนเมษายน 2559 ให้ทุกประเทศเปลี่ยนไปใช้วัคซีนชนิดกิน (OPV) 2 สายพันธุ์คือ สายพันธุ์ที่ 1 และ 3 แทนวัคซีน OPV รวม 3 สายพันธุ์ เพื่อกำจัดเชื้อโปลิโอสายพันธุ์ที่ 2 ให้หมดไปเป็นอันดับแรก เนื่องจากเชื้อโปลิโอสายพันธุ์ 2 ตามธรรมชาตินั้นหมดไปตั้งแต่ปี 2542 จึงไม่มีความจำเป็นต้องใช้วัคซีนที่มีสายพันธุ์ที่ 2 อีก จากนั้นจึงกำจัดโปลิโอสายพันธุ์ที่ 1 และ 3 ให้หมดไปตามลำดับภายในปี 2563
นพ.โสภณ กล่าวว่า สำหรับประเทศไทยเด็กไทยจะได้รับวัคซีน OPV อยู่แล้ว 5 ครั้งคือ 2 เดือน 4 เดือน 6 เดือน 18 เดือน และ 4 ปี โดย สธ.จะนำวัคซีน IPV มาใช้เสริมด้วย 1 เข็ม เมื่อเด็กอายุ 4 เดือน โดยจะเริ่มให้วัคซีน IPV ตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคมนี้ เป็นต้นไป พร้อมกันนี้ในเดือนเมษายน ประเทศไทยจะเปลี่ยนจากการใช้วัคซีน OPV 3 สายพันธุ์ เป็นวัคซีน OPV 2 สายพันธุ์แทน
ด้าน นพ.ประทีป ธนกิจเจริญ รักษาการเลขาธิการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) กล่าวว่า สำหรับแผนการกวาดล้างโปลิโอในฉากสุดท้าย คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้เห็นชอบให้บรรจุวัคซีนโปลิโอชนิดฉีด (IPV) เป็นสิทธิที่เด็กไทยจะได้รับ และมอบหมายให้ สปสช.ดำเนินการจัดหาวัคซีน เพื่อสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าว ทั้งนี้ จะใช้งบประมาณในการจัดหาวัคซีน จำนวน 170 ล้านบาท
นพ.จรุง เมืองชนะ ผอ.สถาบันวัคซีนแห่งชาติ (องค์การมหาชน) กล่าวว่า แผนยุทธศาสตร์ที่นำเสนอนั้น ที่ประชุมเห็นชอบเพียง 2 เรื่องคือ แผนพัฒนาบุคลากรด้านวัคซีน และการแก้ระเบียบคณะกรรมการวัคซีนแห่งชาติ โดยเสนอให้นายกรัฐมนตรี หรือรองนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน แทน รมว.สาธารณสุข โดยมี ผอ.สถาบันวัคซีนฯ เป็นเลขานุการ แทนอธิบดีกรมควบคุมโรค เนื่องจากเรื่องของวัคซีนไม่ใช่แค่เรื่องภายในกระทรวงสาธารณสุข แต่เป็นเรื่องระดับชาติที่มีหลายหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงพาณิชย์ เป็นต้น
"สำหรับวัคซีนที่จะบรรจุเป็นวัคซีนพื้นฐานตามแผนยุทธศาสตร์วัคซีนฉบับใหม่มีประมาณ 6-7 ตัว อาทิ วัคซีนไอกรนชนิดไร้เซลล์ วัคซีนรวมคอตีบ/บาดทะยักสำหรับผู้ใหญ่ วัคซีนรวมคอตีบ บาดทะยัก และไอกรน (DTP) วัคซีนรวมคอตีบ บาดทะยัก ไอกรน และตับอักเสบบี (DTP-HB) ป้องกัน 4 โรค และวัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบเจอี เป็นต้น ซึ่งน่าจะได้รับการบรรจุภายใน 5 ปีนี้" นพ.จรุง กล่าว