00 สังเกตหรือไม่ว่าในช่วงสัปดาห์สองสัปดาห์ที่ผ่านมา ทั้ง ทักษิณ ชินวัตร คนในครอบครัว และเครือข่ายลิ่วล้อ กำลังโดนทั้งกม.จัดหนัก จัดเต็มอย่างต่อเนื่องและเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ และถัดมาก็มีเสียงไล่บี้ตามหลังมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช. แทบจะเป็นรายวัน แน่นอนว่ามองเผินๆ เหมือนกับการกลั่นแกล้ง แต่หากติดตามมาตลอด หรือมองกันแบบรู้ทันจะพบว่านี่คือการ "บังคับใช้กฎหมาย" กับคนที่ทำผิดที่มีอิทธิพลที่พยายามทำตัวเป็น"อภิสิทธิ์ชน" อยู่เหนือคนอื่นมานานนับสิบปีต่างหาก
00 แน่นอนว่า การดำเนินการทางกฎหมายภายใต้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจมองได้เหมือนกันว่ามี "การเมือง" เข้ามาเกี่ยว แต่มันก็ช่วยไม่ได้ ในเมื่อมีการทำผิด ก็ต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด หรือใครทำให้รัฐเสียหาย เสียงบประมาณ ก็ต้องไล่เบี้ยเอาผิด เรียกค่าเสียหายคืนมา หากบอกว่านี่คือการเมือง ก็ใช่แล้วไง เพราะที่ผ่านมาความเสียหายได้เกิดขึ้นจริง จำคุกจริง แต่ใช้วิธีตุกติกหลบหนี และที่ผ่านมาแทบทุกรัฐบาลก็นิ่งเฉยไม่เคยดำเนินการกับเรื่องเหล่านี้ อ้างแต่เรื่อง"ปรองดอง" มากลบเกลื่อน จนเป็นสาเหตุของความวุ่นวายในบ้านเมืองนี้มาตลอด
00 อย่างไรก็ดี หากพิจารณาสาเหตุของ "แรงขับดัน" ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในคราวนี้ ส่วนสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ ถึงเวลาที่จะต้อง"ตัดสินใจให้เด็ดขาด" กันแล้ว เพราะหากไม่ทำก็เสียแรงศรัทธา เสียมวลชนที่สนับสนุน ซึ่งเมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้วย่อมรู้สึกได้ฝ่ายไหนเหนือกว่า มีพลังมากกว่า แต่สำคัญเหนืออื่นใดก็คือ ทั้งตัว ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่าย มันทำผิดกฎหมาย ถูกสั่งจำคุก จนถูกถอดยศ ไม่เชื่อก็ลองพิสูจน์ง่ายๆว่า พวกไหนที่หนีคดี พวกไหนที่ทุจริต พวกไหนที่หมิ่นสถาบันฯ พวกไหนที่เผาศาลากลาง พวกไหนที่ใช้อาวุธสงครามฆ่าฝ่ายตรงข้าม ถามว่าฝ่ายอื่นมีแบบนี้มั๊ย ก็อาจมีบ้างเช่น ฝ่าฝืนคำสั่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ความมั่นคง ข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการในช่วงการชุมนุม แต่พวกเขาก็ยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ว่ากันไป
00 ล่าสุด จากคำพูดสองสามวันก่อนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ก็เร่งรัดให้เอาผิดกับคนที่สร้างความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว นอกเหนือจากคดีอาญาที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังถูกดำเนินคดีในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขณะเดียวกันยังชี้ให้เห็นว่า โครงการ "รถคันแรก" พาชาติเจ๊ง พร้อมกับเหน็บแนมให้เห็นว่า เป็นผลงานของ "นายกฯโพย" ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ดีแต่อ่านบทที่มีคนเขียนไปให้ แต่ก็ยังดันอ่านผิดๆ ถูกๆ อีก เรียกว่าไม่ให้ราคากันเลย
00 ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เคยพูดชัดว่า อย่าเอาเขาไปเทียบกับคนทำผิดกฎหมาย คนโกง เพราะคนละระดับกัน และยืนยันว่าไม่ปรองดองกับคนพวกนี้ ทุกอย่างต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ซึ่งหากเชื่อมโยงปะติดปะต่อ ก็ย่อมหมายถึง ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเครือข่ายที่กำลังถูกรื้อฟื้น ดำเนินคดีกันถ้วนหน้า ไม่เว้นแม้แต่ "ลูกโอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร ที่กำลังโดนดีเอสไอ และปปง. ได้รับคำสั่งให้ติดตามเส้นทางการเงินในคดีปล่อยกู้ของแบงก์กรุงไทย กว่าเก้าพันล้านบาท ว่าเกี่ยวข้องกับคดี "ฟอกเงิน" ด้วยหรือไม่ ในสเต็ปแรกภายใน 1 เดือน ก็น่าจะรู้ผลว่าเส้นทางการเงินเดินไปถึงหรือไม่ โปรดติดตาม นี่ยังไม่นับพวกลิ่วล้อ ที่ "ปากดี" โดนริบพาสปอร์ตอีกต่างหาก ก็โปรดติดตาม !!
00 ปรับ ครม.ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาฯมีการเปลี่ยนแปลงเจ้ากระทรวง รวมทั้ง รมช.อีกหนึ่งราย แต่สำหรับ “บิ๊กน้อย” พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ยังคงเหนียวแน่นกับเก้าอี้ รมช.ศึกษาฯกับภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้เป็นมือปราบคอร์รัปชั่นในกระทรวงเสมา ล่าสุดประชุมคณะทำงานวาง 5 แผนจัดหนักปราบโกงในกระทรวง เน้นเห็นผลเร็วภายใน 3 เดือนต้องได้ 50% และ 75% ใน 6 เดือน ร่วมส่งใจเชียร์ “บิ๊กน้อย” ปราบโกงให้สูญพันธุ์ด้วย สาธุ...
00 แน่นอนว่า การดำเนินการทางกฎหมายภายใต้รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อาจมองได้เหมือนกันว่ามี "การเมือง" เข้ามาเกี่ยว แต่มันก็ช่วยไม่ได้ ในเมื่อมีการทำผิด ก็ต้องดำเนินการอย่างเคร่งครัด หรือใครทำให้รัฐเสียหาย เสียงบประมาณ ก็ต้องไล่เบี้ยเอาผิด เรียกค่าเสียหายคืนมา หากบอกว่านี่คือการเมือง ก็ใช่แล้วไง เพราะที่ผ่านมาความเสียหายได้เกิดขึ้นจริง จำคุกจริง แต่ใช้วิธีตุกติกหลบหนี และที่ผ่านมาแทบทุกรัฐบาลก็นิ่งเฉยไม่เคยดำเนินการกับเรื่องเหล่านี้ อ้างแต่เรื่อง"ปรองดอง" มากลบเกลื่อน จนเป็นสาเหตุของความวุ่นวายในบ้านเมืองนี้มาตลอด
00 อย่างไรก็ดี หากพิจารณาสาเหตุของ "แรงขับดัน" ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในคราวนี้ ส่วนสำคัญอย่างหนึ่งก็คือ ถึงเวลาที่จะต้อง"ตัดสินใจให้เด็ดขาด" กันแล้ว เพราะหากไม่ทำก็เสียแรงศรัทธา เสียมวลชนที่สนับสนุน ซึ่งเมื่อชั่งน้ำหนักดูแล้วย่อมรู้สึกได้ฝ่ายไหนเหนือกว่า มีพลังมากกว่า แต่สำคัญเหนืออื่นใดก็คือ ทั้งตัว ทักษิณ ชินวัตร และเครือข่าย มันทำผิดกฎหมาย ถูกสั่งจำคุก จนถูกถอดยศ ไม่เชื่อก็ลองพิสูจน์ง่ายๆว่า พวกไหนที่หนีคดี พวกไหนที่ทุจริต พวกไหนที่หมิ่นสถาบันฯ พวกไหนที่เผาศาลากลาง พวกไหนที่ใช้อาวุธสงครามฆ่าฝ่ายตรงข้าม ถามว่าฝ่ายอื่นมีแบบนี้มั๊ย ก็อาจมีบ้างเช่น ฝ่าฝืนคำสั่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ร.บ.ความมั่นคง ข้อหาบุกรุกสถานที่ราชการในช่วงการชุมนุม แต่พวกเขาก็ยินดีเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ว่ากันไป
00 ล่าสุด จากคำพูดสองสามวันก่อนของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ก็เร่งรัดให้เอาผิดกับคนที่สร้างความเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว นอกเหนือจากคดีอาญาที่ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังถูกดำเนินคดีในศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ขณะเดียวกันยังชี้ให้เห็นว่า โครงการ "รถคันแรก" พาชาติเจ๊ง พร้อมกับเหน็บแนมให้เห็นว่า เป็นผลงานของ "นายกฯโพย" ที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไร ดีแต่อ่านบทที่มีคนเขียนไปให้ แต่ก็ยังดันอ่านผิดๆ ถูกๆ อีก เรียกว่าไม่ให้ราคากันเลย
00 ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ก็เคยพูดชัดว่า อย่าเอาเขาไปเทียบกับคนทำผิดกฎหมาย คนโกง เพราะคนละระดับกัน และยืนยันว่าไม่ปรองดองกับคนพวกนี้ ทุกอย่างต้องว่ากันไปตามกฎหมาย ซึ่งหากเชื่อมโยงปะติดปะต่อ ก็ย่อมหมายถึง ทักษิณ ชินวัตร ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร และเครือข่ายที่กำลังถูกรื้อฟื้น ดำเนินคดีกันถ้วนหน้า ไม่เว้นแม้แต่ "ลูกโอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร ที่กำลังโดนดีเอสไอ และปปง. ได้รับคำสั่งให้ติดตามเส้นทางการเงินในคดีปล่อยกู้ของแบงก์กรุงไทย กว่าเก้าพันล้านบาท ว่าเกี่ยวข้องกับคดี "ฟอกเงิน" ด้วยหรือไม่ ในสเต็ปแรกภายใน 1 เดือน ก็น่าจะรู้ผลว่าเส้นทางการเงินเดินไปถึงหรือไม่ โปรดติดตาม นี่ยังไม่นับพวกลิ่วล้อ ที่ "ปากดี" โดนริบพาสปอร์ตอีกต่างหาก ก็โปรดติดตาม !!
00 ปรับ ครม.ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาฯมีการเปลี่ยนแปลงเจ้ากระทรวง รวมทั้ง รมช.อีกหนึ่งราย แต่สำหรับ “บิ๊กน้อย” พล.อ.สุรเชษฐ์ ชัยวงศ์ ยังคงเหนียวแน่นกับเก้าอี้ รมช.ศึกษาฯกับภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้เป็นมือปราบคอร์รัปชั่นในกระทรวงเสมา ล่าสุดประชุมคณะทำงานวาง 5 แผนจัดหนักปราบโกงในกระทรวง เน้นเห็นผลเร็วภายใน 3 เดือนต้องได้ 50% และ 75% ใน 6 เดือน ร่วมส่งใจเชียร์ “บิ๊กน้อย” ปราบโกงให้สูญพันธุ์ด้วย สาธุ...