เกาะกระแส
00 จะเรียกว่าในช่วงนี้ทุกอย่างไม่เป็นใจให้กับครอบครัวและเครือข่ายของ ทักษิณ ชินวัตร แต่นาทีนี้มาเน้นเฉพาะเรื่องคดีความกันก่อน เริ่มจาก ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร น้องสาวที่มีตัวตนอยู่ในประเทศนี้ก่อน เพราะล่าสุดเมื่อวันที่ 31 ส.ค. มีกำหนดไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองนัดแรก ในคดีปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ปล่อยปละละเลยทำให้โครงการรับจำนำข้าวเกิดความเสียหายกว่าห้าแสนล้านบาท น่าสนใจก็คือ เธอได้มอบหมายให้ทนายความยื่นคำร้อง ขอให้ศาลรอการพิจารณาคดี เนื่องจากเห็นว่าเป็นอำนาจการพิจารณาของศาลปกครอง ความหมายก็คือ เห็นว่าศาลฎีกาฯ ไม่มีอำนาจในการพิจารณาคดีนี้ แต่ศาลฯ ยกคำร้อง และอีกเรื่องก็คือ ศาลได้ยกคำร้องกรณีที่อ้างว่าฝ่ายโจทก์ คือฝ่ายอัยการเพิ่มพยานเอกสารและบุคคลโดยมิชอบ แต่ศาลก็ยกคำร้องอีก แล้วให้ทั้งสองฝ่ายตรวจพยานหลักฐานกันทุกวันพุธ แล้วนัดกำหนดวันไต่สวนพยานในวันที่ 29 ต.ค. ที่จะถึงนี้
00 ถือว่าคดีทุจริตจำนำข้าว สำหรับ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เริ่มเดินเครื่อง แม้ว่าในช่วงแรกๆ อาจดูอืดๆ ไปบ้าง แต่ถึงขั้นนี้แล้วก็มีช่วงเวลากำหนดกันแล้ว มันน่าหวาดเสียว และยิ่งเบิกฤกษ์ด้วยการถูกศาลฎีกาฯ ยกสองคำร้องรวด มันก็ต้อง "หนาว" อยู่แล้ว เพราะแม้แต่เจ้าตัวและทนายความ ยังออกปากว่า "หนักใจ" มันก็ชัดอยู่แล้ว และที่สำคัญเมื่อศาลยกคำร้องไม่ให้โอนไปพิจารณาของศาลปกครอง ก็เป็นอันว่ากระบวนการ "ยื้อ" เพื่อรอ "จุดเปลี่ยน" ก็สะดุดกึกไปทันที !!
00 ไม่อยากพูดมาก เอาเป็นว่ากระบวนการทางศาลเดินเครื่องแล้ว และเมื่อเป็นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มันก็ใช้เวลาไม่นานเกินรอ แค่หลักปี ไม่น่าจะเกินสองปี หรืออาจไม่ถึงปีก็ได้ และที่น่าสนใจก็ต้องจากนั้น ยังมีคดีแพ่งที่กำลังต้องตามติดมาในไม่ช้า แม้ว่ายังอืดอาด แต่ถ้าไม่ฟ้องนี่ถือว่ารัฐบาลต้องโดนชาวบ้านเฉ่งยับแน่ ดังนั้น ถึงอย่างไรก็เชื่อว่าต้องฟ้องวันยังค่ำ
00 เมื่อพูดถึงคนในครอบครัวนี้ ก็ต้องพูดถึงคดีปล่อยกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กับกลุ่มกฤษดามหานคร กว่าเก้าพันล้านบาท ที่ศาลฎีกาฯ ได้พิพากษาจำคุกผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งอดีตเจ้าหน้าที่แบงก์ และเอกชน พร้อมให้ชดใช้ค่าเสียหายกันกราวดรูดไปแล้ว ยกเว้น ทักษิณ ชินวัตร ที่ยังหลบหนีลอยนวลอยู่ โดยศาลจำหน่ายคดีชั่วคราว ซึ่งนี่คือ "ชนัก" ที่ปักหลังแบบที่เอาออกยากเสียด้วย แต่ที่ต้องจับตาก็คือ "ลูกโอ๊ค" พานทองแท้ ชินวัตร จะมีชะตากรรมอย่างไร เพราะแม้ว่าคราวก่อนจะรอดบ่วงแหไปได้ โดยอัยการอ้างว่าเขาไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ ไม่อยู่ในอำนาจของป.ป.ช. จะฟ้องได้ แต่ที่ผ่านมาทางดีเอสไอ ก็ได้รับพิจารณาเป็นคดีพิเศษในฐาน "ฟอกเงิน" ซึ่งล่าสุดทาง รมว.ยุติธรรม พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา เผยว่า ได้รับรายงานจากอธิบดี ดีเอสไอ สุวณา สุวรรณจูฑะ ว่ากำลังอยู่ระหว่างการคัดสำเนาสำนวนคดีปล่อยกู้แบงก์กรุงไทยจากศาลฎีกาฯ โดยในวันที่ 7 ก.ย. จะมีการประชุมร่วมกัน และคาดว่าภายในหนึ่งเดือน ก็สามารถสั่งฟ้องได้ นี่ก็หนาวอีก และเป็นไปได้ว่า คราวนี้อาจมีรายการขยายผลไปไกลกว่าเดิมได้อีกมาก !!
00 คดีลอบวางระเบิดที่แยกราชประสงค์ และสาทร ถือว่าคืบหน้าไปเรื่อยๆ มีการขยายผลออกหมายจับเพิ่มเติม และแม้ว่าจะพยายามเลี่ยงไม่ให้เอ่ยถึงตุรกี อุยกูร์ แต่ไปๆ มาๆ ก็วนอยู่กับประเทศและเชื้อชาติเหล่านี้ ทั้งต่างชาติที่ถูกจับกุมแม้ยังไม่ระบุสัญชาติ แต่ก็เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาเต็มที หรือแม้แต่ผู้ต้องสงสัยเป็นหญิงที่ถูกออกหมายจับเป็นคนไทย ก็มีสามีเป็นชาวตุรกี และออกเดินทางไปอยู่กับสามีที่เป็นชาวตุรกีที่นั่นแล้ว ที่น่าคิดก็คือ คำพูดของ นายกฯ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา บอกอ้อมๆว่า อาจเกี่ยวข้องกับพวก "ค้ามนุษย์" มันก็พอเดาออก แต่ที่น่าติดตามก็คือ บริเวณอพาร์ตเมนต์ ที่เข้าตรวจค้นล้วนอยู่ในเขตมีนบุรี หนองจอก ใกล้เคียงกับเหตุระเบิดในช่วงปี 53 พิกล !!