xs
xsm
sm
md
lg

“วันชัย”ยันคว่ำร่างรธน.ที่เนื้อหา ไม่เกี่ยวแลกเก้าอี้สภาขับเคลื่อน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีนายมานิจ สุขสมจิตร อดีตรองประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ คนที่ 2 ออกมาปฏิเสธว่า อดีตกมธ.ยกร่างฯ ทั้ง 36 คน ยกเว้น นายบวรศักดิ์ อุวรรโณ อดีตประธาน กมธ.ยกร่างฯ เพียงคนเดียว ไม่เคยสัญญาว่า จะไม่กลับมารับตำแหน่งกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) อีก พร้อมท้าให้ นายวัชระ นำเทปบันทึกรายการที่กล้าวอ้างมายืนยันว่า ตนขอน้อมรับคำท้าและยืนยันว่า นายมานิจ ไปออกรายการนิวส์ทอล์ก ทางช่องนิวส์ทีวี ซึ่งมีนางอัญชลี ไพรรีรัก เป็นผู้ดำเนินรายการ พร้อมกับตนเมื่อวันที่ 4 ก.ย. 58 เวลา 13.00 น. โดยมีการพูดถึงกรณีหากร่างรธน.ไม่ผ่านการลงมติของสปช. ในวันที่ 6 ก.ย. โดยนายมานิจ พูดตอนหนึ่งว่า กมธ.ยกร่างฯ ทั้ง 36 คน ตกลงกันแล้วว่า ถ้าร่างรธน.ไม่ผ่าน จะไม่มีใครกลับมาเป็นกมธ.ยกร่างฯ อีก
"ใครเป็นเด็กเลี้ยงแกะ หรือผู้ใหญ่เลี้ยงแกะกันแน่ ผมเห็นด้วยกับท่านอาจารย์มานิจว่า ควรเปิดเทปรายการดู พยานวัตถุโกหกไม่อาจโกหกได้การที่ กมธ.ยกร่างฯ ทั้ง 36 คน ตกลงกันอย่างนั้น เพราะมั่นใจว่าคสช.เอาด้วย จึงย่ามใจมากที่ร่างรัฐธรรมนูญออกมาตามใจผู้มีอำนาจ เมื่อนายมานิจ นำมาเปิดเผยต่อสาธารณะโดยตรง ผ่านทางนิวส์ทีวี ตามหลักรัฐศาสตร์ ย่อมถือเป็นสัญญาประชาคมทันที" นายวัชระ ระบุ
นายวัชระ กล่าวด้วยว่า ถ้านายมานิจ ยังยืนยันว่าไม่ได้พูดตามที่ตนนำมากล่าว ก็คงต้องเปิดเทปดูพร้อมๆ กัน หากตนพูดไม่จริง จะให้ทำอย่างไรก็ได้ ให้เลิกสมัคร ส.ส.ก็ได้ แต่ถ้าสิ่งที่ตนพูดเป็นจริง อดีตกมธ.ยกร่างฯทั้ง 36 คน จะกลืนน้ำลายตัวเอง กลับมาเป็นกรธ.อีกหรือ คุณธรรมจรรยาบรรณในคำสัตย์ ยังไม่มี แล้วจะร่างกฎหมายที่ดีได้อย่างไร
" ผมขอเรียกร้องให้สถานีโทรทัศน์นิวส์ทีวี นำรายการนั้นมาเปิดให้คนทั้งประเทศดูอีกครั้งหนึ่ง เพื่อพิสูจน์ความจริง" นายวัชระ กล่าว
นายวัชระ ยังได้กล่าวถึงกรณีที่นายมานิจ กล่าวว่า มีความพยายามกีดกัน อดีต กมธ.ยกร่างฯ เพราะกลัวที่จะมาร่างรธน. ที่ไม่ส่งผลดีกับนักการเมืองว่า ส่วนตัวไม่เคยกลัวที่ นายมานิจ จะกลับมาร่วมร่างรธน. เพราะถือเป็นผู้อาวุโสของวงการสื่อหนังสือพิมพ์ ซึ่งจริงๆ ตนก็อาจสนับสนุนให้นายมานิจ กลับมาเป็น กรธ. หากนายมานิจ ไม่ได้พูดว่ามีการตกลงกันในอดีต กมธ.ยกร่างฯไว้แล้ว ส่วนที่บอกว่า เนื้อหาของร่างรธน. ที่คณะท่านร่างขึ้นมานั้น สามารถกันนักการเมืองชั่ว นักการเมืองไม่ดีได้นั้น ก็ต้องถามว่าเหตุใด สปช.จึงโหวตไม่เห็นชอบ รวมทั้ง คสช. ปล่อยให้คว่ำ แสดงว่า สปช. และ คสช. เป็นพวกเดียวกับนักการเมืองชั่ว อย่างนั้นหรือ
"ผมเห็นด้วยกับ สปช. และ คสช. ที่คว่ำร่างรัฐธรรมนูญฉบับนี้ และขอเรียกร้องให้อดีต กมธ.ยกร่างฯ ทั้ง 36 คนรักษาคำพูดว่า จะไม่กลับมายกร่างฯ อีก อย่าตระบัดสัตย์ กรุงศรีอยุธยาไม่เคยสิ้นคนดี ส่วนนักการเมืองจะดี หรือชั่ว เขามีศักดิ์ศรีมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ทำดีหรือชั่วประชาชนมองเห็น ส่วนนักวิชาการ นักฉวยโอกาส จะมาจากการแต่งตั้งในยุครัฐประหารเสมอไม่ว่าวันนี้หรือในอนาคต" นายวัชระ ระบุ

** "วันชัย"ปัดคว่ำร่างรธน.แลกเก้าอี้

นายวันชัย สอนศิริ อดีตสมาชิกสปช. กล่าวถึง กรณีที่ปรากฏเป็นข่าวในสื่อต่างๆว่า สปช.ที่ไม่รับร่างรธน. วิ่งเต้นขอตำแหน่งสภาขับเคลื่อนเพื่อการปฏิรูปประเทศจำนวนเท่านั้นเท่านี้ ว่า ตนได้มีการประสานกับกลุ่มสมาชิกที่ไม่รับร่างฯ และได้มีการสอบถามแล้ว ทุกคนยืนยันว่าไม่มีคนใดไปวิ่งเต้น ล็อบบี้ เพื่อขอเป็นสมาชิกสภาขับเคลื่อนฯ รวมทั้งขอโควต้า เพราะทุกคนรู้กันเป็นอย่างดีว่า อำนาจในการแต่งตั้งเป็นของนายกฯ และนายกฯ ก็ได้เคยประกาศไว้แล้วว่า ใครมาวิ่งเต้น จะเป็นสภาขับเคลื่อนฯ จะไม่แต่งตั้งโดยเด็ดขาด
ดังนั้น อดีตสปช. ทุกคนรู้ และเข้าใจในเรื่องนี้ดี และก็เชื่อว่าไม่มีใครไปวิ่งเต้นเพื่อจะเป็นสภาขับเคลื่อนฯ แน่นอน ขืนไปวิ่งเต้นก็อาจจะไม่ได้เป็นดังที่นายกฯ พูด
นายวันชัย กล่าวต่อว่า ที่พวกตน ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ เพราะเห็นว่าเนื้อหาของรัฐธรรมนูญ มีปัญหา และไปทำประชามติ ก็จะมีปัญหาบานปลายมากยิ่งขึ้น จึงไม่รับร่างฯ เอาประโยชน์ของประเทศชาติ และประชาชนเป็นตัวตั้ง ไม่ได้คำนึงว่าจะได้รับแต่งตั้งตำแหน่งนั้น ตำแหน่งนี้แต่อย่างใด
" แม้จะมีสมาชิกบางท่านแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ไปบ้าง ทุกคนก็ยืนยันว่า เป็นเพียงการแสดงความคิดเห็นตามที่ผู้สื่อข่าวสอบถามเท่านั้น ไม่ใช่เป็นข้อเรียกร้อง หรือเป็นข้อต่อรอง หรือเป็นความอยากหรือความต้องการแต่อย่างใด " นายวันชัย กล่าว
นายวันชัย กล่าวว่า ทุกคนรู้ดีว่าได้ทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ และประชาชนสำเร็จเสร็จแล้ว เป็นความภาคภูมิใจ ใครได้ไปทำงานต่อพวกเราก็ดีใจ และสนับสนุน ส่วนใครไม่ได้รับแต่งตั้งไปเป็นอะไร ก็ยังรวมตัวกันทั้งคนที่ได้เป็นสภาขับเคลื่อนและไม่ได้เป็น มาเป็นชมรม สปช. 57 เพื่อช่วยกันเสนอแนะ ให้ข้อคิดเห็น ผลักดันแนวทางปฏิรูปที่สภาปฏิรูปเคยทำไว้ ทุกคนที่รับร่างรัฐธรรมนูญ และไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ไม่ได้แตกแยกกัน ได้มีการตกลงร่วมกันจะเอาองค์กรของชมรมสปช. 57 เป็นตัวขับเคลื่อน สนับสนุนการทำงานของทุกรัฐบาล และทุกองค์กร เพื่อให้มีการปฏิรูปประเทศต่อไปอย่างยั่งยืน

** "สุรชัย"ปัดไม่รับตำแหน่ง กรธ.

นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 1 รับยื่นหนังสือจาก นายเรืองชัย วงษ์อุระ ประธานสภาเทศบาลตำบลท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ร้องขอความเป็นธรรม กรณีทางราชการออกเอกสารสิทธิ์ทับที่สาธารณะประโยชน์ และกรรมสิทธิ์ที่ดินของประชาชน โดยเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดินจังหวัดนครพนมได้สร้างเอกสารเท็จทั้งใบจอง น.ส.2 / เอกสาร สปก 4-01 /ที่ดินเขตป่าอุดมสมบูรณ์ /แหล่งน้ำสาธารณะ ไปออกเอกสารสิทธิ์แก่นายทุน ทั้งที่เป็นที่ดินให้เกษตรกรใช้ประโยชน์ทำกินตามแนวทางการปฏิรูปที่ดิน แต่กลับไม่ได้รับสิทธิ์ และถูกหลอกให้ชำระค่าธรรมเนียมการออกเอกสารสิทธิ์ รวมถึงถูกเจ้าหน้าที่รัฐข่มขู่ต่างๆ และยังกระทำการเป็นพยานฟ้องร้องให้กับฝ่ายนายทุนอีกด้วย จึงต้องการมาร้องขอความเป็นธรรมเพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ และเกษตรกร ทั้งนี้ นายสุรชัย ได้ยืนยันจะเร่งดำเนินการติดตามตรวจสอบต่อไป
นอกจากนี้ นายสุรชัย ยังกล่าวถึงกระแส สนช. เสนอชื่อตนเป็นกรรมการยกร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)ว่า เกรงว่าตนจะไม่มีเวลาให้ เนื่องจากภารกิจของ สนช.มีจำนวนมาก ซึ่งยังมีสมาชิก สนช. อีกหลายคน ที่มีความรู้ความสามารถ เป็นทั้งเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา และอดีตเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เคยมีประสบการณ์ร่างรัฐธรรมนูญมาแล้ว ซึ่งเหมาะสมมาทำหน้าที่ กรธ. แต่อย่านำประธาน และรองประธานสนช. ทั้งสองคนไปเลย เพราะมีภารกิจด้านนิติบัญญัติจำนวนมาก
ส่วนที่มีรายชื่อ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ เป็นประธานกรธ.นั้น ก็เห็นว่ามีความเหมาะสม แต่ต้องขึ้นอยู่กับการตัดสินใจส่วนตัว เพราะล่าสุดทราบว่า นายมีชัย มีภารกิจที่ต่างประเทศ

** เตือน"ปู"ไม่อยู่ในสถานะจ้อร่างรธน.

นายบุญยอด สุขถิ่นไทย อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีสื่อมวลชนไปสอบถามน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ถึงกระบวนการร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ซึ่งจะเป็นหน้าที่ของกรธ. ว่า ต้องขอเตือนไปยัง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าไม่อยู่ในฐานะที่จะให้ความเห็นทางการเมืองในเวลานี้ เพราะว่าถูกถอดถอนจากตำแหน่ง โดยสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นผู้ถอดถอน กรณีที่ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ทำให้ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองเป็นเวลา 5 ปี รวมทั้งถูกศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้มีความผิด กรณีที่มีการโยกย้าย นายถวิล เปลี่ยนศรี โดยใช้สถานะการเป็นนายกรัฐมนตรี เข้าไปก้าวก่าย แทรกแซง การแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ เพื่อประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ ดังนั้นในเวลานี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ จึงไม่มีสิทธิใดๆ ที่จะออกมาให้ความเห็น หรือเป็นแหล่งข่าวได้
"ผมขอเตือนสื่อมวลชนว่า ควรใช้วิจารณญาณในการเลือกบุคคลที่จะสัมภาษณ์ให้ความเห็นในเรื่องต่างๆ ซึ่งจะเห็นว่า การที่สื่อยังแยกแยะไม่ออกนั้น ทำให้จำเป็นต้องมีการปฏิรูป เพื่อให้สื่อสามารถแยกแยะ ความผิดถูก ความดีความชั่ว เพื่อให้มีการนำเสนอในสิ่งที่ควรเสนอ อีกทั้ง คนในสังคมต้องเรียนรู้ว่าไม่ควรที่จะสนใจหรือยุ่งเกี่ยวกับคนที่กระทำผิด โดยจะต้องมีมาตรการต่อต้านทางสังคมร่วมกัน เพื่อให้ทุกคนปฏิบัติตามกฎหมายด้วย" นายบุญยอด กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น