00 ได้ยินสำนักข่าวต่างประเทศ "ขาประจำ" รายงานเข้ามาโดยอ้างคำพูดของ แกนนำเสื้อแดงอุดรฯ อย่าง ขวัญชัย สารคำ ว่าเวลานี้ได้รับสัญญาณจากทักษิณ ชินวัตร "นายใหญ่" ของพวกเขาให้ "แกล้งตาย" ไปก่อน เพื่อรอโอกาสกลับมาหลังการเลือกตั้ง หรือจะมีการเคลื่อนไหวอีกครั้ง ในช่วงที่มีการเลือกตั้งคราวต่อไป แน่นอนว่าความหมายก็คือ ตอนนี้ให้อยู่นิ่งๆไปก่อนสักระยะ แต่ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาตามความเป็นจริงสถานการณ์ในเวลานี้ ไม่เอื้ออำนวยให้พวกเขาเคลื่อนไหวได้ทุกรูปแบบ "ตามอำเภอใจ" เหมือนดังแต่ก่อน ทั้งในเรื่อง "คำสั่งพิเศษ" ตาม ม.44 ที่แทบกระดิกไม่ได้ เรื่องกระแสติดลบ ชาวบ้านรำคาญไม่เอาด้วย และที่สำคัญ หากเคลื่อนไหวตอนนี้ก็ไม่มีประโยชน์ "ท่อยังตัน" และเมื่อพิจารณาทุกองค์ประกอบแล้วก็มีทางทางเดียวคือ ต้องแกล้งตายไปก่อน
00 ส่วนจะมีโอกาส "ตายถาวร" หรือไม่ คำตอบอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช.ว่าจะเอาอย่างไร หากยังเดินหน้าใช้ กม.จัดการ นั่นคือ ทุกคดีต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ศาลพิพากษา โดยไม่ต้องพูดถึงเรื่องการปรองดองแบบไร้สาระ ทุกอย่างมันก็จบ และในที่สุดแล้วก็จะมีอีกหลายคน ที่ต้องตายแบบถาวร เพราะมีหลายคนที่กำลังรอชี้ชะตากันอยู่
00 สิ่งที่เป็นตัวชี้วัดว่าจะสามารถทำให้คนพวกนั้นตายแบบถาวรได้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ คสช. จะรักษามาตรฐาน "ความศรัทธา"ได้อย่างคงเส้นคงวา หรือไม่ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเรื่องปากท้อง เศรษฐกิจฐานราก ได้อย่างเป็นรูปธรรมและจับต้องได้แค่ไหนต่างหาก เพราะถัาทำสำเร็จ ชาวนาชาวไร่ขายราคาสินค้ามีกำไร ไม่มีเรื่องทุจริตคดโกงอย่างที่รับปากเอาไว้ ต่อให้สิบ ทักษิณ ชินวัตร ก็ขวาง "ลุงตู่" ไม่ได้
00 จะเรียกว่าเดินหน้าเต็มตัวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากที่ "ตีปี๊บ" กันอย่างคึกคักเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า เป็นแนวทางแบบ "ประชารัฐ" ว่าเป็นความร่วมมือกันระหว่างประชาชน กับรัฐ ไม่ใช่ "ประชานิยม" ที่แจกอย่างเดียว ก็ว่ากันไป สำคัญอยู่ที่ว่าประชาชนต้องได้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ไม่ใช่มี "ผลประโยชน์ทับซ้อน" เป็นการทุจริตเชิงนโยบาย แบบนั้นต่างหากที่น่ารังเกียจ และงานนี้ความหวังอยู่ที่ขุนพลเศรษฐกิจ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ หากสถานการณ์ไม่กระเตื้อง ก็คงต้อง"ตายยกเข่ง" โดนเครือข่ายแม้วถล่มเละแน่
00 อย่างไรก็ดี หากสังเกตจะพบความเคลื่อนไหวของ ทักษิณ ชินวัตร และกุนซือใกล้ตัว ที่ยกขบวนมาปักหลักแถวฮ่องกง พร้อมกับนัดเอาเฉพาะพวกเครือข่ายที่เชื่อมโยงประสานกับต่างประเทศเป็นหลักก่อน อย่างน้อยก็เป็นแผนในการ "ตีจากภายนอก" เข้ามา เพราะเชื่อว่านาทีนี้ จะสามารถสร้างแรงกดดันได้มากกว่าภายในที่กระแสยัง "ดึงไม่ขึ้น" ดังนั้น อย่าได้แปลกใจที่จะได้เห็นการเคลื่อนไหวกันอย่างคึกคัก เพื่อเตรียม "ฉีกหน้า" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ระหว่างที่ไปร่วมประชุมยูเอ็นระหว่างวันที่ 24-30 ก.ย.ที่นิวยอร์ก สหรัฐฯ แต่งานนี้กำลังรอพิสูจน์กันว่า ฝ่ายหนุนกับฝ่ายต้าน ใครจะมามากกว่ากัน !!
00 ส่วนจะมีโอกาส "ตายถาวร" หรือไม่ คำตอบอยู่ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช.ว่าจะเอาอย่างไร หากยังเดินหน้าใช้ กม.จัดการ นั่นคือ ทุกคดีต้องเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมให้ศาลพิพากษา โดยไม่ต้องพูดถึงเรื่องการปรองดองแบบไร้สาระ ทุกอย่างมันก็จบ และในที่สุดแล้วก็จะมีอีกหลายคน ที่ต้องตายแบบถาวร เพราะมีหลายคนที่กำลังรอชี้ชะตากันอยู่
00 สิ่งที่เป็นตัวชี้วัดว่าจะสามารถทำให้คนพวกนั้นตายแบบถาวรได้ ก็ต้องขึ้นอยู่กับว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ คสช. จะรักษามาตรฐาน "ความศรัทธา"ได้อย่างคงเส้นคงวา หรือไม่ โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเรื่องปากท้อง เศรษฐกิจฐานราก ได้อย่างเป็นรูปธรรมและจับต้องได้แค่ไหนต่างหาก เพราะถัาทำสำเร็จ ชาวนาชาวไร่ขายราคาสินค้ามีกำไร ไม่มีเรื่องทุจริตคดโกงอย่างที่รับปากเอาไว้ ต่อให้สิบ ทักษิณ ชินวัตร ก็ขวาง "ลุงตู่" ไม่ได้
00 จะเรียกว่าเดินหน้าเต็มตัวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากที่ "ตีปี๊บ" กันอย่างคึกคักเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่า เป็นแนวทางแบบ "ประชารัฐ" ว่าเป็นความร่วมมือกันระหว่างประชาชน กับรัฐ ไม่ใช่ "ประชานิยม" ที่แจกอย่างเดียว ก็ว่ากันไป สำคัญอยู่ที่ว่าประชาชนต้องได้ประโยชน์อย่างยั่งยืน ไม่ใช่มี "ผลประโยชน์ทับซ้อน" เป็นการทุจริตเชิงนโยบาย แบบนั้นต่างหากที่น่ารังเกียจ และงานนี้ความหวังอยู่ที่ขุนพลเศรษฐกิจ สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ หากสถานการณ์ไม่กระเตื้อง ก็คงต้อง"ตายยกเข่ง" โดนเครือข่ายแม้วถล่มเละแน่
00 อย่างไรก็ดี หากสังเกตจะพบความเคลื่อนไหวของ ทักษิณ ชินวัตร และกุนซือใกล้ตัว ที่ยกขบวนมาปักหลักแถวฮ่องกง พร้อมกับนัดเอาเฉพาะพวกเครือข่ายที่เชื่อมโยงประสานกับต่างประเทศเป็นหลักก่อน อย่างน้อยก็เป็นแผนในการ "ตีจากภายนอก" เข้ามา เพราะเชื่อว่านาทีนี้ จะสามารถสร้างแรงกดดันได้มากกว่าภายในที่กระแสยัง "ดึงไม่ขึ้น" ดังนั้น อย่าได้แปลกใจที่จะได้เห็นการเคลื่อนไหวกันอย่างคึกคัก เพื่อเตรียม "ฉีกหน้า" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ระหว่างที่ไปร่วมประชุมยูเอ็นระหว่างวันที่ 24-30 ก.ย.ที่นิวยอร์ก สหรัฐฯ แต่งานนี้กำลังรอพิสูจน์กันว่า ฝ่ายหนุนกับฝ่ายต้าน ใครจะมามากกว่ากัน !!