ASTVผู้จัดการรายวัน - "ประยุทธ์" มอบ "ประวิตร" รักษาการแทน ช่วงไปประชุมยูเอ็น ที่สหรัฐฯ พร้อมรับฟังรายชื่อตามสื่อเสนอ นั่งกรธ.-สปท. เตือนพรรคการเมืองไหนไม่ร่วม อย่าปากมากค้านทุกเรื่อง "บิ๊กต๊อก" เชื่อการเคลื่อนไหว"แม้ว" ยังไม่สร้างปัญหา ไม่หวั่นวิกฤติการเมืองช่วงคดีความสำคัญทยอยจบ "บิ๊กป้อม"ไม่หวั่น"บิ๊กตู่"โดนต้านที่เวทีโลก เผยภาพชุด “แม้ว อิน ฮ่องกง” ที่แท้แค่ “ทัวร์ลิ่วล้อเสื้อแดง” บินพบกินเลี้ยงเสิ่นเจิ้น
เมื่อเวลา 13.40 น. วานนี้ (22 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ได้มีการมอบหมายภารกิจหลายอย่างโดยเฉพาะได้มอบหมาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการในช่วงที่ตนเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) ที่นครนิวยอร์กสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 23 ก.ย.-1 ต.ค.นี้
*** ฝากงานช่วงไปอเมริกา
สำหรับประเด็นการประชุม ครม. มีหลายเรื่อง โดยสิ่งที่ตนได้ฝากไว้ในช่วงที่ไม่อยู่ ก็ให้ดูแลติดตามในเรื่องของการสรรหา ซึ่งเป็นขั้นตอนแรก ในส่วนของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ซึ่งปัจจุบันมีหลายกลุ่มหลายฝ่ายเสนอรายชื่อเข้ามาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะเอาใครหรือไม่เอาใคร หรือให้ใครมาเป็นประธาน กรธ. จะต้องพิจารณากันอีกครั้ง ตอนนี้ก็ต้องมีการพูดคุยกันก่อน ซึ่งตนพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นจากทุกคน
"ส่วนบรรดารายชื่อต่างๆ ที่เข้ามาผ่านสื่อมวลชนนั้น ผมก็รับพิจารณาไว้ทั้งหมด และเดี๋ยวก็คงจะมีการหารือกันอีกครั้งในระดับ ครม.- คสช. ว่ามีความเหมาะสมอย่างไร เพราะทุกคน ทุกท่าน มีความตั้งใจอยู่แล้ว สิ่งสำคัญขอฝากไว้ประเด็นเดียวก็คือ เราต้องมองจุดมุ่งหมายสุดท้ายของเราว่า ต้องการอะไร อย่าไปมองเพียงแค่ว่า รัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่าน ถ้ามองแค่ตรงนี้ มันไปไม่ได้ มันติดตั้งแต่ต้นแล้ว จะต้องมองว่า เราต้องการอะไรและผลสุดท้ายประเทศชาติ มีความสงบสุขสันติเข้มแข็งลดปัญหาที่ผ่านมาหรือเปล่า ถ้าย้อนกลับมาได้ เราควรจะมีอะไร อย่างไร แต่อยากให้เอาจุดหมายปลายทางมาก่อน"
ในส่วนของการขับเคลื่อนก็เช่นกัน ซึ่งแนวทางตนเคยเรียนไปแล้วว่า ให้เอาของที่เขาทำมาแล้ว มาพิจารณาอีกครั้งและนำไปสู่การพิจารณาออกเป็นกฎหมายใน สนช. ซึ่งก็ต้องสอดคล้องกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ที่ตนจะแต่งตั้งขึ้นมาในช่วงนี้ เป็นการนำร่องให้เห็นว่ามันน่าจะเป็นอย่างไรในช่วงรัฐบาลนี้ ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ ก็สุดแล้วแต่พวกเราทุกคนจะเป็นผู้กำหนดว่า จะเป็นอย่างไรต่อไปในรัฐธรรมนูญ บางครั้งคนไทยต้องหัดคิดย้อนกลับไปกลับมา เพราะบางอย่างถ้าคิดจากต้นทางไป มันก็ไปไม่ได้ทั้งหมด มันจะเจอแต่ทางตัน แต่ถ้าไปคิดปลายทางกลับมา มันก็อาจจะไปได้ ดังนั้น เราจะต้องหาทางออก
**ยันไม่เปิดชื่อ สปท.และ กรธ.
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายนิรันดร์ พันทรกิจ อดีตสมาชิก สปช. เสนอให้นายกฯ เปิดเผยรายชื่อ สปท.และ กรธ. ก่อนเดินทางไปร่วมประชุมยูเอ็น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาอยากให้เปิดเผย แต่ตนไม่อยาก จะทำไม ตนเป็นคนกำหนด ถ้าตามใจคนมาก ก็ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
เมื่อถามว่า จากกระแสข่าวบุคคลที่จะเป็นประธาน กรธ. นอกจาก นายมีชัย ฤชุพันธุ์ สมาชิก คสช. และ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ยังมีชื่อบุคคลอื่นอีกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่รู้ ก็เห็นหนังสือพิมพ์เสนอมาทั้งนั้น ก็เสนอมาสิ บอกแล้วไง ยังไม่ได้ตัดสินใครทั้งสิ้น ปัญหาคือ เราจะต้องคุยกันว่าจะเดินอย่างไร ถ้าเข้าใจตรงกันก็พอจะหาทางออกคุยกันได้ ให้เป็นที่พึงพอใจของทุกฝ่าย
เมื่อถามว่า บุคคลที่จะเป็นประธานกรธ. นายกฯ ยึดหลักอะไรในการเลือก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยึดหลักการทำเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่มีตัวตน เมื่อถามว่ามีคุณสมบัติอื่นมากกว่านี้อีกหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่มี แค่นี้ก็ทำไม่ไหวแล้ว เพื่อชาติบ้านเมือง ชาติมันเล็กๆ หรือไม่ ชาติ คือประชาชน ทั้งประเทศ 70 ล้านคน ยังไม่พอหรือ
เมื่อถามว่า มีการเสนอรายชื่อบุคคลที่เหมาะสมเข้ามาให้เลือกทั้ง กรธ. และ สปท. มากแค่ไหน เปิดเผยได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่เยอะ มีอยู่ 20-30 คน ดูแล้วคงไม่มีใครอยากมาเท่าไหร่ เขาไม่อยากมาอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง ฉะนั้น ข้างนอกก็ต้องไม่ขัดแย้ง ไม่กดดันเขา ทั้งนี้เรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องของ กรธ. ถ้าได้มาเขาก็เป็นคนร่าง จะเห็นชอบหรือไม่ ก็ว่ากันไป แต่ถ้าไปกดดันว่า ต้องอย่างนี้ อย่างนั้น ซึ่งตนยังไม่อยากกดดันเขาเลย
"ให้เขามีอิสระในการทำงานหน่อย เอาจุดมุ่งหมายประเทศชาติเป็นหลัก นั่นแหล่ะมันถึงจะได้คนดีมาทำงาน ไม่อย่างนั้นใครเข้ามาก็หาว่ารับใช้คสช. ไม่เข้ามาก็หาว่าอย่างนู้นอย่างนี้ คือ สรุปไม่มีใครอยากทำอะไรหรอก ประเทศนี้ บ้านนี้ เมืองนี้ โดนซะก่อนหมด แต่ต้องการสงบสุข มีความสุข ต้องการอาชีพ รายได้ที่ดี แต่ใครทำให้เขาไม่ได้ ไม่ถูกใจทั้งหมด" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
** นักการเมืองอย่าดีแต่สวน ต้องเข้ามาร่วม
เมื่อถามว่าหนักใจต่อการสรรหา กรธ.และ สปท.หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่หนักใจ ตนก็ให้ทุกคนที่อยู่ ไปติดต่อพูดคุย มีความคิดเห็นอย่างไร ตนจะไปหนักใจทำไม เพราะไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อคนไทย 70 ล้านคน
เมื่อถามว่า มีฝ่ายการเมืองสนใจเข้ามาให้ความร่วมมือ หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของกรธ. ต้องเป็นนักกฎหมาย ซึ่งในส่วนของสปท. ก็มีฝ่ายการเมืองเสนอตัวเข้ามาร่วม แต่มีไม่กี่คน ไม่กี่พรรค เขาไม่เข้ามาก็ช่าง แล้วอย่ามาพูดทีหลังว่า ไม่เห็นด้วย ประชาชนทั้งประเทศก็ดูเอาแล้วกัน ว่าเขาอยู่ เขาวางตัวเองไว้ตรงไหน
" สิ่งที่ผ่านมาผมไม่อยากจะโทษ แต่ถ้าผมไม่โทษ มันก็กลับมาโทษผมอยู่แบบนี้ วันนี้ที่มันเกิดเรื่องมันเกิดเพราะใคร ส่วนไหนทำ ถึงเป็นอย่างนี้อยู่ แล้ววันนี้ยังมาคัดค้านอยู่แบบนี้ ตัวเองคนที่ผิดก็ยังไม่ยอมรับความผิดพลาด หรือรับผิดชอบอะไรสักอย่าง ผมว่ามันไม่ถูก ขณะเดียวกันจะให้ผมสงบเงียบเรียบร้อย ปรองดองทุกอย่างมันไม่ใช่เวลาของผม" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า สัดส่วนทหารที่จะเข้าร่วม สปท.มีจำนวนเท่าไร นายกฯ กล่าวว่า เขาก็ตั้งไว้เฉยๆ เดี๋ยวมากน้อยเขาก็เกลี่ยเอาเอง คงไม่ต้องเท่านั้นเท่านี้หรอก แค่เดินลงบันได ตนก็เปลี่ยนสัดส่วนได้แล้ว 50 เหลือ 15 เหลือ 25 เหลือ 20 ก็ตนตัดสินใจเองในคราวหลัง เขาเสนอมา 150 ตนก็ตัดเหลือ 50 ถ้าสัดส่วนมันน้อย ตนก็ลดลงแค่นั้นเอง อย่าไปสนใจเรื่องนี้ ต้องสนใจว่า เขาจะทำเรื่องอะไร รู้หรือยังเขาจะทำอะไร ถามสิว่าเขากำลังจะทำอะไร แล้วจะทำงานแบบไหน เขาจะปฏิรูปกันอย่างไร แบบนี้ไม่ถาม แต่กลับไปสนใจว่า มีคนกี่คน จะออกแบบไหน เลือกตั้งเมื่อไหร่ มันอยู่แค่นี้ในปัญหาโลกแตก
" ผมถามว่ารัฐธรรมนูญต่อให้เขียนวิเศษวิโส ถ้ามันไม่ปฏิบัติ จะเกิดอะไรขึ้น กฎหมายทุกวันนี้มีกี่มาตรา มันยังติดคุกกันเป็นแถวอยู่นี่ ฉะนั้นไม่ได้อยู่ที่กฎหมาย ไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญอย่างเดียว ไม่ได้อยู่ที่กติกา เขาเรียกว่า คนในชาติจะต้องร่วมมือกันอย่างไร ผลประโยชน์ชาติอยู่ตรงไหน ถ้าคิดแบบนั้นก็ไม่ต้องมี ผมก็ไม่ต้องเข้ามา รัฐบาลใครจะเข้าก็เข้ามา อยากทำอะไรก็ทำกันไป มันมีทุกอย่างอยู่แล้ว วันนี้ที่มันยุ่งจริงๆ แล้วไม่ต้องเขียนใหม่ด้วยซ้ำ รัฐธรรมนูญที่ผ่านๆ มานี้ ถ้ามันยึดถือก็ไม่ต้องแก้ แต่มันไม่ถือไง ทะเลาะกันมาตลอดทุกฉบับ แล้วเราจะทะเลาะเรื่องรัฐธรรมนูญไปอีกสักกี่ฉบับ มันจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนผ่านไหมในช่วงนี้ จำเป็นจะต้องเตรียมการประชาธิปไตยที่เป็นสากลหรือไม่ คำว่าสากล ก็ต้องกลับมาดูว่าคนของเราพร้อมหรือยังที่จะเป็นสากลทุกอย่าง สิทธิ เสรีภาพ เราเอาสิ่งที่สบายรับมาหมด ประเทศเราอะไร ที่ไม่สบายไม่เอา ไม่ชอบ แล้วจะเอาอะไรแล้วจะได้อะไรกลับมา มันไม่ได้อะไรกลับมาหรอก คนในชาติทุกประเทศ ต้องมีระเบียบวินัยพอสมควร" นายกฯกล่าว
** ไม่สน"แม้ว"คอยจ้องป่วน
เมื่อถามว่าในขณะที่นายกฯกำลังขับเคลื่อนประเทศซึ่งประชาชนดูอยู่ ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มคนไปรวมตัวกันที่ประเทศฮ่องกง คอยทำลายสมาธิ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างอารมณ์เย็นว่า ตนไม่ได้ให้ความสำคัญมากมายขนาดนั้น ตนถือว่ากำลังทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ ใครจะว่าอะไรก็ว่าไป เคารพกติกากันบ้าง เวลาเขาอยู่ในหน้าที่ต่างๆ ตนไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว และวันนี้ตนก็ทำงานของตน ประชาชนก็ดูแล้วกัน เขาทำถูกหรือทำผิด ถ้าสิ่งที่เขาทำกลายเป็นว่าถูกมากกว่าสิ่งที่ตนทำ ถ้าอย่างนี้ก็โอเค โลกก็กลับตาลปัตรแล้ว แต่ตนไม่ได้หมายความว่า เขาทำถูกหรือผิดทั้งหมด ที่ผิดก็เยอะที่ถูกก็คงมีอยู่บ้าง แต่ทั้งนี้ให้กฎหมายเป็นผู้ตัดสิน ถ้าไม่รับกฎหมายอีก แล้วจะตัดสินด้วยอะไร ถ้าเรายังให้เครดิตไปมาอย่างนี้ ท่านไม่จำเป็นต้องมาให้เครดิตตน ขณะเดียวกันต้องไม่ให้เครดิตคนอื่น ตนขอแค่นั้น ยังได้ยังดีกว่า แต่กลับให้เครดิตตน ให้เครดิตอีกข้างเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่ทำคนละอย่างกัน มันใช่ไหมล่ะ แค่นี้นะ ขอเวลาไปเตรียมตัวไปประชุมยูเอ็น โชคดี นะ
** "บิ๊กต๊อก"เชื่อ"แม้ว"ยังไม่สร้างปัญหา
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว. ยุติธรรม กล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่เกาะฮ่องกง ว่า ฝ่ายความมั่นคง และกระทรวงการต่างประเทศคงต้องคุยกัน ส่วนตัวไม่เห็นว่านายทักษิณ สร้างปัญหาอะไร มองว่าเป็นเรื่องปกติ และการเคลื่อนไหวไม่เกี่ยวกับว่าจะอยู่ไกล หรือใกล้ประเทศ หากจะพูดถึงความมั่นคง ต้องดูว่าผลกระทบมีความรุนแรงขนาดไหน ทั้งนี้ในส่วนของคสช. จะคิดอย่างไร ตนไม่ทราบ
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายทักษิณ มีหมายจับของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอยู่นั้น พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ และอัยการ จะเป็นผู้ดำเนินการเพราะเป็นหน่วยงานหลัก เมื่อถามว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้ เริ่มมีคดีความสำคัญใกล้จะจบในหลายคดี พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า คดีความต่างๆ ไม่ได้เกิดสมัยคสช. หากเราเคารพกระบวนการยุติธรรม และกฎหมาย ก็ไม่ต้องไหวหวั่นกับมันในเรื่องนี้ และ คสช.ไม่เคยเข้าไปแทรกแซง แต่ผลของการกระทำต่างๆ กำลังทยอยออกมาตามระยะเวลาของกระบวนการยุติธรรม ตรงนี้ต้องทำให้ประชาชนเข้าใจว่า สิ่งต่างๆ เป็นไปตามกระบวนการ และบางกลุ่มอาจจะเห็นว่าช้า บางกลุ่มอาจมองว่าเร็ว
รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า สำหรับการเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกาของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ในที่ประชุมครม. นายกฯได้ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ และท่านบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง ท่านดูแลตัวเองได้ เพราะมั่นใจว่าการเดินทางไป ไปเพื่อทำความเข้าใจให้บ้านเมือง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อยู่ที่ฮ่องกงนั้น ฝ่ายความมั่นคงไม่ได้มีการประเมินอะไร จะทำได้อย่างไร ใครจะไปจะมา ไม่มีนัยยะอะไร ตนบอกไปหลายครั้งแล้วว่า ทำอะไรก็ได้ แต่อย่าสร้างความขัดแย้งภายในประเทศ เพราะไม่มีประโยชน์อะไร ซึ่งขณะนี้อยู่ในห้วงเปลี่ยนผ่าน ก็ต้องช่วยกันทุกฝ่าย อีกหน่อยมีรัฐธรรมนูญ ก็จบแล้ว
เมื่อถามว่า หากกลุ่มการเมืองจะไปพบ นายทักษิณ ที่ฮ่องกง ทางคสช.จะมีการติดตามอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขาไปหรือยัง ตนไม่รู้ เขาเป็นญาติกันหรือเปล่า ตนก็ไม่รู้สิ ไม่ต้องห่วงนะ อย่าไปห่วงมาก
** ไม่หวั่น"บิ๊กตู่"โดนต้านที่เวทีโลก
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีรายงานข่าวการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติระดับผู้นำ เพื่อรับรองวาระการพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. 2015 และการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 70 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ว่า ไม่มี ทางสหรัฐฯ มีกฎหมาย ไม่ใช่ไปชุมชนได้เฉยๆ จะต้องบอกจำนวน บอกเวลา บอกว่าไปชุมนุมในเรื่องอะไร ไม่ใช่เรื่องเสรี เพราะเขามีกฎหมายควบคุมดูแลอยู่ ตนก็บอกไปแล้วว่า นายกฯตั้งใจทำงานให้คนไทย ทำงานให้ประเทศ ทำในสิ่งที่ดีไม่ได้ทำร้ายใครเลย ฉะนั้นความดีก็จะไปปกป้องตัวท่านเอง ไม่ต้องห่วงหรอก ทั้งนี้นายกฯไม่ได้ฝากอะไรในที่ประชุมครม. ท่านไม่ห่วงอะไร มีสื่อมวลชนเยอะแยะ ก็ต้องช่วยตน ช่วยนายกฯด้วย และคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น
** "วิษณุ"ยันไม่ใช่คนจัดโผ สปท.อย่ามาวิ่งเต้น
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการสรรหาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ว่า จะมีการรวบรวมรายชื่อเท่าที่ได้ไปก่อน ซึ่งนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปประชุมสหประชาชาติในวันที่ 23 ก.ย.-1ต.ค. เมื่อกลับมาจึงจะอนุมัติรายชื่อ ในช่วงนี้ ท่านนายกฯให้รวบรวมรายชื่อเท่าที่ได้ไปก่อน หากนายกฯ เห็นชอบใคร ก็ให้ติดต่อระหว่างที่ไม่อยู่ เพราะบางคนอาจต้องไปลาออกจากตำแหน่งอื่น หรือ การมาร่างรัฐธรรมนูญ ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2 ปี จึงต้องพูดให้เข้าใจ เมื่อนายกฯ กลับมาจะมีการพูดกันอีกครั้ง ซึ่งจะทันเวลาในวันที่ 6 ต.ค. ที่จะครบ 30 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดไว้ โดยเวลานั้นต้องมีชื่อแล้ว
ส่วนที่มีชื่อ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ สมาชิก คสช. จะมาเป็นประธานกรธ.นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ตนได้เจอกับนายมีชัยแล้ว ได้ทักทาย แต่ยังไม่ได้ทาบทาม ส่วนที่มีชื่อ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ ออกมาด้วยนั้น ตนยังไม่ได้พบ นายอานันท์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของ กรธ. 21 คน ตอนนี้ได้กี่คนแล้ว นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่ทราบ นายกฯ มอบหมายให้หลายคนไปรวบรวม และ ตนไม่ได้ดูเฉพาะฝ่ายกฎหมาย เพราะนายกฯ บอกเพียงว่า ให้ไปดูๆ มา มีใครแล้วเสนอมา ส่วนรายชื่อทั้งหมด อยู่ที่นายกฯ อาจจะเยอะ แต่ตนไม่ทราบ ขณะที่ สปท.นั้น ตนไม่ได้รับผิดชอบ ดังนั้นใครอย่ามาวิ่งกับตน
**แนะใช้ฝ่าเท้าตรองก่อนโจมตี"สูตรพิสดาร"
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีเคยออกมาพูดว่า กฎหมายพรรคการเมืองอาจมีสูตรพิสดาร ว่า ที่ตนพูดไม่ได้หมายความว่า เปิดช่อง หรือชี้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เป็นการตอบคำถามที่มีคนถามถึงสูตรของนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ให้ใช้สูตร 3-3-3-2 ว่าไม่สามารถทำได้ สูตรของนายจาตุรนต์ ที่จะให้เวลาการเลือกตั้ง 2 เดือนนั้น ตนถามว่า จะเป็นไปได้อย่างไร เพราะต้องออกกฎหมายลูกถึง 6 ฉบับ และไม่มีใครรู้ว่า หน้าตาจะเป็นอย่างไร อย่างกฎหมายพรรคการเมือง อาจจะพิสดาร เช่น ถ้าเป็นกฎหมายพรรคการเมืองใหม่ กฎหมายพรรคการเมืองเก่า ก็ต้องเลิกไป พรรคการเมืองที่เคยตั้งอยู่ จะทำอย่างไร จะให้จดทะเบียนใหม่ หรือหาสมาชิกใหม่หรือไม่ ยังไม่รู้
ส่วนพรรคที่ตั้งใหม่ จะต้องนับหนึ่งใหม่ หากใช้เวลาเพียง 2 เดือน พรรคใหม่จะเสียเปรียบ ข้อสำคัญ ถ้ามันเกิดพิสดาร เขียนให้พรรคเก่า ได้รับผลกระทบขึ้นมา จะวุ่นไปหมด ซึ่งเวลา 2 เดือน จะไม่ทันเลือกตั้ง ความหมายเป็นเช่นนั้น ไม่ได้เป็นการชี้ช่อง ออกกฎหมายลูกก่อนกฎหมายแม่ หรือตนจะเป็นคนไปร่าง และไม่รู้ว่า เขาจะเขียนอย่างไร เป็นการสมมุติออกมา เพื่อชี้แจงว่า 2 เดือน เป็นไปไม่ได้เท่านั้นเอง ถ้าไม่พิสดารก็ไม่เป็นไร
"ตัวอย่างที่ผมยกขึ้นมา ไม่ได้เป็นการโยนหินถามทาง แต่เป็นการสมมุติขึ้นมา เพื่อให้เห็นว่าเวลา 2 เดือนเป็นไปไม่ได้ ช่วยกันคิดด้วยสติปัญญา เอาฝ่าเท้ายกขึ้นมา นวดฝ่าเท้าสักที แล้วตรองหน่อยว่า 2 เดือนมันทันจริงหรือ เมื่อตรงนี้ไม่ทัน ส่วนอื่นที่ให้ร่นมามันก็ไม่ทัน เพราะรัฐธรรมนูญเขาให้ร่างภายใน 6 เดือน ย่นหน่อยได้ แต่จะบอกว่า 2 - 3 เดือนพอจะเป็นได้อย่างไร เพราะต้องไปถามความเห็นคนเขาด้วย ต่อให้หยิบรัฐธรรมนูญ 40, 50 หรือ 58 ก็ต้องเอามาปรับปรุง ซึ่งคงต้องให้เวลาเป็นแรมเดือน" นายวิษณุ กล่าว
** "บิ๊กป้อม"ปัดข่าว"มีชัย"ไม่รับปธ.กรธ.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุม ครม. ถึงความคืบหน้าตั้ง กรธ. ว่า มีรายชื่อแล้ว แต่ไม่รู้ว่าใครได้บ้าง เมื่อถามว่ารายชื่อที่พิจารณาอยู่ตอนนี้ มีกี่รายชื่อ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จำไม่ได้ มีหลายคน เมื่อถามว่าล่าสุดมีข่าว นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งประธาน กรธ. พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี ตนไม่เห็นได้ยินใครปฏิเสธเลย ไม่มี ยังไม่ได้คุยกับท่านเลย สื่ออย่าไปคิดเอาเอง
เมื่อถามว่า ตกลงคนที่ คสช.ทาบทาม ไม่ได้ออกมาปฏิเสธ การเป็นกรธ. ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รู้ได้อย่างไรว่าทาบทาม หรือไม่ทาบทาม มันไม่ใช่ ตนไม่ได้พูดอย่างนั้น ยังไม่ได้ทาบทามใครเลย ดูว่าคนไหน คนไหนไม่เก่ง ยังไม่ทาบทามใครทั้งสิ้น เมื่อถามว่า ที่นายกฯ ระบุว่า ให้หลายฝ่ายๆไปทาบทาม ส่วนตัวได้ทาบทามใครบ้าง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่รู้ จำไม่ได้ นายกฯ บอกเมื่อไหร่ ทำไมตนยังไม่รู้เลย ใจเย็นๆ คสช.และรัฐมนตรี เขาต้องทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า หลังนายกฯ กลับจากประชุมยูเอ็น ที่สหรัฐฯ จะมีการประชุมร่วมครม.-คสช. อีกครั้ง หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เดี๋ยวว่า นายกรัฐมนตรีจะสั่งอย่างไร ให้ได้รายชื่อก่อน แล้วก็เสนอนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านจะสั่งประชุม สั่งทำอะไรก็เรื่องของท่าน ให้ท่านตัดสินใจ อย่าไปตัดสินใจให้ท่านบ่อยหนัก
** กำหนดการ"บิ๊กตู่"ในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ กำหนดการโดยย่อของการปฏิบัติภารกิจของนายกฯ ในการเดินทางไปสหรัฐฯ มีดังนี้
วันพุธที่ 23 ก.ย.58 นายกฯ และคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ และในช่วงสายของวันที่ 24 ก.ย. จะเดินทางถึงนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และร่วมประชุมทีมประเทศไทยในสหรัฐฯ ณ โรงแรมที่พัก
วันศุกร์ที่ 25 ก.ย. นายกฯ จะร่วมการประชุมสหประชาชาติ ระดับผู้นำเพื่อรับรองวาระการพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. 2015 (Post-2015 Summit)และกล่าวถ้อยแถลงใน Interactive dialogue 1 :“Ending poverty and hunger”และร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ซึ่งจัดโดยสภานักธุรกิจสหรัฐ ฯ- อาเซียน ( US-ASEAN Business Council -USABC )
วันเสาร์ที่ 26 ก.ย. นายกฯ เข้าร่วมการประชุม Post-2015 Summitและหารือทวิภาคี กับผู้นำประเทศ ในช่วงเย็น จะเข้าร่วมงานเลี้ยง Celebratory Gala Dinner 150 ปี ITU และรับมอบรางวัล ITU Global Sustainable Digital Development Award
วันอาทิตย์ 27 ก.ย. เข้าร่วมประชุม High-level special event “Catalysing Implementation and Achievement of the Water Related SDGs” และ การประชุม Global Leaders’ Meeting on Gender Equality and Women’s Empowerment: A Commitment to Action ช่วงบ่าย นายกฯ จะกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุม เต็มคณะ Post-2015 Summit
วันจันทร์ที่ 28 ก.ย. ช่วงเช้า นายกฯ ร่วมงานเลี้ยงรับรอง (Welcoming Reception) โดยเลขาธิการสหประชาชาติเพื่อเป็นเกียรติแก่หัวหน้าคณะผู้แทน ก่อนเข้าร่วมพิธีเปิดการอภิปรายทั่วไป (UNGA 70) ช่วงบ่ายเลขาธิการสหประชาชาติเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน (State Luncheon) แก่หัวหน้าคณะผู้แทน และช่วงค่ำประธานาธิบดีสหรัฐฯ และภริยา เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงรับรองเพื่อเป็นเกียรติแก่หัวหน้าคณะผู้แทน
วันอังคารที่ 29 ก.ย. นายกฯ พบหารือทวิภาคีกับผู้นำประเทศ และกล่าวถ้อยแถลงในการอภิปรายทั่วไป (UNGA) ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 9/11 ที่ Ground Zero ด้วย
วันพุธที่ 30 ก.ย. นายกฯ เดินทางออกจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยจะเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทยในช่วงค่ำ ของวันพฤหัสบดีที่ 1 ต.ค.58
**** ทัวร์ลิ่วล้อเสื้อแดง
วานนี้ (22 ก.ย.) มีรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Supraipon Chuaychoo ได้โพสต์ภาพชุดพบว่า มีชายหน้าเหมือนนายทักษิณ ชินวัตร ได้มาร่วมงานและถ่ายภาพกับคนกลุ่มหนึ่ง ใช้ชื่อว่า “ทัวร์เสื้อแดงรักทักษิณ” โดยมีข้อความ เช่น กอด คนที่รัก และศรัทธา ดีกว่า เปิดทีวี เสียเวลาดูโจ..
อีกหลายข้อความเขียนว่า “นี่คือ หัวใจของฅนเสื้อแดง 19-21 กันยายน 2558 ณ ฮ่องกง เสิ่นเจิ้น กับทัวร์เสื้อแดง ทัวร์เสื้อแดงรักทักษิณ “ไม่ต้องมียศ ไม่ต้องมีศักดิ์ รักทักษิณตลอดไป” ณ ฮ่องกง, ชนะเลือกตั้งอย่างมีศักดิ์ศรี เผด็จการอัป...
ขณะที่โพสต์ก่อนหน้านั้น มีการนำคณะทัวร์ที่ระบุว่า ทัวร์เสื้อแดงจะเดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร และนายจักรภพ เพ็ญแข ที่หลบหนีคดี มาตรา 112 ที่ฮ่องกงด้วย
เมื่อเวลา 13.40 น. วานนี้ (22 ก.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ได้มีการมอบหมายภารกิจหลายอย่างโดยเฉพาะได้มอบหมาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาการในช่วงที่ตนเดินทางไปร่วมประชุมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นจีเอ) ที่นครนิวยอร์กสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ 23 ก.ย.-1 ต.ค.นี้
*** ฝากงานช่วงไปอเมริกา
สำหรับประเด็นการประชุม ครม. มีหลายเรื่อง โดยสิ่งที่ตนได้ฝากไว้ในช่วงที่ไม่อยู่ ก็ให้ดูแลติดตามในเรื่องของการสรรหา ซึ่งเป็นขั้นตอนแรก ในส่วนของกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และ สภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ซึ่งปัจจุบันมีหลายกลุ่มหลายฝ่ายเสนอรายชื่อเข้ามาแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณา แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจว่า จะเอาใครหรือไม่เอาใคร หรือให้ใครมาเป็นประธาน กรธ. จะต้องพิจารณากันอีกครั้ง ตอนนี้ก็ต้องมีการพูดคุยกันก่อน ซึ่งตนพร้อมที่จะรับฟังความคิดเห็นจากทุกคน
"ส่วนบรรดารายชื่อต่างๆ ที่เข้ามาผ่านสื่อมวลชนนั้น ผมก็รับพิจารณาไว้ทั้งหมด และเดี๋ยวก็คงจะมีการหารือกันอีกครั้งในระดับ ครม.- คสช. ว่ามีความเหมาะสมอย่างไร เพราะทุกคน ทุกท่าน มีความตั้งใจอยู่แล้ว สิ่งสำคัญขอฝากไว้ประเด็นเดียวก็คือ เราต้องมองจุดมุ่งหมายสุดท้ายของเราว่า ต้องการอะไร อย่าไปมองเพียงแค่ว่า รัฐธรรมนูญจะผ่านหรือไม่ผ่าน ถ้ามองแค่ตรงนี้ มันไปไม่ได้ มันติดตั้งแต่ต้นแล้ว จะต้องมองว่า เราต้องการอะไรและผลสุดท้ายประเทศชาติ มีความสงบสุขสันติเข้มแข็งลดปัญหาที่ผ่านมาหรือเปล่า ถ้าย้อนกลับมาได้ เราควรจะมีอะไร อย่างไร แต่อยากให้เอาจุดหมายปลายทางมาก่อน"
ในส่วนของการขับเคลื่อนก็เช่นกัน ซึ่งแนวทางตนเคยเรียนไปแล้วว่า ให้เอาของที่เขาทำมาแล้ว มาพิจารณาอีกครั้งและนำไปสู่การพิจารณาออกเป็นกฎหมายใน สนช. ซึ่งก็ต้องสอดคล้องกับคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ที่ตนจะแต่งตั้งขึ้นมาในช่วงนี้ เป็นการนำร่องให้เห็นว่ามันน่าจะเป็นอย่างไรในช่วงรัฐบาลนี้ ส่วนจะเป็นไปได้หรือไม่ ก็สุดแล้วแต่พวกเราทุกคนจะเป็นผู้กำหนดว่า จะเป็นอย่างไรต่อไปในรัฐธรรมนูญ บางครั้งคนไทยต้องหัดคิดย้อนกลับไปกลับมา เพราะบางอย่างถ้าคิดจากต้นทางไป มันก็ไปไม่ได้ทั้งหมด มันจะเจอแต่ทางตัน แต่ถ้าไปคิดปลายทางกลับมา มันก็อาจจะไปได้ ดังนั้น เราจะต้องหาทางออก
**ยันไม่เปิดชื่อ สปท.และ กรธ.
ผู้สื่อข่าวถามว่า นายนิรันดร์ พันทรกิจ อดีตสมาชิก สปช. เสนอให้นายกฯ เปิดเผยรายชื่อ สปท.และ กรธ. ก่อนเดินทางไปร่วมประชุมยูเอ็น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เขาอยากให้เปิดเผย แต่ตนไม่อยาก จะทำไม ตนเป็นคนกำหนด ถ้าตามใจคนมาก ก็ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง
เมื่อถามว่า จากกระแสข่าวบุคคลที่จะเป็นประธาน กรธ. นอกจาก นายมีชัย ฤชุพันธุ์ สมาชิก คสช. และ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี ยังมีชื่อบุคคลอื่นอีกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่รู้ ก็เห็นหนังสือพิมพ์เสนอมาทั้งนั้น ก็เสนอมาสิ บอกแล้วไง ยังไม่ได้ตัดสินใครทั้งสิ้น ปัญหาคือ เราจะต้องคุยกันว่าจะเดินอย่างไร ถ้าเข้าใจตรงกันก็พอจะหาทางออกคุยกันได้ ให้เป็นที่พึงพอใจของทุกฝ่าย
เมื่อถามว่า บุคคลที่จะเป็นประธานกรธ. นายกฯ ยึดหลักอะไรในการเลือก พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ยึดหลักการทำเพื่อชาติบ้านเมือง ไม่มีตัวตน เมื่อถามว่ามีคุณสมบัติอื่นมากกว่านี้อีกหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่มี แค่นี้ก็ทำไม่ไหวแล้ว เพื่อชาติบ้านเมือง ชาติมันเล็กๆ หรือไม่ ชาติ คือประชาชน ทั้งประเทศ 70 ล้านคน ยังไม่พอหรือ
เมื่อถามว่า มีการเสนอรายชื่อบุคคลที่เหมาะสมเข้ามาให้เลือกทั้ง กรธ. และ สปท. มากแค่ไหน เปิดเผยได้หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ไม่เยอะ มีอยู่ 20-30 คน ดูแล้วคงไม่มีใครอยากมาเท่าไหร่ เขาไม่อยากมาอยู่ท่ามกลางความขัดแย้ง ฉะนั้น ข้างนอกก็ต้องไม่ขัดแย้ง ไม่กดดันเขา ทั้งนี้เรื่องการร่างรัฐธรรมนูญ เป็นเรื่องของ กรธ. ถ้าได้มาเขาก็เป็นคนร่าง จะเห็นชอบหรือไม่ ก็ว่ากันไป แต่ถ้าไปกดดันว่า ต้องอย่างนี้ อย่างนั้น ซึ่งตนยังไม่อยากกดดันเขาเลย
"ให้เขามีอิสระในการทำงานหน่อย เอาจุดมุ่งหมายประเทศชาติเป็นหลัก นั่นแหล่ะมันถึงจะได้คนดีมาทำงาน ไม่อย่างนั้นใครเข้ามาก็หาว่ารับใช้คสช. ไม่เข้ามาก็หาว่าอย่างนู้นอย่างนี้ คือ สรุปไม่มีใครอยากทำอะไรหรอก ประเทศนี้ บ้านนี้ เมืองนี้ โดนซะก่อนหมด แต่ต้องการสงบสุข มีความสุข ต้องการอาชีพ รายได้ที่ดี แต่ใครทำให้เขาไม่ได้ ไม่ถูกใจทั้งหมด" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
** นักการเมืองอย่าดีแต่สวน ต้องเข้ามาร่วม
เมื่อถามว่าหนักใจต่อการสรรหา กรธ.และ สปท.หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ไม่หนักใจ ตนก็ให้ทุกคนที่อยู่ ไปติดต่อพูดคุย มีความคิดเห็นอย่างไร ตนจะไปหนักใจทำไม เพราะไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อคนไทย 70 ล้านคน
เมื่อถามว่า มีฝ่ายการเมืองสนใจเข้ามาให้ความร่วมมือ หรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ในส่วนของกรธ. ต้องเป็นนักกฎหมาย ซึ่งในส่วนของสปท. ก็มีฝ่ายการเมืองเสนอตัวเข้ามาร่วม แต่มีไม่กี่คน ไม่กี่พรรค เขาไม่เข้ามาก็ช่าง แล้วอย่ามาพูดทีหลังว่า ไม่เห็นด้วย ประชาชนทั้งประเทศก็ดูเอาแล้วกัน ว่าเขาอยู่ เขาวางตัวเองไว้ตรงไหน
" สิ่งที่ผ่านมาผมไม่อยากจะโทษ แต่ถ้าผมไม่โทษ มันก็กลับมาโทษผมอยู่แบบนี้ วันนี้ที่มันเกิดเรื่องมันเกิดเพราะใคร ส่วนไหนทำ ถึงเป็นอย่างนี้อยู่ แล้ววันนี้ยังมาคัดค้านอยู่แบบนี้ ตัวเองคนที่ผิดก็ยังไม่ยอมรับความผิดพลาด หรือรับผิดชอบอะไรสักอย่าง ผมว่ามันไม่ถูก ขณะเดียวกันจะให้ผมสงบเงียบเรียบร้อย ปรองดองทุกอย่างมันไม่ใช่เวลาของผม" พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เมื่อถามว่า สัดส่วนทหารที่จะเข้าร่วม สปท.มีจำนวนเท่าไร นายกฯ กล่าวว่า เขาก็ตั้งไว้เฉยๆ เดี๋ยวมากน้อยเขาก็เกลี่ยเอาเอง คงไม่ต้องเท่านั้นเท่านี้หรอก แค่เดินลงบันได ตนก็เปลี่ยนสัดส่วนได้แล้ว 50 เหลือ 15 เหลือ 25 เหลือ 20 ก็ตนตัดสินใจเองในคราวหลัง เขาเสนอมา 150 ตนก็ตัดเหลือ 50 ถ้าสัดส่วนมันน้อย ตนก็ลดลงแค่นั้นเอง อย่าไปสนใจเรื่องนี้ ต้องสนใจว่า เขาจะทำเรื่องอะไร รู้หรือยังเขาจะทำอะไร ถามสิว่าเขากำลังจะทำอะไร แล้วจะทำงานแบบไหน เขาจะปฏิรูปกันอย่างไร แบบนี้ไม่ถาม แต่กลับไปสนใจว่า มีคนกี่คน จะออกแบบไหน เลือกตั้งเมื่อไหร่ มันอยู่แค่นี้ในปัญหาโลกแตก
" ผมถามว่ารัฐธรรมนูญต่อให้เขียนวิเศษวิโส ถ้ามันไม่ปฏิบัติ จะเกิดอะไรขึ้น กฎหมายทุกวันนี้มีกี่มาตรา มันยังติดคุกกันเป็นแถวอยู่นี่ ฉะนั้นไม่ได้อยู่ที่กฎหมาย ไม่ได้อยู่ที่รัฐธรรมนูญอย่างเดียว ไม่ได้อยู่ที่กติกา เขาเรียกว่า คนในชาติจะต้องร่วมมือกันอย่างไร ผลประโยชน์ชาติอยู่ตรงไหน ถ้าคิดแบบนั้นก็ไม่ต้องมี ผมก็ไม่ต้องเข้ามา รัฐบาลใครจะเข้าก็เข้ามา อยากทำอะไรก็ทำกันไป มันมีทุกอย่างอยู่แล้ว วันนี้ที่มันยุ่งจริงๆ แล้วไม่ต้องเขียนใหม่ด้วยซ้ำ รัฐธรรมนูญที่ผ่านๆ มานี้ ถ้ามันยึดถือก็ไม่ต้องแก้ แต่มันไม่ถือไง ทะเลาะกันมาตลอดทุกฉบับ แล้วเราจะทะเลาะเรื่องรัฐธรรมนูญไปอีกสักกี่ฉบับ มันจำเป็นต้องมีการเปลี่ยนผ่านไหมในช่วงนี้ จำเป็นจะต้องเตรียมการประชาธิปไตยที่เป็นสากลหรือไม่ คำว่าสากล ก็ต้องกลับมาดูว่าคนของเราพร้อมหรือยังที่จะเป็นสากลทุกอย่าง สิทธิ เสรีภาพ เราเอาสิ่งที่สบายรับมาหมด ประเทศเราอะไร ที่ไม่สบายไม่เอา ไม่ชอบ แล้วจะเอาอะไรแล้วจะได้อะไรกลับมา มันไม่ได้อะไรกลับมาหรอก คนในชาติทุกประเทศ ต้องมีระเบียบวินัยพอสมควร" นายกฯกล่าว
** ไม่สน"แม้ว"คอยจ้องป่วน
เมื่อถามว่าในขณะที่นายกฯกำลังขับเคลื่อนประเทศซึ่งประชาชนดูอยู่ ขณะเดียวกันก็มีกลุ่มคนไปรวมตัวกันที่ประเทศฮ่องกง คอยทำลายสมาธิ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอย่างอารมณ์เย็นว่า ตนไม่ได้ให้ความสำคัญมากมายขนาดนั้น ตนถือว่ากำลังทำหน้าที่ของตัวเองอยู่ ใครจะว่าอะไรก็ว่าไป เคารพกติกากันบ้าง เวลาเขาอยู่ในหน้าที่ต่างๆ ตนไม่เคยไปยุ่งเกี่ยวอยู่แล้ว และวันนี้ตนก็ทำงานของตน ประชาชนก็ดูแล้วกัน เขาทำถูกหรือทำผิด ถ้าสิ่งที่เขาทำกลายเป็นว่าถูกมากกว่าสิ่งที่ตนทำ ถ้าอย่างนี้ก็โอเค โลกก็กลับตาลปัตรแล้ว แต่ตนไม่ได้หมายความว่า เขาทำถูกหรือผิดทั้งหมด ที่ผิดก็เยอะที่ถูกก็คงมีอยู่บ้าง แต่ทั้งนี้ให้กฎหมายเป็นผู้ตัดสิน ถ้าไม่รับกฎหมายอีก แล้วจะตัดสินด้วยอะไร ถ้าเรายังให้เครดิตไปมาอย่างนี้ ท่านไม่จำเป็นต้องมาให้เครดิตตน ขณะเดียวกันต้องไม่ให้เครดิตคนอื่น ตนขอแค่นั้น ยังได้ยังดีกว่า แต่กลับให้เครดิตตน ให้เครดิตอีกข้างเรื่อยๆ ทั้งๆ ที่ทำคนละอย่างกัน มันใช่ไหมล่ะ แค่นี้นะ ขอเวลาไปเตรียมตัวไปประชุมยูเอ็น โชคดี นะ
** "บิ๊กต๊อก"เชื่อ"แม้ว"ยังไม่สร้างปัญหา
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว. ยุติธรรม กล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางมาที่เกาะฮ่องกง ว่า ฝ่ายความมั่นคง และกระทรวงการต่างประเทศคงต้องคุยกัน ส่วนตัวไม่เห็นว่านายทักษิณ สร้างปัญหาอะไร มองว่าเป็นเรื่องปกติ และการเคลื่อนไหวไม่เกี่ยวกับว่าจะอยู่ไกล หรือใกล้ประเทศ หากจะพูดถึงความมั่นคง ต้องดูว่าผลกระทบมีความรุนแรงขนาดไหน ทั้งนี้ในส่วนของคสช. จะคิดอย่างไร ตนไม่ทราบ
เมื่อถามถึงกรณีที่ นายทักษิณ มีหมายจับของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองอยู่นั้น พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า เป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ และอัยการ จะเป็นผู้ดำเนินการเพราะเป็นหน่วยงานหลัก เมื่อถามว่า สถานการณ์การเมืองขณะนี้ เริ่มมีคดีความสำคัญใกล้จะจบในหลายคดี พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า คดีความต่างๆ ไม่ได้เกิดสมัยคสช. หากเราเคารพกระบวนการยุติธรรม และกฎหมาย ก็ไม่ต้องไหวหวั่นกับมันในเรื่องนี้ และ คสช.ไม่เคยเข้าไปแทรกแซง แต่ผลของการกระทำต่างๆ กำลังทยอยออกมาตามระยะเวลาของกระบวนการยุติธรรม ตรงนี้ต้องทำให้ประชาชนเข้าใจว่า สิ่งต่างๆ เป็นไปตามกระบวนการ และบางกลุ่มอาจจะเห็นว่าช้า บางกลุ่มอาจมองว่าเร็ว
รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า สำหรับการเดินทางไปประเทศสหรัฐอเมริกาของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น ในที่ประชุมครม. นายกฯได้ขอบคุณทุกคนที่ให้กำลังใจ และท่านบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วง ท่านดูแลตัวเองได้ เพราะมั่นใจว่าการเดินทางไป ไปเพื่อทำความเข้าใจให้บ้านเมือง
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อยู่ที่ฮ่องกงนั้น ฝ่ายความมั่นคงไม่ได้มีการประเมินอะไร จะทำได้อย่างไร ใครจะไปจะมา ไม่มีนัยยะอะไร ตนบอกไปหลายครั้งแล้วว่า ทำอะไรก็ได้ แต่อย่าสร้างความขัดแย้งภายในประเทศ เพราะไม่มีประโยชน์อะไร ซึ่งขณะนี้อยู่ในห้วงเปลี่ยนผ่าน ก็ต้องช่วยกันทุกฝ่าย อีกหน่อยมีรัฐธรรมนูญ ก็จบแล้ว
เมื่อถามว่า หากกลุ่มการเมืองจะไปพบ นายทักษิณ ที่ฮ่องกง ทางคสช.จะมีการติดตามอย่างไรบ้าง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เขาไปหรือยัง ตนไม่รู้ เขาเป็นญาติกันหรือเปล่า ตนก็ไม่รู้สิ ไม่ต้องห่วงนะ อย่าไปห่วงมาก
** ไม่หวั่น"บิ๊กตู่"โดนต้านที่เวทีโลก
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีรายงานข่าวการเคลื่อนไหวของกลุ่มต่างๆ ในช่วงที่ พล.อ.ประยุทธ์ เข้าร่วมการประชุมสหประชาชาติระดับผู้นำ เพื่อรับรองวาระการพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. 2015 และการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ 70 ณ นครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ว่า ไม่มี ทางสหรัฐฯ มีกฎหมาย ไม่ใช่ไปชุมชนได้เฉยๆ จะต้องบอกจำนวน บอกเวลา บอกว่าไปชุมนุมในเรื่องอะไร ไม่ใช่เรื่องเสรี เพราะเขามีกฎหมายควบคุมดูแลอยู่ ตนก็บอกไปแล้วว่า นายกฯตั้งใจทำงานให้คนไทย ทำงานให้ประเทศ ทำในสิ่งที่ดีไม่ได้ทำร้ายใครเลย ฉะนั้นความดีก็จะไปปกป้องตัวท่านเอง ไม่ต้องห่วงหรอก ทั้งนี้นายกฯไม่ได้ฝากอะไรในที่ประชุมครม. ท่านไม่ห่วงอะไร มีสื่อมวลชนเยอะแยะ ก็ต้องช่วยตน ช่วยนายกฯด้วย และคงไม่มีอะไรเกิดขึ้น
** "วิษณุ"ยันไม่ใช่คนจัดโผ สปท.อย่ามาวิ่งเต้น
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการสรรหาคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) และ สมาชิกสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ (สปท.) ว่า จะมีการรวบรวมรายชื่อเท่าที่ได้ไปก่อน ซึ่งนายกรัฐมนตรี จะเดินทางไปประชุมสหประชาชาติในวันที่ 23 ก.ย.-1ต.ค. เมื่อกลับมาจึงจะอนุมัติรายชื่อ ในช่วงนี้ ท่านนายกฯให้รวบรวมรายชื่อเท่าที่ได้ไปก่อน หากนายกฯ เห็นชอบใคร ก็ให้ติดต่อระหว่างที่ไม่อยู่ เพราะบางคนอาจต้องไปลาออกจากตำแหน่งอื่น หรือ การมาร่างรัฐธรรมนูญ ห้ามดำรงตำแหน่งทางการเมือง 2 ปี จึงต้องพูดให้เข้าใจ เมื่อนายกฯ กลับมาจะมีการพูดกันอีกครั้ง ซึ่งจะทันเวลาในวันที่ 6 ต.ค. ที่จะครบ 30 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญชั่วคราวกำหนดไว้ โดยเวลานั้นต้องมีชื่อแล้ว
ส่วนที่มีชื่อ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ สมาชิก คสช. จะมาเป็นประธานกรธ.นั้น นายวิษณุ กล่าวว่า ตนได้เจอกับนายมีชัยแล้ว ได้ทักทาย แต่ยังไม่ได้ทาบทาม ส่วนที่มีชื่อ นายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกฯ ออกมาด้วยนั้น ตนยังไม่ได้พบ นายอานันท์
ผู้สื่อข่าวถามว่า ในส่วนของ กรธ. 21 คน ตอนนี้ได้กี่คนแล้ว นายวิษณุกล่าวว่า ตนไม่ทราบ นายกฯ มอบหมายให้หลายคนไปรวบรวม และ ตนไม่ได้ดูเฉพาะฝ่ายกฎหมาย เพราะนายกฯ บอกเพียงว่า ให้ไปดูๆ มา มีใครแล้วเสนอมา ส่วนรายชื่อทั้งหมด อยู่ที่นายกฯ อาจจะเยอะ แต่ตนไม่ทราบ ขณะที่ สปท.นั้น ตนไม่ได้รับผิดชอบ ดังนั้นใครอย่ามาวิ่งกับตน
**แนะใช้ฝ่าเท้าตรองก่อนโจมตี"สูตรพิสดาร"
นายวิษณุ ยังกล่าวถึงกรณีเคยออกมาพูดว่า กฎหมายพรรคการเมืองอาจมีสูตรพิสดาร ว่า ที่ตนพูดไม่ได้หมายความว่า เปิดช่อง หรือชี้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่เป็นการตอบคำถามที่มีคนถามถึงสูตรของนายจาตุรนต์ ฉายแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย ที่ให้ใช้สูตร 3-3-3-2 ว่าไม่สามารถทำได้ สูตรของนายจาตุรนต์ ที่จะให้เวลาการเลือกตั้ง 2 เดือนนั้น ตนถามว่า จะเป็นไปได้อย่างไร เพราะต้องออกกฎหมายลูกถึง 6 ฉบับ และไม่มีใครรู้ว่า หน้าตาจะเป็นอย่างไร อย่างกฎหมายพรรคการเมือง อาจจะพิสดาร เช่น ถ้าเป็นกฎหมายพรรคการเมืองใหม่ กฎหมายพรรคการเมืองเก่า ก็ต้องเลิกไป พรรคการเมืองที่เคยตั้งอยู่ จะทำอย่างไร จะให้จดทะเบียนใหม่ หรือหาสมาชิกใหม่หรือไม่ ยังไม่รู้
ส่วนพรรคที่ตั้งใหม่ จะต้องนับหนึ่งใหม่ หากใช้เวลาเพียง 2 เดือน พรรคใหม่จะเสียเปรียบ ข้อสำคัญ ถ้ามันเกิดพิสดาร เขียนให้พรรคเก่า ได้รับผลกระทบขึ้นมา จะวุ่นไปหมด ซึ่งเวลา 2 เดือน จะไม่ทันเลือกตั้ง ความหมายเป็นเช่นนั้น ไม่ได้เป็นการชี้ช่อง ออกกฎหมายลูกก่อนกฎหมายแม่ หรือตนจะเป็นคนไปร่าง และไม่รู้ว่า เขาจะเขียนอย่างไร เป็นการสมมุติออกมา เพื่อชี้แจงว่า 2 เดือน เป็นไปไม่ได้เท่านั้นเอง ถ้าไม่พิสดารก็ไม่เป็นไร
"ตัวอย่างที่ผมยกขึ้นมา ไม่ได้เป็นการโยนหินถามทาง แต่เป็นการสมมุติขึ้นมา เพื่อให้เห็นว่าเวลา 2 เดือนเป็นไปไม่ได้ ช่วยกันคิดด้วยสติปัญญา เอาฝ่าเท้ายกขึ้นมา นวดฝ่าเท้าสักที แล้วตรองหน่อยว่า 2 เดือนมันทันจริงหรือ เมื่อตรงนี้ไม่ทัน ส่วนอื่นที่ให้ร่นมามันก็ไม่ทัน เพราะรัฐธรรมนูญเขาให้ร่างภายใน 6 เดือน ย่นหน่อยได้ แต่จะบอกว่า 2 - 3 เดือนพอจะเป็นได้อย่างไร เพราะต้องไปถามความเห็นคนเขาด้วย ต่อให้หยิบรัฐธรรมนูญ 40, 50 หรือ 58 ก็ต้องเอามาปรับปรุง ซึ่งคงต้องให้เวลาเป็นแรมเดือน" นายวิษณุ กล่าว
** "บิ๊กป้อม"ปัดข่าว"มีชัย"ไม่รับปธ.กรธ.
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวภายหลังการประชุม ครม. ถึงความคืบหน้าตั้ง กรธ. ว่า มีรายชื่อแล้ว แต่ไม่รู้ว่าใครได้บ้าง เมื่อถามว่ารายชื่อที่พิจารณาอยู่ตอนนี้ มีกี่รายชื่อ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า จำไม่ได้ มีหลายคน เมื่อถามว่าล่าสุดมีข่าว นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ปฏิเสธที่จะรับตำแหน่งประธาน กรธ. พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่มี ตนไม่เห็นได้ยินใครปฏิเสธเลย ไม่มี ยังไม่ได้คุยกับท่านเลย สื่ออย่าไปคิดเอาเอง
เมื่อถามว่า ตกลงคนที่ คสช.ทาบทาม ไม่ได้ออกมาปฏิเสธ การเป็นกรธ. ใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รู้ได้อย่างไรว่าทาบทาม หรือไม่ทาบทาม มันไม่ใช่ ตนไม่ได้พูดอย่างนั้น ยังไม่ได้ทาบทามใครเลย ดูว่าคนไหน คนไหนไม่เก่ง ยังไม่ทาบทามใครทั้งสิ้น เมื่อถามว่า ที่นายกฯ ระบุว่า ให้หลายฝ่ายๆไปทาบทาม ส่วนตัวได้ทาบทามใครบ้าง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ยังไม่รู้ จำไม่ได้ นายกฯ บอกเมื่อไหร่ ทำไมตนยังไม่รู้เลย ใจเย็นๆ คสช.และรัฐมนตรี เขาต้องทำหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่า หลังนายกฯ กลับจากประชุมยูเอ็น ที่สหรัฐฯ จะมีการประชุมร่วมครม.-คสช. อีกครั้ง หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เดี๋ยวว่า นายกรัฐมนตรีจะสั่งอย่างไร ให้ได้รายชื่อก่อน แล้วก็เสนอนายกรัฐมนตรี ซึ่งท่านจะสั่งประชุม สั่งทำอะไรก็เรื่องของท่าน ให้ท่านตัดสินใจ อย่าไปตัดสินใจให้ท่านบ่อยหนัก
** กำหนดการ"บิ๊กตู่"ในสหรัฐฯ
ทั้งนี้ กำหนดการโดยย่อของการปฏิบัติภารกิจของนายกฯ ในการเดินทางไปสหรัฐฯ มีดังนี้
วันพุธที่ 23 ก.ย.58 นายกฯ และคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ และในช่วงสายของวันที่ 24 ก.ย. จะเดินทางถึงนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และร่วมประชุมทีมประเทศไทยในสหรัฐฯ ณ โรงแรมที่พัก
วันศุกร์ที่ 25 ก.ย. นายกฯ จะร่วมการประชุมสหประชาชาติ ระดับผู้นำเพื่อรับรองวาระการพัฒนาภายหลังปี ค.ศ. 2015 (Post-2015 Summit)และกล่าวถ้อยแถลงใน Interactive dialogue 1 :“Ending poverty and hunger”และร่วมงานเลี้ยงอาหารค่ำ ซึ่งจัดโดยสภานักธุรกิจสหรัฐ ฯ- อาเซียน ( US-ASEAN Business Council -USABC )
วันเสาร์ที่ 26 ก.ย. นายกฯ เข้าร่วมการประชุม Post-2015 Summitและหารือทวิภาคี กับผู้นำประเทศ ในช่วงเย็น จะเข้าร่วมงานเลี้ยง Celebratory Gala Dinner 150 ปี ITU และรับมอบรางวัล ITU Global Sustainable Digital Development Award
วันอาทิตย์ 27 ก.ย. เข้าร่วมประชุม High-level special event “Catalysing Implementation and Achievement of the Water Related SDGs” และ การประชุม Global Leaders’ Meeting on Gender Equality and Women’s Empowerment: A Commitment to Action ช่วงบ่าย นายกฯ จะกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุม เต็มคณะ Post-2015 Summit
วันจันทร์ที่ 28 ก.ย. ช่วงเช้า นายกฯ ร่วมงานเลี้ยงรับรอง (Welcoming Reception) โดยเลขาธิการสหประชาชาติเพื่อเป็นเกียรติแก่หัวหน้าคณะผู้แทน ก่อนเข้าร่วมพิธีเปิดการอภิปรายทั่วไป (UNGA 70) ช่วงบ่ายเลขาธิการสหประชาชาติเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารกลางวัน (State Luncheon) แก่หัวหน้าคณะผู้แทน และช่วงค่ำประธานาธิบดีสหรัฐฯ และภริยา เป็นเจ้าภาพงานเลี้ยงรับรองเพื่อเป็นเกียรติแก่หัวหน้าคณะผู้แทน
วันอังคารที่ 29 ก.ย. นายกฯ พบหารือทวิภาคีกับผู้นำประเทศ และกล่าวถ้อยแถลงในการอภิปรายทั่วไป (UNGA) ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ 9/11 ที่ Ground Zero ด้วย
วันพุธที่ 30 ก.ย. นายกฯ เดินทางออกจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา โดยจะเดินทางถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ ประเทศไทยในช่วงค่ำ ของวันพฤหัสบดีที่ 1 ต.ค.58
**** ทัวร์ลิ่วล้อเสื้อแดง
วานนี้ (22 ก.ย.) มีรายงานว่า ผู้ใช้เฟซบุ๊ก Supraipon Chuaychoo ได้โพสต์ภาพชุดพบว่า มีชายหน้าเหมือนนายทักษิณ ชินวัตร ได้มาร่วมงานและถ่ายภาพกับคนกลุ่มหนึ่ง ใช้ชื่อว่า “ทัวร์เสื้อแดงรักทักษิณ” โดยมีข้อความ เช่น กอด คนที่รัก และศรัทธา ดีกว่า เปิดทีวี เสียเวลาดูโจ..
อีกหลายข้อความเขียนว่า “นี่คือ หัวใจของฅนเสื้อแดง 19-21 กันยายน 2558 ณ ฮ่องกง เสิ่นเจิ้น กับทัวร์เสื้อแดง ทัวร์เสื้อแดงรักทักษิณ “ไม่ต้องมียศ ไม่ต้องมีศักดิ์ รักทักษิณตลอดไป” ณ ฮ่องกง, ชนะเลือกตั้งอย่างมีศักดิ์ศรี เผด็จการอัป...
ขณะที่โพสต์ก่อนหน้านั้น มีการนำคณะทัวร์ที่ระบุว่า ทัวร์เสื้อแดงจะเดินทางไปพบนายทักษิณ ชินวัตร และนายจักรภพ เพ็ญแข ที่หลบหนีคดี มาตรา 112 ที่ฮ่องกงด้วย