วานนี้ (10 ก.ย.) ที่วิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร (วปอ.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวในพิธีปิดหลักสูตรวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร รุ่นที่ 57 ว่า ขอทุกคนได้นำสิ่งต่างที่ได้รับจากการศึกษาในหลักสูตรนี้ไปใช้ทั้งในภาครัฐ และภาคเอกชน รวมทั้งด้านการเมืองด้วย จากการที่ได้อยู่ร่วมกัน 1 ปีนั้น สิ่งที่ได้รับคือ ความรัก ความสามัคคีในรุ่น ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราจะได้นำสร้างประโยชน์ให้ประเทศชาติในหลายเรื่อง
ปัจจุบันประเทศชาติอยู่ในระยะเปลี่ยนผ่าน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าให้ได้ และในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้ว ประเทศเรายังมีความล้าหลังไม่มีความสามัคคี มีแต่ความขัดแย้ง ตนคิดว่าไม่สามารถเดินไปข้างหน้า หวังว่าทุกท่านที่มีความรู้ ความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา ต้องช่วยกันนำพาประเทศ เพราะไม่มีใครช่วยเราได้ นอกจากพวกเราที่ต้องช่วยกัน เพื่อให้ประเทศของเราเดินไปข้างหน้า ในอดีต 10 ประเทศในอาเซียน เราเป็นผู้นำเกือบทุกเรื่อง แต่ปัจจุบันประเทศที่มีพลเมือง และประชากรน้อยแค่ไม่กี่ล้าน กลับสามารถเป็นผู้นำในอาเซียน เพราะความร่วมมือร่วมใจที่จะทำงานร่วมกันสร้างสรรค์ในทุกเรื่อง
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลพยายามที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้เชื่อมต่อกับประเทศในอาเซียนให้ได้ แต่ก็จะมีปัญหาในทุกเรื่อง ทั้งปัญหาการจัดซื้อจัดหา ความร่วมมือ ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถเดินต่อไปได้ โดยเฉพาะข้อจำกัดเรื่องกฎหมายที่ทำให้เราไม่ส่ามารถเปลี่ยนผ่านในหลายๆ เรื่องได้ รัฐบาลยืนยันว่า เราพยายามทุกเรื่อง ทั้งเรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน ที่ผ่านมารัฐบาลได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหา จนไทยได้เลื่อนอันดับดีขึ้นเรื่อยๆ เราหวังอย่างยิ่งว่า พวกท่านเป็นกำลังที่สำคัญในช่วงท้ายของการรับราชการในตำแหน่งที่สำคัญ ในการที่จะนำพาประเทศไปให้ได้ เพราะเราต้องการความร่วมมือทั้งฝ่ายการเมือง และข้าราชการประจำ รวมถึงภาคเอกชน ต้องคิดถึงว่าเราทำทุกวันนี้คือการทำให้กับประเทศชาติ และประชาชน
"ถ้าเปลี่ยนผ่านไปไม่ได้ อนาคตประเทศเราจะเป็นประเทศที่ล้าหลังที่สุดในอาเซียน ผมยืนยันอย่างนั้น เพราะฉะนั้นปัญหาเรื่องความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจกัน เราต้องแก้ไขให้ได้ คิดต่างได้ แต่ต้องร่วมมือกันให้ได้ เพราะความคิดต่าง เป็นเรื่องธรรมดา จะให้คนคิดเหมือนกันให้ได้ ผมขอฝากไว้กันทุกคนในประเทศนี้ ต้องช่วยกันเพื่อนำพาประเทศนี้ไปให้ได้ ถ้าไม่ผ่านในห้วง 2 ปีข้างหน้านั้น ท่านจะเห็นอนาคตของประเทศชัดเจน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้า ไม่ใช่ประเทศไทยประเทศเดียว ทั่วโลกก็ลำบากเหมือนกันทั้งนั้น ถ้าเราไม่ช่วย หรือพัฒนากันอย่างแท้จริง ไม่สามัคคีกัน ปัญหาต่างๆ เราจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จึงอยากฝากทุกท่านที่ถือว่าเป็นเพชรน้ำเอกของทุกสาขาอาชีพไว้ด้วยในการร่วมมือครั้งนี้" พล.อ.ประวิตร
ปัจจุบันประเทศชาติอยู่ในระยะเปลี่ยนผ่าน ซึ่งมีความสำคัญอย่างยิ่งในการทำให้ประเทศเดินไปข้างหน้าให้ได้ และในช่วงปลายปีนี้ถึงต้นปีหน้า จะเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแล้ว ประเทศเรายังมีความล้าหลังไม่มีความสามัคคี มีแต่ความขัดแย้ง ตนคิดว่าไม่สามารถเดินไปข้างหน้า หวังว่าทุกท่านที่มีความรู้ ความสามารถ ไม่ว่าจะเป็นด้านความมั่นคง เศรษฐกิจ สังคมจิตวิทยา ต้องช่วยกันนำพาประเทศ เพราะไม่มีใครช่วยเราได้ นอกจากพวกเราที่ต้องช่วยกัน เพื่อให้ประเทศของเราเดินไปข้างหน้า ในอดีต 10 ประเทศในอาเซียน เราเป็นผู้นำเกือบทุกเรื่อง แต่ปัจจุบันประเทศที่มีพลเมือง และประชากรน้อยแค่ไม่กี่ล้าน กลับสามารถเป็นผู้นำในอาเซียน เพราะความร่วมมือร่วมใจที่จะทำงานร่วมกันสร้างสรรค์ในทุกเรื่อง
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า รัฐบาลพยายามที่จะสร้างโครงสร้างพื้นฐานให้เชื่อมต่อกับประเทศในอาเซียนให้ได้ แต่ก็จะมีปัญหาในทุกเรื่อง ทั้งปัญหาการจัดซื้อจัดหา ความร่วมมือ ซึ่งจะทำให้ไม่สามารถเดินต่อไปได้ โดยเฉพาะข้อจำกัดเรื่องกฎหมายที่ทำให้เราไม่ส่ามารถเปลี่ยนผ่านในหลายๆ เรื่องได้ รัฐบาลยืนยันว่า เราพยายามทุกเรื่อง ทั้งเรื่องความมั่นคง เศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน ที่ผ่านมารัฐบาลได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหา จนไทยได้เลื่อนอันดับดีขึ้นเรื่อยๆ เราหวังอย่างยิ่งว่า พวกท่านเป็นกำลังที่สำคัญในช่วงท้ายของการรับราชการในตำแหน่งที่สำคัญ ในการที่จะนำพาประเทศไปให้ได้ เพราะเราต้องการความร่วมมือทั้งฝ่ายการเมือง และข้าราชการประจำ รวมถึงภาคเอกชน ต้องคิดถึงว่าเราทำทุกวันนี้คือการทำให้กับประเทศชาติ และประชาชน
"ถ้าเปลี่ยนผ่านไปไม่ได้ อนาคตประเทศเราจะเป็นประเทศที่ล้าหลังที่สุดในอาเซียน ผมยืนยันอย่างนั้น เพราะฉะนั้นปัญหาเรื่องความขัดแย้ง ความไม่เข้าใจกัน เราต้องแก้ไขให้ได้ คิดต่างได้ แต่ต้องร่วมมือกันให้ได้ เพราะความคิดต่าง เป็นเรื่องธรรมดา จะให้คนคิดเหมือนกันให้ได้ ผมขอฝากไว้กันทุกคนในประเทศนี้ ต้องช่วยกันเพื่อนำพาประเทศนี้ไปให้ได้ ถ้าไม่ผ่านในห้วง 2 ปีข้างหน้านั้น ท่านจะเห็นอนาคตของประเทศชัดเจน โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่รุมเร้า ไม่ใช่ประเทศไทยประเทศเดียว ทั่วโลกก็ลำบากเหมือนกันทั้งนั้น ถ้าเราไม่ช่วย หรือพัฒนากันอย่างแท้จริง ไม่สามัคคีกัน ปัญหาต่างๆ เราจะไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ จึงอยากฝากทุกท่านที่ถือว่าเป็นเพชรน้ำเอกของทุกสาขาอาชีพไว้ด้วยในการร่วมมือครั้งนี้" พล.อ.ประวิตร